รีวิว Oppenheimer ออพเพนไฮเมอร์ หนังเรื่องใหม่ของคริสโตเฟอร์ โนแลน

สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้เราจะมา รีวิวหนังฝรั่ง Oppenheimer เป็นหนังแนวชีวประวัติเกี่ยวกับสงครามโลก ที่ได้นักแสดงสุดหล่อตัวพ่ออย่าง Cillian Murphy ที่ในครั้งนี้ยังคงมาในมาดสุดเท่ ที่ไม่ว่าจะชาย หรือหญิง ก็ต่างหลงรักเขา ยิ่งเป็นการการันตีว่า Oppenheimer สมควรได้รับตําแหน่ง “ผลงานชิ้นเอก” เป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของคริสโตเฟอร์โนแลนจนถึงปัจจุบันก้าวเข้าสู่ดินแดนใหม่สําหรับหนึ่งในผู้สร้างภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของยุค หากเพื่อน ๆ กำลังหาอะไรดูในวันว่าง ๆ สามารถไปติดตามรับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างขึ้นมาจาก “American Prometheus: The Triumph and Tragedy of J. Robert Oppenheimer” อัตชีวประวัติ ที่เชื่อถือได้ในปี 2005 โดย Kai Bird แล้วก็ Martin J. Sherwin

ภาพยนตร์เรื่องนี้ เขียนบท และก็กํากับ โดย โนแลน โดยยืมมาจาก หนังสือเล่มนี้อย่างเสรี ในขณะสํารวจชีวิต ของ Oppenheimer รวมทั้ง หน้าที่ของเขา ในเขต วิศวกร แมนฮัตตัน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อแผนการแมนฮัตตัน

เขาทําหน้าที่เป็นผู้อํา นวยการ ห้องทดลอง อาวุธลับที่ผลิตขึ้นในลอสแองเจลิส สถานที่รกร้างว่างเปล่า ในนิวเม็กซิโก ซึ่งเขารวมทั้งจิตใจ ทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่พราวแพรว ที่สุด ในสมัยนั้น งวยกับแนวทาง ควบคุมปฏิกิริยา ปรมาณู

สําหรับอาวุธที่ฆ่าคน นับหมื่น โดยทันที่ยุติสงคราม ใน ห้วงมหาสมุทรแปซิฟิค โดยก่อนหน้าที่ผ่านมามีข่าวสารประมาณว่า เขา ใช้งบ ประมาณ สําหรับในการสร้างภาพยนตร์ “Oppenheimer” ไปมากกว่า 180 ล้านเหรียญ

เพราอยากสร้าง ระเบิด จริงๆ เนื่องด้วย ไม่ชอบการใช้ CG เป็นทุนเดิม แต่ว่า ภายหลังสื่อบันเทิง ของ ฮอลลีวูด ก็ออกมาเฉลยคําาตอบว่า “…… มิได้มีการสร้างระเบิดปรมาณู ของแท้อะไร…”

เป็นวิธีการถ่ายทําล้วนๆแม้กระนั้น ส่วนที่ว่าเขา ใช้อะไรบ้างที่อยู่ใน แนวทางการท่า ระเบิด หรือ โชว์ ความวอดวาย ได้ขนาดไหนคงต้องไปติดตาม รีวิว About My Father กันเองครับ

oppenheimer เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวชีวิตของ เจ. ออพเพน ไฮเมอร์ ชายผู้มีปัญหาในตนเองมากมาย แต่ว่าก็ถูกละเลย ไปด้วยความ ฉลาด ของตัวเขา เมื่อเขาถูก ขอร้องให้หาวิถีทางเลิกสงครามโลกครั้งที่สอง เขาก็ชี้ไปที่ความ

คาดหมายเดียว นั้นเป็นอาวุธนิวเคลียร์ ที่มีพลังเผาผลาญร้ายแรง กระทั่งสามารถยั้งไม่ให้ทุกฝ่ายต่อสู้กันต่อไปได้อีก “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ก็คือยังเป็น คริสโตเฟอร์ โนแลน ความเสด็จ บิดายังคง ประดิษฐ์ ผลงานระดับมาสเตอร์พีช

ออกมาได้ไม่ผิดหวัง อีกอย่างเคย นี่เป็นหนังที่ พิจารณา มาจาก ไอเดีย และก็แนวความคิด ของ โนแลนอย่างเต็มเปี่ยมอีกรอบ ถึงแม้ คราวนี้จะเป็นการปฏิบัติงานแบบย้ายสถานที่จาก วอร์เนอร์ บรา คุณรัส มาเป็น ยูนิเวอร์ แซล

แม้กระนั้น ความคิดสร้างสรรค์ ของเขาก็ยัง กระจ่างแจ้ง แล้วก็ได้เรื่อง สารภาพ สําหรับเพื่อการบีบอัดออกมา ได้ ผลสําเร็จงานระดับเทวดา

