รีวิวหนัง Barbie – ย้อนวันวานความทรงจำในวัยเด็ก กับบาร์บี้ฉบับไลฟ์แอคชั่น
รีวิวหนัง Barbie เชื่อว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกับของเล่นบาร์บี้กันเป็นอย่างดี แต่ถ้าใครยังไม่นึกไม่ออกบาร์บี้คือของเล่นรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกระเบียบนิ้วหน้าตาน่ารักมีทั้งผู้หญิงผู้ชายสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าผมได้ นั่นแหละบาร์บี้แต่ไม่ไช่ว่ามีแค่ผู้หญิงเพราะเด็กผู้ชายเองก็สามารถเล่นได้ แต่ในสมัยก่อนถ้าเด็กผู้ชายคนไหนเล่นบาร์บี้ (ผมเองแหละ) ก็อาจจะโดนล้อโดนมองว่าเป็นตุ๊ดเป็นอะไรไป แต่นี่ปี 2024 แล้วคงไม่มีใครมาบูลลี่คุณหรอก ถ้ามีก็เตรียมโดนทัวร์ลงเลย สมัยนี้โซเชี่ยลมันแรงนะคุณ ยังไงก็ตามหากคุณรู้ดีว่าตัวเองเป็นแฟนบาร์บี้ตัวยง อย่าลืมไปติดตามรับชมหนัง บาร์บี้ Live Action (เวอร์ชั่นคนแสดง) ได้ที่ ดูหนังใหม่
รีวิวหนัง Barbie ย้อนวันวานความทรงจำในวัยเด็ก กับบาร์บี้ฉบับไลฟ์แอคชั่น
รีวิวหนัง Barbie ตุ๊กตาบาร์บี้ (Barbie) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อของ “ตุ๊กตามีชีวิต” ตุ๊กตาพลาสติกที่มีส่วนสูงราว ๆ 11 นิ้ว เป็นหนึ่งในของเล่นที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่ามันจะมาปฏิวัติวงการตุ๊กตาให้เด็กผู้หญิงทั่วโลก แต่ถึงจะบอกแบบนี้ แต่ไม่ไช่ว่าเด็กผู้ชายไม่สามารถเล่นได้นะครับ มันเป็นของเล่นที่สร้างมาเพื่อจำลองเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามที่เราต้องการอย่างเช่นการเล่นพ่อแม่ลูก การเล่นเป็นคู่รัก จนไปถึงการเล่นแบบซาดิส (ผมเอง 5555) อีกนัยนึงคือบาร์บี้เป็นตุ๊กตาผู้ใหญ่ที่สร้างความท้าทายและเปลี่ยนแปลงมุมมองของเด็กผู้หญิงทั่วโลกไปตลอดกาล เพราะ “บาร์บี้” เนี่ยแหละครับ เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่สามารถเป็นอะไรก็ได้ที่พวกเธออยากเป็น ไม่ว่าจะเป็นทนาย หมอ นางแบบ ตลอดจนประธานาธิบดีหญิง บาร์บี้อยากแต่งตัวแบบไหนหรือใช้ชีวิตอย่างไรก็ได้ โดยมี “เคน” เพื่อนชายคนสนิทของบาร์บี้คอยให้กำลังใจและสนับสนุนอยู่เคียงข้าง
และถึงแม้ว่าบาร์บี้จะดูเหมือนของเล่นที่สร้างมาเพื่อเด็กผู้หญิง หากมองจากภาพรวมที่ดูหวานสดใสราวกับนิยาย แต่เมื่ออายุมากขึ้นหลาย ๆ คนมักจะเริ่มห่างเหินไปจากบาร์บี้ทีละนิดจนเลิกสนใจไปในที่สุด อันนี้ก็ไม่แปลกใครจะมานั่งเล่นของเล่นแต่เด็กยันโตจริงไหม หรืออาจเพราะรูปร่างหน้าตาของบาร์บี้ที่ถอดแบบมาจากมาตรฐานความงามแบบ “พิมพ์นิยม” ในโลกแห่งความจริง และเราทุกคนอาจไม่สามารถเติบโตขึ้นเป็นผู้หญิงแบบนั้นได้ ทำให้ต่อมาผู้ผลิตมีการผลิตบาร์บี้หลายรุ่นที่มีสีผิวแตกต่างกันมากขึ้น สามารถไปติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆ ได้ที่เว็บ รีวิวหนังฝรั่ง
เรื่องย่อ Barbie บาร์บี้
