รีวิว The Little Mermaid เงือกน้อยผจญภัย จากการ์ตูนสู่ภาพยนตร์แห่งปี
ภายหลังจากได้ รีวิวหนังฝรั่ง แอ็คชั่น เลือดสาด อย่าง Venom 2 วันนี้ขอฉีกมาแนวน่ารัก ๆ เบาสมอง เรื่อง The Little Mermaid หนังเรื่องล่าสุดของ Disney ที่มีกระแสถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์กันมา อย่างยาวนาน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้เราแอบกังวลเกี่ยวกับ ภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ นักแสดง เช่นกัน แต่หลังจากได้ดูแล้ว เราเองก็มีความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจริงๆ อย่างไรก็ดีเราคิดว่าการได้ดูด้วยตัวเองนั่น เป็นสิ่งที่ดีที่สุด วันนี้จึงอยากให้เพื่อน ๆ เปิดใจ ลองดู บางทีคุณอาจจะชอบมันมาก ๆ ตอนนี้สามารถไปติดตามดูหนังได้ทาง ดูหนังออนไลน์ เรื่องนี้ได้ทุกโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่ วันที่ 25 พ.ค.นี้
The Little Mermaid ว่าที่หนังไม่ตรงปก
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคุณเป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ของ Disney มานานมาก ๆ แล้ว จํา หลายๆ คํากล่าว ของ ตัวละครได้ จ๋า คาแร็กเตอร์ของนักแสดงได้อย่างดีเยี่ยม และมี ความสัมพันธ์ ที่พิเศษ กับ การ์ตูนเรื่องนี้
บางทีก็อาจจะบอกได้เต็มปากเต็มคําว่าเวอร์ชั่น ไลฟ์แอ็กชั่นอาจ ไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีนัก ที่จะบอกได้ว่า สามารถถ่ายทอดจากเวอร์ชั่น การ์ตูน ออกมา ได้ ตรง ดังที่เวอร์ชั่นต้นฉบับ หรือถ่ายทอดคาแร็กเตอร์นักแสดงจาก เวอร์ชั่นต้นฉบับออกมาได้ดีมากขนาดนั้น
ไม่ว่าจะเป็น คาแร็กเตอร์ ตัวเด่น อย่างแอเรียล ที่ไม่ได้ผิวขาว ตา โดผมแดงเอาอย่าง ในการ์ตูน นกสกิตเติ้ล ที่เปลี่ยนแปลง สาย พันธุ์ ใบหน้าของเหล่าสัตว์อย่างเจ้า ลูกปลาขี้ขลาดตาขาว ฟลาวเดอร์และปูช่างพูดคุย เซบาสเตียน
ที่รูปลักษณ์ภายนอก ไม่เหมือนกับเวอร์ชั่น การ์ตูน ลิบตา ลับ (จ๋าต้องต่าง กัน อยู่แล้ว) เอาง่ายๆก็เป็นเพียงแค่เห็นภาพก็ บางครั้งก็อาจจะไม่อิน เอาได้ง่ายๆ ซึ่ง เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ ของ หนัง ไลฟ์แอ็กชั่นที่มาจากการ์ตูนทุกเรื่อง
เรื่องย่อ
the little mermaid เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของ เจ้าหญิงนางเงือกน้อยผู้ไม่รู้เดียงสา นามว่า แอเรียล เทพธิดาแห่ง ท้องทะเล และมนุษย์รูปงามอย่าง “เจ้าชายอีริก” กระทั่ง นางเงือกน้อย หลงไปแลก เปลี่ยนเสียงของเธอ และเปลี่ยนแปลงหาง นางนางเงือก