Oppenheimer ยังเป็นการเล่า ด้วย กลเม็ดเด็ดพรายแล้วก็ความสลับซับซ้อนของแนวคิด ทางด้านวิทยาศาสตร์กับ ฟิสิกส์ที่ถูกหยิบมาประยุกต์ใช้ ซึ่งก็แน่ๆว่ามันเป็นส่วนประกอบที่ไม่ใช่ผู้ชมทุกคนจะเข้าดวงใจ และก็แทรกซึมไปได้

อย่างไม่ยากเย็น แล้วก็จังหวะต่างๆ พวกนี้ยังเกาะหนัง oppenheimer เต็มเรื่อง ในเวลา 180 นาที ด้วยเหตุผลดังกล่าว นี่ก็เลยเป็นหนังที่ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์เฉพาะ รวมทั้งผู้ชมจําเป็นต้องตั้งรับ รวมทั้งจัดการกับข้อมูลต่างๆ

ใส่ด้านใน 3 ชั่วโมงระหว่างที่หนัง ดําเนินไป เนื่องจากว่า มิเช่นนั้น ผลที่ออกมานั้น…บางครั้งอาจจะเปลี่ยนเป็น หนังที่ชวนหลับไปได้แต่หนังก็ยังมีช่วยซัพพอร์ต ที่ดีเลิศมากมายๆ ซึ่งก็คือ กองทัพดารา ในเรื่องที่ใช้คําว่า กองทัพ ก็น่าจะ

ไม่เกิน จริงมากแค่ไหน เพราะว่า แม้ว่า หนัง คู่ปรปักษ์ “Barbie” ขนดารามาเยอะมากแล้ว Oppenheimer เรื่องนี้ก็ไม่ น้อยหน้ากันเลย นี่เป็นหนังที่เต็มไปด้วย ดารา ประสิทธิภาพเน้นๆออกมา ซีนมาก ซีนน้อยก็ใส่เต็มทั้งสิ้น และก็มันกลายเป็นหนังที่ทรงประสิทธิภาพได้ด้วยดีจากส่วนประกอบการแสดง ของ มือโปร

นับว่าเป็นงานหนังที่มีความคลาสสิค แล้วก็สร้าง ดีเทล ของหนังได้อย่างน่าดึงดูด โดยจัดวางบท ให้ “กิลเลียน เมอร์ฟี” ดารา คู่บารมีของ “โนแลน” มารับบทเป็น “เจ โรเบิร์ท ออพเพน ไฮเมอร์” นักฟิสิกส์ ปรมาณู ผู้เป็นพ่อ

ที่ระเบิดปรมาณู ด้วยหน้าที่ที่ดูเคร่งขรึม สงบเงียบ แต่แอบแฝงไปด้วยความทะยานอยาก ต้องการทดสอบ สิ่งที่ คิดเอาไว้ว่าจะเป็นเยี่ยงไร แลกเปลี่ยนกับการนํามันไปใช้เป็นอาวุธสําหรับในการทําลายชีวิตผู้คนร่วมกัน แต่ว่า ทั้งหมด

ทั้งปวง มิได้ถูกเล่าเป็นเส้นตรง มันถูกเล่า สลับไปๆมาๆอย่างมีความนัยยะสําคัญ ว่า หากทําสิ่งหนึ่ง แล้ว จะมีผลต่อชีวิต ไปในทางไหนอย่างไร ละงานภาพยังมีเอกลักษณ์เป็น จังหวะที่โคลสอัพหน้า จะชัด คม เบื้อง หลังจะติดเบลอ

แล้วก็ทําให้นักแสดงเด่นกว่าฉากอย่างแจ่มแจ้ง รวมทั้งมันถูกใช้ในซีนอารมณ์ ความคิดของนัก แสดง จํานวนมาก … เท่ากับฉากที่ “เลียนแบบมวลสารอะตอม” ที่เป็นการเซตอัพด้วยมือ และก็ตั้งกล้องถ่ายรูป ถ่ายแบบอที่นาล็อก ไม่ใช่

การผลิต ด้วย CG ทําให้งาน ภาพ ดู “จริง” และก็ “แน่นมากมายๆ” ซึ่งทั้งหมดทั้งปวง ที่ว่ามานี้ คุณ “ห้าม หลุด จุดโฟกัส ในบทสําหรับพูดเลยแม้แต่น้อย” หนัง 3 ชั่วโมง จะประเคน บทพูด การไต่ถาม การเล่าเรื่อง รวมทั้งเหตุการณ์ที่ถ้าเกิดวูบหลับ บางทีอาจจะดูไม่รู้เรื่องก็เป็นไปได้