Barbie บาร์บี้ฉบับ Live Action จะพาเราไปทัวร์เมืองแห่งความฝันของเหล่าบาร์บี้ ดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ที่มีแต่เหล่าตุ๊กตาบาร์บี้มากมายอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเพศชายหรือเพศหญิง เมืองแห่งนี้คือศูนย์รวมของเหล่าบาร์บี้บาร์บี้รุ่นแรก ต้นแบบของบาร์บี้ตามแบบมาตรฐาน (Stereotypical Barbie) ที่ใช้ชีวิตประจำวันแบบบาร์บี้ตามปกติ ร่วมกับบาร์บี้ต่างอาชีพที่มีชื่อบาร์บี้เหมือนกัน ทั้ง บาร์บี้ประธานาธิบดี (อิซซา แร – Issa Rae), บาร์บี้นักฟิสิกส์ (เอ็มมา แม็กคี – Emma Mackey) และบาร์บี้อีกหลายอาชีพ นอกจากนี้ก็ยังมี เคน หนุ่มหล่อในฝันที่อยู่ข้างเคียงบาร์บี้ ทั้ง เคน (ไรอัน กอสลิง – Ryan Gosling), เคน (ซือมู่หลิว – Simu Liu), เคน (คิงสลีย์ เบน-อาดีร์ – Kingsley Ben-Adir) และเคนอีกหลายเคน การใช้ชีวิตของเหล่าบาร์บี้แลนด์ก็เหมือนคนอย่างเราทั่วไป
ทำงานหาเช้ากินค่ำครอบครัวสุขสันต์ทุกอย่างแฮปปี้ จนกระทั่งอยู่ดี ๆ วันนึงเธอเองก็กลับนึกถึงเรื่องราวบางอย่างที่บาร์บี้อย่างเธอไม่ควรจะนึกถึงได้ ความคิดนั้นทำให้การใช้ชีวิตแบบบาร์บี้เริ่มลำบากมากขึ้นอะไรมี่ง่ายก็กลายเป็นยากเธอจึงปรึกษากับ เวียร์ด บาร์บี้ (เคต แม็กคินนอน – Kate McKinnon) พระอาจารย์มอร์เฟียส (‘The Matrix’) แห่งบาร์บี้แลนด์ ทำให้เธอต้องเดินทางออกจากบาร์บี้แลนด์เพื่อไปตามหาสาเหตุแห่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเธอเองในโลกจริง (Real World) ที่มี กลอเรีย (อเมริกา เฟอร์เรรา – America Ferrera) พนักงานบริษัทแมตเทล ซาชา (อาเรียนา กรีนแบลตต์ – Ariana Greenblatt) ลูกสาววัยรุ่นของกลอเรีย ซีอีโอแมทเทล (วิล เฟอร์เรล – Will Ferrell) เจ้าของผู้ผลิตบาร์บี้ ที่ทำให้ตัวเธอเองได้ตระหนักในอะไรบางอย่าง ทั้งหมดนี้เล่าเรื่องผ่านเสียงบรรยายของนักแสดงรุ่นใหญ่ เฮเลน เมียร์เรน (Helen Mirren)
Barbie Live-Action คือหนังในหนังที่ผู้กำกับ เกรต้า เกอร์วิก อยากสร้างมาโดยตลอด
ไม่แปลกใจเลยที่ผลงานเรื่องนี้จะโด่งดังมากขนาดนี้ เนื่องจากนี่คือผลงานกำกับของเกรต้า เกอร์วิก หนึ่งในผู้กำกับที่หลงไหลในของเล่นบาร์บี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ และเผื่อหลาย ๆ คนไม่รู้ Barbie คือหนังที่มีคนค้นหามากที่สุดในปี 2023 นั่นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ กล่าวไว้ว่าเขา ได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจมาจากละครเวทีมิวสิคัลช่วงปี 1950 ในขณะที่ตุ๊กตาบาร์บี้ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1959 ภาพยนตร์จึงมีกลิ่นอายของความเป็นมิวสิคัลผสมผสานกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและฉากที่มีสีสันสดใส เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้บาร์บี้แลนด์ และให้ผู้ชมรับรู้ถึงความเป็นโลกสมมติเมื่อเห็นตัวละครใช้ชีวิตอยู่ในบาร์บี้แลนด์ดินแดนพลาสติก
