รีวิว สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only 2023 หนังจีนแนว โรแมนติก คอมเมดี้
one and only สเต็ปกล้าท้าฝันเต็มเรื่อง หนังจีนแนว โรแมนติก คอมเมดี้ เรื่อง สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only 2023 เป็นที่รอคอยของบรรดาแฟนคลับเป็นอย่างมาก เพราะ ผู้กำกับ ต้าเผิง ได้ประกาศแต่แรกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวตนของหวังอี้ป๋อเอง เรื่องราวเกี่ยวกับ ติงเหล่ย นักเต้นข้างถนนจอมเก๋า ได้ชักชวนให้นักเต้นรุ่นใหม่มาเข้าร่วมกลุ่มกับเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องพบเจอกับความท้าทายไม่หยุดหย่อน แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของคนหนุ่มสาวในสังคมปัจจุบัน ที่มีความฝัน อยากประสบความสำเร็จ พยายามต่อสู้ จนกว่าจะถึงฝั่งฝัน ติดตามบทความ รีวิวหนังฝรั่ง หนังใหม่ หนังน่าดู ได้ที่นี่ ดูหนังใหม่ คลิกเลยจ้าาา
รีวิว สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only
ภาพยนตร์เรื่องสเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only ส เต็ ป กล้าท้าฝัน ซับไทย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ “เฉินซั่ว” รับบทโดย หวังอี้ป๋อ ชายหนุ่มที่ขยันทำงานหาเงินอย่างหนัก ซึ่งหนึ่งในงานที่เขาทำเพื่อหาเงินคือเต้นสตรีทแดนซ์โชว์ ซึ่งเขามีความฝันที่อยากจะเป็นนักเต้นสตรีทแดนซ์ เพราะความรักที่เขามีต่อการเต้น วันหนึ่งก็มีโค้ชของทีมเต้นอาชีพชื่อดังที่เคยเป็นนักเต้นสตรีทแดนซ์ในตำนานมาดึงเขาเข้าทีม ซึ่งทำให้เฉินซั่วได้เข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากขึ้น แต่แล้วเขาและทีมก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายที่เข้ามาที่ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน
เรื่องย่อ
“สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only” เป็นภาพยนตร์จีนเล่าเรื่องราวของเฉินซั่ว (รับบทโดย หวังอี้ป๋อ) ผู้ที่รัก “การเต้นสตรีทแดนซ์” เป็นชีวิตจิตใจแต่ทำได้เพียงฝึกด้วยตัวเองในยามว่างซึ่งแทบจะไม่มีอยู่ในชีวิตที่ต้องดิ้นรนทำมาหากิน จะเอามาหากินก็ใช้ในการแสดงแลกเงินเล็กน้อยเท่านั้น แต่แล้วเขาก็ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับติงเหลย (รับบทโดย หวงป๋อ) โค้ชของทีมเอ็กซ์คลาเมชันพอยท์ (E-mark) ทีมระดับแชมป์ที่เขาใฝ่ฝัน นอกจากการฝึกเต้น เขายังได้รู้จักกับเพื่อนร่วมทีมที่มีประกายไฟฝันที่แตกต่างกัน ทว่าหนทางสู่ความฝันไม่ได้เรียบง่าย เขาถูกโจมตีอย่างหนัก และต้องเข้าไปสู่สถานการณ์ที่อาจดับฝันทั้งหมด เขาและติงเหลย จะข้ามผ่านพ้นช่วงตกต่ำและก้าวเดินไปคว้าฝันต่อไปได้หรือไม่
