รีวิว twilight 2012 Part 2
และแล้วก็มาถึงบทสรุปของมหากาพย์แวมไพร์ ทไวไลท์กันแล้วนะคะ ซึ่งในภาคนี้มีหลายอย่างเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเปลี่ยนการเปลี่ยนผ่านจากวัยเรียนเป็นวัยผู้ใหญ่ที่ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นของสองตัวละครหลักอย่างเบลล่าและเอ็ดเวิร์ด และแน่นอนว่าความสัมพันธ์รักสามเศร้าก็ยังอยู่ยงคงกระพันเช่นเดิม
แต่ในภาคนี้เราจะได้รู้ความจริงกันแล้วค่ะว่าทำไมเจคอบถึงได้รักและหวงแหนเบลล่ามากขนาดนี้ แล้วทำไมเบลล่าที่ดูรักเอ็ดเวิร์ดมาก ๆ ถึงได้หวั่นไหวกับเจคอบได้อย่างง่ายดาย และตัวละครที่เข้ามาสร้างสีสัน คงไม่พ้นกุญแจสำคัญอย่าง “เรเนสเม่” เด็กสาวหน้าตางดงามที่สวยราวกับตุ๊กตาซึ่งแสดงโดยแม่หนูน้อย แมคเคนซี่ ฟอย (Mackenzie Foy) ต้องขอชื่นชมเลยว่าทีมแคสเลือกนักแสดงได้ดีมาก ๆ เพราะเธอมีหน้าตาน่ารักน่าชังและละม้ายคล้ายคลึงกับคริสเตนและโรเบิร์ตจนเราเกือบเชื่อว่าเธอเป็นลูกสาวของพวกเขาจริง ๆ ดูหนัง
เบลล่า (คริสเตน สจ็วต) ได้กลายเป็นแวมไพร์เต็มตัว พร้อมทั้งให้กำเนิดลูกสาว เรเนสเม่ (แมคเคนซี่ ฟอย) เด็กพันธุ์ผสมที่มีการเติบโตที่รวดเร็ว จนทำให้ ตกเป็นเป้าหมายในการลงทัณฑ์จากกลุ่มแวมไพร์ราชวงศ์โวลตูรี่ ในขณะเดียวกัน เจคอบ (เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์) หมาป่าเพื่อนรักของเบลล่า ได้อิมปรินท์ผูกจิต กับ เรเนสเม่ และนำฝูงหมาป่าแห่งเมืองฟอร์คสมาร่วมกับกองกำลังของกลุ่มพันธมิตรแวมไพร์แห่งครอบครัวคัลเลน เพื่อทำสู้ในศึกสุดท้ายกับ โวลตูรี่ เพื่อ ปกป้อง เรเนสเม่ …
Breaking Dawn (เบรคกิ้ง ดอว์น) เป็นหนังสือเล่มที่ 4 ของวรรณกรรม “แวมไพร์ ทไวไลท์” วางจำหน่ายในปี 2008 และขายได้ถึง 1.3 ล้านเล่ม ในเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง ซึ่งก็เป็นการเปิดตัวขายหนังสือในวันแรกที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยติดอันดับหนังสือขายดีของ USA Today (ยูเอสเอ ทูเดย์) ถึง 58 สัปดาห์ติดต่อกัน และในปัจจุบันก็ขายได้แล้วกว่า 15 ล้านเล่มทั่วโลก
รีวิว twilight 2012 Part 2 รีวิวหนังฝรั่ง
ผ่านกันมาหลายภาคแล้ว จนมาถึงครึ่งแรกของนิยายเล่มสุดท้าย ‘The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part I’ หลังจากแวมไพร์หนุ่มเอ็ดเวิร์ดสมรสรมรักกับมนุษย์สาวนามเบลลา
จนเธอคลอดบุตรที่เป็นลูกครึ่งออกมา แต่นั่นก็ทำให้เธอต้องกลายเป็นแวมไพร์ (ด้วยเหตุผลใดต้องไปดูเอาเอง) และเรื่องราวก็มาดำเนินต่อในภาคสรุปนี้นั่นแล้ว
จากมนุษย์ เบลลากลายเป็นแวมไพร์สาวที่สดใหม่และปรับตัวกับพละกำลังที่เพิ่มขึ้นมามากมายหลายเท่า อีกทั้งก็ยังต้องฝึกควบคุมจิตให้รับมือกับการไม่กินเลือดมนุษย์ตามขนบแวมไพร์ตระกูลคัลเลน แต่ก็คงไม่เท่ากับที่เธอต้องเจอกับภัยจากเหล่าโวลตูรี่ แวมไพร์ระดับชั้นราชาที่มองว่า ลูกของเธอเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้ และควรจะกำจัดทิ้งเสีย ซึ่งไม่มีทางที่เธอและคัลเลนจะยินยอม