Oppenheimer เป็นความสําเร็จ สูงสุด ของ โนแลน ในฐานะผู้ผลิตภาพยนตร์ โดยจับอัตถิภาวนิยมด้านศีลธรรม ของ ภาวะมนุษย์ และก็จินตนาการที่น่าสะพรึงกลัว ของ ความทะนงตัว ของอํานาจ ซึ่งเป็นเลิศ ในสิ่งที่ยอดเยี่ยม ของ

ปี ภาพยนตร์ที่น่าทึ่ง แม้ว่าจะมี foibles ยกตัวอย่างเช่น นิวตรอน โปรตอน รวมทั้ง อิเล็คตรอนที่ manhandled โดย (ใน) มนุษยชาติสิ่งที่มิได้อยู่ตรงนี้มีความสําคัญพอๆกับสิ่งที่เป็น อาจจะไม่มีการวิวาทกับระยะเวลานี้ โน แลน… ไม่ใช่

พระผู้เป็นเจ้า ใดๆก็ตาม มากยิ่งกว่า oppenheimer เรื่องจริง เป็นสิ่งที่ฉันสามารถบอกได้อย่างแน่แท้เป็น Oppenheimer ชอบรู้สึกราวกับเป็นรายการวิกิพีเดีย สามชั่วโมงมากยิ่งกว่า ภาพยนตร์ที่น่าดึงดูด แม้กระนั้น ทั้งหมด มิได้ถูกเล่า

เป็นเส้นตรง มันถูกเล่าสลับไปๆมาๆ อย่างมีความนัยยะสําคัญ ว่า ถ้าเกิด ทําสิ่งหนึ่งแล้ว จะมี ผลต่อชีวิต ไปในทางไหนอย่างไร ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงที่ว่ามานี้ คุณ “ห้าม หลุด จุดโฟกัส ในบทสําหรับพูดเลยแม้แต่ น้อย” หนัง 3 ชั่วโมง จะ

ประเคน บทสําหรับพูด การไต่สวน การเล่าเรื่อง รวมทั้งเหตุการณ์ที่หากวูบหลับ บางครั้ง อาจจะดูไม่รู้เรื่อง ก็เป็นไปได้ … ซึ่งนั้น เป็นกรณีของผู้ที่มิได้ทําการบ้านมาเลย!

ต้องบอกเลยว่ายิ่งใหญ่ สมการรอคอยมากๆ ครับผมสําหรับ Oppenheimer ออพเพน ไฮเมอร์ ตัวหนังอัดแน่นไป ด้วยความทะยานอยาก แบบสุดๆ ไม่ว่า คือเรื่องของ ผู้แสดง หรือ เรื่องราวที่ดูแล้วน่าขนลุกมากๆ นะครับ กับ ชายคน

ที่ สร้างสรรค์ระเบิดปรมาณู ซึ่งตัวหนังนั้นจะถูกเล่าในแบบของการสืบสวนไป พร้อมกันกับ ความเป็นมา ของ ออ พเพน ไฮเมอร์ ใน ตอนที่เขานั้นเริ่มที่จะรู้เรื่อง แนวคิด ต่างๆ สําหรับการเริ่มของการพัฒนาระเบิดปรมาณู ครับผม

ซึ่งนี้เป็นอะไรที่โคตรน่าดึงดูด และก็น่าติดตามมากๆเลยล่ะนะครับ แล้วอีกอย่างที่ชอบที่สุด ใน หนัง ซึ่งก็คือ ซาว ด์เอฟเฟคของระเบิดที่โคตรลั่นที่เล่นเอาเก้าอี้ ในโรงภาพยนต์ สั่นเลยล่ะนะครับ แล้วก็อีกอย่างที่เป็นเลิศ ยอดเยี่ยม

ของ หนัง ดังเช่นการดําเนินเรื่องของหนังเนี้ยแหละครับผม ที่ท่าผู้ชมนั้น ติดตามกันที่พูดได้ว่า ไม่อยากกระ พริบตาเลยล่ะ เพราะเหตุว่าเนื้อเรื่องมัน โคตรน่าดึงดูดเลยจริงๆ แม้กระนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่านี้เป็นหนังที่อวย ความเป็น

สหรัฐแบบสุดๆ เหมือนกันครับ ไม่ว่าจะทําอะไรก็เป็นสหรัฐไปหมด จริงๆ แต่ว่าก็ว่า ไม่ได้ครับผม เพราะ ว่าหนังเรื่องนี้ ท่าอออกมาได้ดิบได้ดีจริงๆ ครับ ด้วยเหตุนี้ โดยสรุปแล้ว Oppenheimer ก็ยังจัดเป็นหนึ่งในผล งานอันมีคุณภาพของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่แทบไม่มีอะไรให้ตําหนิเลยครับ