ชีวิตของเฉินซั่วต้องพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย
คำนิยามที่เหมาะกับชีวิตของเฉินซั่วก็ต้องเป็นคำว่า “ชีวิตไม่ง่าย” ชีวิตของเฉินซั่วต้องพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย แต่ถึงกระนั้นเฉินซั่วก็ยังมุ่งมั่นกับความฝันของตัวเอง ตัวเรื่องจะเล่าให้เราเห็นชีวิตของคนเราออกมาได้ค่อนข้างเรียลเลย ทุกคนต่างมีเป้าหมายหรือความฝันในชีวิตที่ต่างกัน แต่การทำความฝันให้สำเร็จอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะชีวิตคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้มีต้นทุนในชีวิตมากนัก
ในเรื่องจะเล่าให้เราเห็นว่าความฝันของคนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนธรรมดาที่รักในการเต้น เขาเริ่มจากศูนย์ด้วยการฝึกฝนการเต้นด้วยตัวเอง โดยเรียนรู้ผ่านการดูวิดีโอ ไปพร้อมกับการต้องทำงานหาเลี้ยงชีพและครอบครัว ก่อนจะค่อย ๆ ให้เราเห็นการเจริญเติบโตของตัวละคร
พร้อมกับมีการสอดแทรกเนื้อหาเรื่องของความสัมพันธ์รูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว เพื่อนร่วมทีม โค้ชกับลูกศิษย์ หรือความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาว รวมไปถึงถ่ายทอดเงื่อนไขและปัญหาชีวิตว่าแต่ละคนอาจจะเจอเงื่อนไขหรือปัญหาชีวิตไม่เหมือนกัน ที่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถทำในสิ่งที่รักของตัวเองได้ตลอดชีวิตก็ได้
พล็อตเรื่องความรักและความฝัน
ด้วยความที่เรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักและความฝันในการเต้น พร้อมกับสอดแทรกเนื้อหาเรื่องของชีวิตและความสัมพันธ์ จึงไม่ยากเลยที่เราในฐานะผู้ชมจะอินไปกับเรื่องราว แล้วต้องบอกว่าตัวหนังเล่าชีวิตคนคนหนึ่งที่เจออุปสรรคมากมายในการทำความฝันออกมาได้กระแทกใจ และเล่าเรื่องความสัมพันธ์ออกมาได้ซึ้งกินใจอีก แล้วถึงแม้เรื่องราวชีวิตของตัวละครหลักในเรื่องจะค่อนข้างขม แต่ตัวเรื่องก็ยังมอบพลังและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมไปด้วย เหมือนให้เราได้ตระหนักถึงชีวิต แต่ก็ให้พลังกับเราให้มีแรงลุกขึ้นสู้ ชีวิตคนเรามันอาจจะขมบ้าง แต่ถ้าเรารักในตัวเอง และเชื่อในตัวเอง วันหนึ่งเราอาจจะพบความสำเร็จและความสุขกับสิ่งที่ทำ
เส้นเรื่อง วิธีการเล่าเรื่อง และไดอาล็อกต่าง ๆ ถูกจัดวางมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว เปิดด้วยฉากเร้าใจเพื่อตึงให้เราหันมาสนใจแล้วอยากจะติดตามเรื่องราวไปจนจบ ก่อนจะตัดมาที่การเริ่มปูเข้าเรื่องราวชีวิตของตัวละคร ก่อนจะค่อย ๆ ไต่เรื่องราวและอารมณ์ไปเรื่อย ๆ จนไปปิดด้วยฉากไคลแม็กซ์ที่พีคที่สุด ซึ่งเป็นจุดที่ผู้กำกับและ one and only สเต็ปกล้าท้าฝัน นักแสดง ก็แอบสปอยล์ไว้ในงานแถลงข่าวว่าต้องรอชมฉาก 20 นาทีสุดท้ายของเรื่อง