รีวิว twilight 2012 Part 2 Breaking Dawn
เป็นครั้งแรกที่ได้มานั่งชมภาพยนตร์บนเก้าอี้หนังปรับความเอียงได้ มีผ้าห่มให้เรียบร้อย โรงบางกอกแอร์เวย์นี่มันบูติกจริงๆ ดูหนังออนไลน์
ครึ่งแรกของหนัง อาจจะดูไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก แต่ก็พอจะดูได้โดยไม่ออกอาการง่วงเหงา เป็นการปูทางสู่ฉากที่ตื่นเต้นกว่าในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งพบว่ามีบางอย่างที่เราไม่คาดหวังโผล่ขึ้นมาให้ได้แปลกใจ สิ่งที่ภาคนี้เป็นก็คือ การได้ลุ้นไปกับเรื่องราวที่เข้มข้นของการสืบสวน ต่อเนื่องไปถึงการเผชิญหน้า ซึ่งดูจะเป็นปกติของหนังหลายภาคที่ภาคจบมักจะทำออกมาในแนวนี้
หลายคนชื่นชอบภาคสรุปของ The Twilight Saga มากกว่าหลายๆ ภาคที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีภาคต่อไปให้ติดตามเสียแล้วนี่สิ ภาคนี้ตัวละครที่เข้ามาสร้างสีสัน คงไม่พ้น “เรเนสเม่” ที่แสดงโดยแม่หนูน้อย Mackenzie Foy เธอน่ารักจริงๆ ไม่รู้ว่าโตขึ้นเธอจะน่ารักแบบนี้ไหม
ต้องยอมรับว่าซีรีย์แวมไพร์ ทไวไลท์เป็นอีกหนึ่งหนังแฟนตาซีที่ช่วยเติมเต็มจินตนาการของเราได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้จะไม่มีการร่ายคาถาวิเศษแบบหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่แวมไพร์ ทไวไลท์ก็แสดงให้เราเห็นถึงพลังของความรักและมิตรภาพ ทำให้เราเห็นว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามแค่ไหน ไม่ใช่แค่ความรักระหว่างเอ็ดเวิร์ดและเบลล่า แต่รวมถึงความรักระหว่างครอบครัวคัลเลนและเผ่าหมาป่าควิลยูตอีกด้วย
หลังจาก เบลล่า (คริสเตน สจ๊วต) ใช้เวลาปรับตัวกับชีวิตใหม่ในการเป็นแวมไพร์ กลุ่มแวมไพร์โวลตูรี่ก็แสดงความต้องการตัว เรเนสเม่ (แม็คเคนซี่ ฟอย) ลูกสาวของ เอ็ดเวิร์ด (โรเบิร์ต แพททินสัน) และ เบลล่า มาครอบครอง ครอบครัวคัลเลน จึงขอความช่วยเหลือจากกลุ่มแวมไพร์พันธมิตรทั่วโลก รวมถึง เจค็อบ (เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์) ที่ผูกวิญญาณกับ เรเนสเม่ แล้ว เพื่อร่วมต่อสู้ในสงครามครั้งสุดท้ายกับกลุ่มแวมไพร์โวลตูรี่ ที่จะเป็นบทสรุปของเรื่องนี้
ผลลัพธ์ที่ออกมาในด้านของฉากแอ็คชั่นตอนท้ายเรื่อง จึงค่อนข้างน่าพอใจ และถือว่าทำเอาออกมาเอาใจฝ่ายของ ผู้ชาย มากพอสมควร ด้วยการที่ฉากแอ็คชั่นเต็มไปด้วยการต่อสู้อันหนักแน่น และ ฉูดฉาด ด้วยฉากโหดๆ จนทำให้เราหลายคนอาจจะลืมไปได้ว่า เรากำลังดู ทไวไลท์ อยู่ ผสมผสานไปกับการที่ภาคนี้ ผู้กำกับ บิล คอนดอน คงจะพยายามให้คนดูสนุกกับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายมากที่สุด จึงตัดฉากรัก โรแมนติค ที่เหล่าผู้ชายเกลียดออกไปจนเหลือเพียงแค่ 10% ของเรื่อง จึงเป็นอีกข้อดีนึงที่สามารถทำให้ฉากแอ็คชั่นตอนท้ายเรื่องสนุก เพราะตลอดเวลา 115 นาทีของตัวหนังถือว่าปูเรื่องราวเพื่อนำไปสู่ตอนไคล์แมกซ์ได้ค่อนข้างลื่นไหล และไม่น่าเบื่อเท่าภาคอื่นๆ พร้อมทั้งตัวหนังยังมีการพยายามพูดถึงเรื่อง การรับวัฒนธรรมแปลกใหม่ และ ความเชื่อ ของสิ่งมีชีวิต ดูหนัง 4k