สิ่งหนึ่งที่สามารถมองเห็นได้ในหนังบาร์บี้คือการนำเสนอประเด็กของสังคมในโลกของบาร์บี้แลนด์ ที่แทบจะไม่ต่างอะไรกับโลกของพวกเราสักเท่าไหร่ เพียงแต่ในโลกของบาร์บี้แลนด์นั่นจะสดใสและดูมีชีวิตชีวากว่า แต่ก็ยังคงมีประเด็นการจิกกัดสังคมทุนนิยมและเหน็บแนมปิตาธิปไตยได้อย่างตลกร้าย ผ่านการสร้างตัวละครผู้ชายคาแรกเตอร์งี่เง่าน่ารำคาญและไม่ฉลาดนัก ราวกับต้องการตอกกลับโลกฮอลลีวูดที่มักสร้างบทแม่มด ผีสาง ปีศาจ ให้กับตัวละครผู้หญิง
สำหรับตัวละคร “เคน” ตุ๊กตาบาร์บี้เพศชายที่รับบทบาทโดยไรอัน กอสลิ่ง ก็สามารถแย่งซีนนางเอกของเราไปได้เยอะ ด้วยความฮากับมุกแปลกๆ ของพี่แกที่มีทั้งจิกกัดแซะตัวละบาร์บี้ตัวอื่น แต่ตัวละครนี้ก็ทำให้เราเห็นมุมอื่นๆ ที่ตุ๊กตาบาร์บี้ตัวอื่นไม่มี นำไปสู่การตื่นรู้ถึงพลังอำนาจในตัวเอง แม้เนื้อหาโดยรวมจะสนุกและชวนติดตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีความไม่สมเหตุสมผลและพยายามในการสร้างซีนให้ตัวละครด้วยสปีชต่างๆ
สุดท้ายนี้ เราจะเห็นได้ว่าหนังบาร์บี้ 2023 พยายามจะทำให้เราสนุกเพลิดเพลินไปกับภาพบรรยากศในวัยเด็กและความทรงจำอันแสนงดงามที่เคยมีต่อบาร์บี้ แม้ว่าบาร์บี้จะเป็นของเล่นให้กับเด็กผู้หญิงทั่วโลกมากว่า 60 ปี จนวันนี้ความยอดนิยมก็หายลงไปเยอะพอสมควร แต่กระนั้นหนังก็ยังแสดงให้เห็นว่าเหล่าบาร์บี้ยังคงคิดถึงเด็กๆ ที่เคยเล่นกับพวกเขาเสมอ
รีวิวหนัง Barbie มาร์โกต์ ร็อบบี เท่านั้นที่เหมาะกับบทของ “บาร์บี้”
รีวิวหนัง Barbie ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนสำคัญที่สามารถทำให้บาร์บี้ฉบับคนแสดงสามารถไปต่อได้ นั่นก็คือนักแสดงอย่าง มาร์โกต์ ร็อบบี ที่สามารถถ่ายทอดการเป็นบาร์บี้ได้อย่างสมจริงๆ จนหลายๆ คนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่แน่นะนางอาจจะเคยเป็นบาร์บี้จริงๆ” แต่นักแสดงเพียงคนเดียวไม่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้อยู่แล้ว เพราะนักแสดงรอบข้างก็ถือว่าทำได้ดีทุกคน ทั้ง ไรอัน กอสลิง ที่แสดงความเป็นเคนได้อย่างหล่อเท่เลย
อีกคนที่โดดเด่นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อก็คือ อเมริกา เฟอร์เรรา ในบทกลอเรีย พนักงาน Mattel ผู้มีความผูกพันกับตุ๊กตาบาร์บี้ที่เฉิดฉายในหนังเรื่องนี้ไม่น้อยเลย หรือแม้แต่นักแสดงเซอร์ไพรส์ที่ขอไม่อยากบอกว่ามีใครบ้างนะครับ แต่คนหนึ่งนี่เรียกว่าโคตรจะขโมยซีน ส่วนอีกคนนี่เรียกได้ว่าซึ้งจนผู้ชายอย่างผู้เขียนแอบน้ำตาซึมนิด ๆ เหมือนกันนะ อีกจุดที่อยากชมก็คืองานโปรดักชัน โดยเฉพาะการสร้างฉากบาร์บี้แลนด์ขึ้นมาจริง ๆ โดยไม่ใช่ซีจี ที่เรียกได้ว่าอลังการสุดเบอร์มาก (และเมาสีชมพูมากเหมือนกัน 555)
แม้ว่าบาร์บี้ฉบับ Live Action จะทำออกมาได้ดีแค่ไหน แต่ยังไงซะก็ต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบถูกมั้ย นั่นรวมไปถึงผู้เขียนด้วยที่ยอมรับเลยว่าชอบ ‘Little Women’ และ ‘Lady Bird’ มากกว่านิดนึง แต่แม้ผู้เขียนจะกล่าวอย่างนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหนังบาร์บี้นั่นแย่เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ผู้เขียนชอบเรื่องราวของสองเรื่องนั่นมากกว่าแค่นั่นเอง