นอกจากเรื่องการปูเส้นเรื่องและไดอาล็อกต่าง ๆ ที่ตัวบทก็มีหลายท่อน หลายซีนที่กระแทกใจแล้ว การใส่จังหวะอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ก็ใส่เข้ามาได้ถูกจังหวะ มีความตลกสอดแทรกที่ทำให้หัวเราะได้อยู่เรื่ย ๆ มีความโรแมนติกเข้ามาชวนใจเต้นเบา ๆ และมีความดราม่าที่ทำให้เราน้ำตาไหลตาม ไหนจะใส่ความซึ้งอบอุ่นหัวใจมาทำให้เราอิ่มเอม และปิดด้วยความมันแบบลุกออกจากโรงแล้วความรู้สึกยังคงติดอยู่ในใจ ส่วนตัวรู้สึกมีฉากตราตรึงใจหลายฉากเหมือนกัน
ไหน ๆ ก็เกริ่นถึงฉาก 20 นาทีสุดท้ายของเรื่องแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งซีนที่ส่วนตัวสุดฯ ชอบมาก ๆ ด้วยความที่เป็นคนติดตามวงการสตรีทแดนซ์มาบ้าง ด้วยความที่พ้อยต์หลักของเรื่องคือเล่าเรื่องสตรีทแดนซ์ ก็ต้องมีฉากเต้นและฉากแข่งขันให้ได้ชม แม้ว่าระหว่างเรื่องอาจจะไม่ได้ใส่ฉากสตรีทแดนซ์มามากมาย แต่เรื่องก็ค่อย ๆ เล่าถึงการเติบโตของตัวละครพระเอก และทีมอีมาร์ค จนไปแตะจุดไคลแม็กซ์ในช่วง 20 นาทีท้ายของเรื่องที่ใส่ฉากการแข่งขันสตรีทแดนซ์ที่เป็นซีนแบทเทิลออกมาได้เดือดมาก ชนิดที่ว่าถ้าภาพในหนังเป็นการแข่งขันจริง ๆ ก็คงจะถูกจารึกเป็นแบทเทิลระดับตำนานของวงการสตรีทแดนซ์จีนได้เลย
รีวิว สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only นักแสดงมากความสามารถมากมาย
ส่วนเรื่องการแสดงของนักแสดงแต่ละคนในเรื่อง สเต็ปกล้าท้าฝัน netflix ทุกคนถ่ายทอดออกมาได้ดี สมบทบาทที่ได้รับ เริ่มด้วยหวังอี้ป๋อที่เรื่องนี้ต้องมารับบทเป็น “เฉินซั่ว” หนุ่มที่หลงรักในการเต้นและมีความฝันอยากจะเป็นนักเต้น แต่ชีวิตของเขามันไม่ง่าย เขาต้องต่อสู้เพื่อครอบครัวและคนที่รัก ไปพร้อมกับพยายามฝึกฝนเพื่อเป็นนักเต้นให้สำเร็จ ไม่ว่าเขาจะต้องอยู่ในตำแหน่งไหนของสังคม เขาขอเพียงแค่ให้ตัวเองได้ทำตามความฝัน ได้เข้าใกล้กับความฝันหรือความรักที่ตัวเองมีต่อการเต้นก็พอ
นอกจากสองนักแสดงหลักแล้ว ยังมีนักแสดงสมทบอีกหลายคนในเรื่องที่สร้างความประทับใจให้กับเราอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบทคุณแม่และคุณน้าของเฉินซั่ว สมาชิกในทีมเต้น หนุ่มแชมป์ระดับประเทศ หนุ่มสปอนเซอร์ของทีมอีมาร์ค ผู้ช่วยของช่ายเหวิน ทุกคนต่างเติมเต็มให้เรื่องออกมาสมบูรณ์ แล้วบางบทคือไม่ใช่แค่ต้องแสดงอย่าง แต่ต้องโชว์การเต้น ซึ่งการเต้นในเรื่องก็ยากมาก แล้วต้องแสดงไปด้วย แต่ทุกคนเล่นได้ดีจริง ๆ ทั้งนักแสดงหลักและนักแสดงสมทบ ไหนจะเคมีนักแสดงก็เข้ากัน ทำให้พอเราชมแล้วเราอินไปกับความสัมพันธ์กับพวกเขามากขึ้น