ผ่านกลุ่ม วัลโตรี ในท้ายเรื่องได้อย่างไม่ยัดเยียด และ เป็นธรรมชาติอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเสียหลักของหนังชุดนี้ ที่ยังไงก็ยังแก้ไม่หายจนหนังเขาปิดชุดวรรณกรรมกันไปเรียบร้อยแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นด้านของนักแสดง ที่ไม่ว่าจะเป็น คริสเต็น สจ๊วต, โรเบิร์ต แพททินสัน และ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ ที่ดูยังไงก็ยังเหมือนกันกับคนดูกำลังดู ทไวไลท์ ภาค 1 ที่เหล่านักแสดงยังเป็นหน้าใหม่ และเล่นค่อนข้างแข็งกันอยู่ แถมการที่หนังใช้เวลาการเล่าเรื่องในช่วงแรกมากพอสมควร พร้อมทั้งตัวละคร เบลล่า ยังเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญอยู่ ก็อาจจะยังเป็นบางเหตุผลที่ทำให้คุณผู้ชายบางคนยังค่อนข้างไม่ชอบ ทไวไลท์ ในภาคนี้กันอยู่
แต่สำหรับตัวผมแล้ว ส่วนตัวผมกลับค่อนข้างพอใจ และเป็นตัวหนังที่พอดูสนุกกว่าที่คิด ด้วยการที่ตัวเรื่องไปในแนวทางของหนัง แอ็คชั่น ปน ตลกร้าย จึงได้ว่า Twilight ภาคนี้เป็นภาคที่ค่อนข้างลงตัวต่อจาก ภาค 1 เลยก็ว่าได้ โดยถ้าหากมีอะไรที่ยังคงไม่ทำให้คุณผู้อ่านถูกใจก็เห็นจะมีแต่การแสดงเนี่ยแหละนะครับ
ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้
1. ความรักที่พ่อแม่มีต่อลูก ในเรื่องเรเนสเม่เป็นเด็กอมตะที่มีพวกโวตูรี่ปองร้าย จริง ๆ แล้ว พวกโวตูรี่มีอำนาจเหนือกว่าพวกครอบครัวคัลเลน แต่ครอบครัวคัลเลนก็ยินดีที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัว แม้ว่าอาจจะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ก็ตาม
2. ความสัมพันธ์ทางการผูกจิต อันนี้จะเป็นพาร์ทของเจคอบและเรเนสเม่ ตอนที่เรเนสเม่กำเนิดแล้วเกิดการผูกจิตเป็นเนื้อคู่กับเจคอบไปโดยปริยาย และเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจึงความบาดหมางระหว่างแวมไพร์และหมาป่าก็สิ้นสุดลง
ดูกันมาตั้งหลายภาค ก็อย่าพลาดตอนจบกันเลยจ้า บอกเลยว่าเป็นการจบหนังแวมไพร์ภาคนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมและสมบูรณ์และทำให้เอ็ดเวิร์ดและเบลล่า เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกในฐานแวมไพร์สวยหล่อเลยละครับ
ชื่อภาพยนตร์: The Twilight Saga Breaking Dawn – Part 2 / แวมไพร์ทไวไลท์ 4 เบรกกิ้งดอว์น ภาค 2 ดูหนังออนไลน์ 4k
ผู้กำกับภาพยนตร์: Bill Condon
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Melissa Rosenberg (screenplay), Stephenie Meyer (novel)
นักแสดงนำ: Kristen Stewart, Robert Pattinson, Taylor Lautner, Peter Facinelli, Mackenzie Foy
แนว/ประเภท: Adventure, Drama, Fantasy
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
ความยาว: 115 นาที
ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Lionsgate, Summit Entertainment
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 15 พฤศจิกายน 2555