ในขณะที่ในหนังเรื่องนี้กลับใส่เอาไว้ผ่านไดอะล็อกที่ดูคล้าย Speech ที่วางจังหวะและเหตุการณ์เพื่อให้ตัวละครพูดสารออกมาแบบตั้งใจและไร้ชั้นเชิงไปนิด ซึ่งก็ต้องพึ่งพาการแสดงของร็อบบีที่พาให้คำพูดเหล่านั้นเกิดพลังจนน้ำตาซึมได้ รวมถึงการดำเนินพล็อต การวางซีเควนซ์ต่าง ๆ ให้ดูคลี่คลายได้ง่าย ๆ แบบก้าวกระโดดไปหน่อย มีบางซีเควนซ์ที่ชวนงงนิด ๆ ซึ่งถ้ามองในกรอบของหนังเซอร์เรียลก็พอเข้าใจได้ แต่ถ้ามองในแง่ความสมจริงก็ดูแปลก ๆ รวมถึง Pace การเล่าเรื่องหลาย ๆ จุดที่ผู้เขียนมองว่ายังทำได้ไม่ไหลลื่นนัก
ความรู้สึกหลังรับชม Barbie บาร์บี้
สรุปแล้วหนังบาร์บี้อาจไม่ไช่หนังในแบบที่หลายๆ คนคิด หากดูจากตัวอย่างเราจะเห็นความสดใสในโลกของบาร์บี้แลนด์ที่มันแผ่ออกมาจนทำให้รู้สึกเอียนๆ อยู่บ้าง แต่ว่ากันตามตรงเรื่องราวของหนังบาร์บี้นั่นค่อนข้างแตกต่างจากไหนตัวอย่างพอสมควร นี่ไม่ไช่หนังที่โรยด้วยกลีบกุหลายแต่เป็นหนังแนวเทพนิยายสดใสที่อยู่ในโลกของความเป็นจริง แม้ว่าหนังจะไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นหรือฉากบู๊อะไร แต่น่าแปลกที่หนังทำให้เราอยากติดตามตลอดและจะมีเรื่องให้เราลุ้นอยู่แทบทั้งเรื่อง สิ่งที่ชอบมากคือการเดินทางของบาร์บี้และสิ่งที่เธอได้มาจากการไปเห็นโลกความจริง และบทสรุปที่เธอเลือกที่จะไม่คู่กับเคนอย่างที่คนผลิตของเล่นจัดให้ เธอเลือกที่จะออกไปค้นหาชีวิตและเลือกชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการ แม้ว่ามันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมและเพอร์เฟคตลอดเวลาก็ตาม ส่วนในด้านการแสดงนั้นอันนี้ไม่มีอะไรจะติเลย นักแสดงเล่นดีกันทุกคนจริงๆ
การแสดงของพวกเขาเรียกได้ว่าสมจริงจนน่าขนลุก จนบางทีผู้เขียนก็แอบคิดว่าพวกเขาเป็นบาร์บี้จริง ๆ และที่นักแสดงอย่างมาร์โกต์ ร็อบบี้ ก็แบกหนังเอาไว้ได้อย่างสุด นอกจากใบหน้าที่สวยน่ารักของนางแล้ว การแสดงของนางเองก็ยังคงไม่เป็นสองรองใครทั้งฉากเลิฟซีน ฉากน่ารัก ใสๆ ไปจนกระทั่งฉากดราม่าเรียกน้ำตาที่ทำเอาคนดูใจอ่อนไหวง่ายอย่างเราเสียน้ำไปตามๆ กันเลย และสิ่งสุดท้ายที่ต้องเลยคือขอชมคืองานสร้างที่ทำออกมาโคตรดีจริงๆ ภาพสวย บรรยากาศดี เพลงประกอบได้ คือไร้ที่ติจริง ๆ
สำหรับบาร์บี้ ฉบับคนแสดง ในปี 2023 ที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นฉากในบาร์บี้แลนด์ทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นโลกสีชมพูที่ออกแบบมาได้สวยจริงๆ การถ่ายทำก็ดีเยี่ยม ไปจนถึงเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครในเรื่องก็เป๊ะไปหมด นอกจากนี้ฉากร้องเพลงทุกฉากที่โผล่มาก็ดีไซน์ออกมาดีและดูเพลินมากๆ ดูไปยิ้มไปทุกฉากจริงๆ สรุปโดยรวมเลยคือหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สนุกดูเพลินอีกเรื่อง ดูได้ทุกเพศทุกวัย ผู้ใหญ่ดูได้ เด็กดูดี อยากให้ทุกคนไปลองกันจริงๆ
ติดตามเรื่องราวการล้างแค้นของคนเลี้ยงผึ้งที่นำแสดงโดย เจสัน สเตแธม ได้ที่ รีวิว The Beekeeper นรกเรียกพ่อ