งานเมสเสจของหนังเรื่องสเต็ปกล้าท้าฝันแทบไม่ต้องพูดถึง เป็นเรื่องที่สะท้อนเรื่องราวความฝันของคนออกมาได้ดี ซึ่งการจะทำตามความฝันหรืออยู่กับสิ่งที่รักได้นั้น คนเราต่างเจอเงื่อนไขชีวิตไม่เหมือนกัน คนที่เกิดมาพร้อม มีต้นทุนในชีวิต ก็อาจจะมีสิทธิ์เลือกหรือเป็นผู้ถูกเลือกมากกว่า ในขณะที่คนต้นทุนชีวิตน้อยก็ต้องพบกับอุปสรรคในชีวิต เรียกว่าหยิบประเด็นต้นทุนในชีวิตออกมาเล่าผสมผสานกับเรื่องความฝันได้อย่างกลมกล่อมและทัชใจ
สิ่งที่ประทับใจใน สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only
ต้องขอบอกว่าตัวหนังทำออกมาได้ถึงอยู่นะ ส่วนตัวตอนดูฉากช่วงท้าย เกือบเผลอปรบมือออกมา เพราะดูเป็นการแข่งขันจริงๆ มากๆ แต่ต้องเบรกตัวเองไว้ว่านี่เรากำลังดูหนังอยู่แม่ คิดดูว่าตัวหนังทำฉากนี้ถึงขนาดไหน จนอิฉันต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอปรบมือหรือร้องว้าวออกมา 555+ คือฉันอินมากแบบเหมือนกำลังเชียร์ทีมที่ชอบแข่งอยู่ ซึ่งถ้าใครเป็นสายที่เคยดูการแข่งขันสตรีทแดนซ์มาก่อน เชื่อว่าอาจจะชอบเรื่องนี้ หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยติดตามวงการสตรีทแดนซ์มาก่อนก็ตาม แต่สุดฯ ว่าก็จะสามารถอินกับฉากนี้ได้เหมือนกัน แอบดูจากคนรอบตัวแล้ว ทุกคนต่างอินไปกับฉากนี้จริงๆ
จากพล็อตแล้ว จะเห็นว่าเนื้อเรื่องหลักไม่ได้โดดเด่นฉีกหนีจากภาพยนตร์เต้นไล่ตามความฝันสักเท่าไหร่ แต่ในรายละเอียดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่นำพาให้ตัวเอกได้พานพบก็มีความน่าสนใจและเข้าสไตล์จีนแบบไม่ขัดเขิน ทำให้โดยภาพรวมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่า สนุก ดูเพลินจนลืมเวลา และว้าวกว่าที่คาดไปพอสมควรเลยแหละ
ความว้าวที่ว่านั้น เริ่มมาตั้งแต่ฉากเปิดสุดอลังที่มาพร้อมกับลองชอตอันน่าทึ่ง เมื่อผสานกับการใส่ข้อมูลด้วยบทพูดแบบเต็มแมกซ์ชนิดเร็วรัวไม่แพ้ลีลาการเต้นที่เด็ดดวง งานภาพตื่นตาแต่เริ่ม ก็ทำให้เราต่อติดเรื่องได้เร็วสุด ๆ ชนิดไม่มีช่วงเหลือ ๆ ให้หายใจกันเลย
แต่ในความว้าวของความเร็วในการเล่านี้ ก็ทำให้มีข้อเสียเกิดขึ้นนิดหน่อย อย่างในช่วงเปิดเรื่อง จังหวะการเล่าสไตล์ไปให้เร็วแบบฉบับภาพยนตร์จีน โดยเฉพาะบทพูดในตอนแรกที่อ่านแทบไม่ทัน ก็สร้างความลำบากให้แก่คนดูต่างสัญชาติอย่างเราไปสักหน่อย การเล่าบางอย่างยังไม่ข้ามพ้นความต่างของวัฒนธรรม ทำให้เกิดภาวะความเข้าใจสะดุด ๆ กันไปบ้าง แต่ยังดีที่ไม่ส่งผลต่อการเล่าเรื่องสักเท่าไหร่ เนื่องจากการเดินเรื่อง การต่อบท รวมทั้งเชื่อมภาพ ยังทำได้ดีต่อติดชวนให้ติดตาม มีประสิทธิภาพเอาคนดูอยู่
ชื่อเรื่อง สเต็ปกล้าท้าฝัน (One and Only)
ประเภท ตลก / ดราม่า
นำแสดงโดย หวังอี้ป๋อ, ฮวงปอ
กำกับโดย ต่งเฉิงเผิง
กำหนดฉาย 10 สิงหาคม 2023
ความยาว 88 นาที