ฃให้เป็นขา เพื่อตามหารักบน แผ่นดินใหญ่เหนือ ห้วงสมุทรโดย “เออร์ซูลา” ที่เป็นหนึ่งในตัวร้ายตัวแม่ ของ จักรวาล ดิสนีย์ ในเวอร์ชั่นนี้ รับบทโดย เมลิสซา แม็กคาร์ธี ผู้มีความ แค้นต่อ พ่อของแอเรียล คิงไทรทัน
โดยแม่มด หนวดปลาหมึก สร้างเงื่อนไข ให้นาง เงือกน้อย จ่าต้องได้รับ จูบ รักจริง ภายใน 3 วัน จากเจ้าชายอีริก เป็นวิถีทางเดียว ที่ แอเรียล จะเป็นมนุษย์ และสมหวังในความรัก ราวกับ ที เธอ ตั้งอกตั้งใจ
คุยประเด็นร้อนแรงก่อนหน้านี้
เมื่อเอ่ยถึง the little mermaid ฉบับคนแสดง ที่เป็นอีกหนึ่งดราม่า มีกระแส คืนกลับ เรื่องสีผิวของดาราที่ผิด เพี้ยนไปจากของเดิมตั้งแต่เปิดตัว อย่าง ฮัลลี เบลีย์ นักร้องสาว ผู้ครอบครองเสียง ไพเราะเพราะพริ้ง อันทรงอํานาจ คนอเมริกัน
ผู้มารับบทเป็นตัวละครเอกอย่าง นางเงือก น้อยแอเรียล ซึ่งนับว่าเป็น ยอดเยี่ยม ผู้แสดง ไอคอนนิค ของ ดิสนีย์ เข้าถึงบท ด้วยความ สามารถ การแสดง และการร้องเพลงแบบมิวสิคัล ที่สุดยอด
จนแทบที่จะลืม เรื่อง ดราม่า ก่อนหน้าที่ผ่านมาไป ในส่วนของการถ่ายทอดอารมณ์ ของ นักแสดง และการนําาเสนอเรื่อง ราวผ่านน้ําเสียงอัน เพราะในเพลงประจําชาติของเหล่าสาวกแอเรียล
อย่างเพลง “Part of Your World” ก็ทําได้ดีอย่างมาก ไม่แพ้ต้นฉบับเลย รวมทั้ง ดารา ทุกคนที่ ถ่ายทอดอารมณ์ ของนักแสดงได้ดี และสามารถขับร้อง ได้ไม่มีที่ติเตียน
หนังห่วยจริงไหม?
ก็จําเป็นต้องขอบอกตรงๆว่า พวกเราชอบนะ เป็นการขยายเรื่องราวความเกี่ยวเนื่อง ระหว่างเอริคและแอเรียล โดย ในการ์ตูนจะไม่ได้ค่อยเห็นนัก แม้กระนั้น ในหนังก็มี การเพิ่ม ซีน หลายซีนเข้ามา ได้แก่ ซีนเดินตลาด ซีนดูแผนที่ ซีนขี่ม้า และซีนนิด หน่อยอื่นๆ ที่ ทํา ให้การเติมเต็ม
ความเกี่ยวเนื่องของทั้งคู่ดูมีมิติและชักชวนเข้าอก เข้าใจในเรื่อง ความข้องเกี่ยวนี้ได้มากขึ้น และส่วนที่ชอบอีกอย่าง เป็น ความเกี่ยวเนื่อง พ่อลูกที่หากแม้หนังจะไม่ได้เล่ามากนัก
แม้กระนั้น หนังก็ได้ขยายเรื่องราว ส่วนนี้ได้ น่าประทับใจมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากช่วงท้ายของหนังที่พวกเราว่าเป็นการเพิ่มเติมจาก the little mermaid การ์ตูน ได้ดีมาก
ส่วนของภาพ ใน หนังฉบับนี้ ถูกทําออกมา ให้มีความสมจริงสมจังมากขึ้น ด้วยการใช้ โทนสีใต้สมุทร แบบครึ่งเหมือนจริง ที่มีความหมอง กว่า เมื่อเทียบกับอนิเมชั่นต้นฉบับ ที่มีชีวิตชีวา แจ่มใส บาดตา กว่า แต่ยังคงสร้างบรรยากาศ ให้กับ เรื่องราว ได้อย่างไม่ ขัดหูขัดตา
เช่นไรก็ตาม ในส่วนของกราฟิก ที่ นักเขียนว่างาม บางบุคคล บางทีอาจ ไม่ชอบกราฟิ กลักษณะนี้ ซึ่งบางทีอาจเป็นไปได้เช่นเดียวกัน มันครึ่งๆว่าจะทําให้ดูเรียลราวกับ ของแท้ หรือจะยังคงเป็นการ์ตูนอยู่ ครึ่งๆกลางๆ รวมทั้ง เรื่องราว คํากล่าว การกระทํา ของ นักแสดง ที่ล้าสมัย
กว่าจะมาเป็น The Little Mermaid (2023)
ภายหลัง Disney ประสบผลสําเร็จ จาก แอนิเมชั่น ในเชื้อสายเจ้าหญิง อย่าง สโนไวท์ (1938) ซินเดอเรลล่า (1950) และ เจ้าหญิง นิทรา (1959) หลายๆคนบางทีอาจมองว่า ผลงาน แอนิเมชั่นเรื่องดัง ขั้นตอนต่อไปอย่าง เงือกน้อยผจญภัย อาจจะได้รับความพอใจ
และเงินลงทุนจากผู้สร้าง อย่าง เหลือล้น ความจริง The Little Mermaid เป็นผลงานชี้เป็นชี้ตายของกลุ่ม แอนิเมชั่น ดิสนีย์ หลังวอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์ ผู้จัดตั้ง บริษัทเสียชีวิต จาก โรคมะเร็งปอด ในปี 1966
ไม่ต้อง บอก ก็ทราบดีว่าหนังได้ไปถึงเป้าหมาย อย่างงดงาม และคณะทํางาน แอนิเมชั่น ได้รับไฟเขียว ให้ผลิตผลงานชิ้นถัดมา อย่าง นงคราญ กับ พระราชโอรส ยักษ์ และ อะลาดิน
แม้กระนั้น สิ่งที่ทําให้ เงือกน้อยผจญภัย ครอบครองใจผู้ชมร่วม ยุค นอกเหนือจากการดําเนินเรื่องราวแบบใหม่ ยังเป็นเพราะว่า ผลงานเรื่องนี้ ฉีก เค้าโครงความคิดของเจ้าหญิง ในสมัยก่อนที่จะเน้นย้ําเรื่องความรัก โรแมนติก ของวัยรุ่น
ไปสู่การกล่าวถึง หัวข้อหลัก ในสังคม เป็นต้นว่า ความเกี่ยวเนื่องข้างในครอบครัว การตาม หาตัวตนของวัยรุ่น ไปจนกระทั่งหัวข้อเรื่องเพศ โอกาส ซึ่งกําลัง ปั่นป่วน อยู่ในสังคมสมัย 80s
สรุปหลังดู
โดยรวม ตัว ภาพยนตร์เวอร์ชั่นรีเมคนี้ มีการเพิ่มอีก ผู้แสดง ใหม่ๆ ซึ่ง บางทีอาจมองดู ไม่มี ความสําคัญนัก ในความนึกคิดเห็นของผู้ชมนิดหน่อย ดังนี้ ยังมีการตัด ผู้แสดง และ บางประเด็นออกไปด้วยเหมือนกัน
แต่ว่าพวกเราจะยังคงได้ฟัง ทั้งหมด ลง ตามที่ถือได้ ว่าเป็นไอคอนนิคของ นางเงือก น้อยเผชิญภัย เช่น เพลง “Under the sea” และ “Kiss the girl” จาก สอง นักแสดง สายฮาอย่าง “เซบาสเตียน” อํามาตย์ปูแดง และ “สกู๊ท เทิล” นกนางนวล
ที่มีการเรียบเรียง ทําท่วมใหม่ ควบคุม การบรรเลงดนตรีโดย อลัน เมนเคน (Alan Menken) คนที่เคยทําดนตรี ให้กับอนิเมชั่นต้นฉบับ และได้ ลิน มานู เอล มิแรนดา (Lin Manuel Miranda) มาแต่งเนื้อร้องให้โดยยังคงไว้ ซึ่งกลิ่นเดิม แบบ ฟังแล้ว ไม่ช็อตฟีล
ดังนี้ ดารา หลักอย่าง ฮัลลี่ ที่แย้ง สายตา ใครหลาย ๆ คนจํานวน ไม่น้อย ด้วยรูปลักษณ์ของเธอซึ่งต่างจาก ความมุ่งมาด และแอเรียล ในรูปภาพ จ่าของคน จํานวนไม่น้อย แต่เธอก็สามารถเป็น แอเรียล ในเวอร์ชั่นของตัวเอง ที่ต่างจากต้นฉบับ เดิม ได้ ครบถ้วนบริบูรณ์
อีกทั้งหัวข้อการแสดง และเสียงร้อง ทรงอํานาจ ถ้าเพื่อนพ้องๆ ผู้ใดกันแน่ ต้องการไปสัมผัสความรู้สึก ตรงๆ ไปรับชมได้ตั้งแต่ 25 พฤษภาคมนี้ ทุกโรงหนัง ครับ