รีวิวหนัง The Marvels: หนังซุปเปอร์ฮีโร่มาใหม่ รวมทีมสาวแกร่ง MCU ประจำปี 2023
หากย้อนกลับไปใน MCU Phase 3&4 เราจะเห็นว่าหนังฮีโร่ค่าย Marvel Studios จะค่อนข้างบูมมาก ๆ โดยเฉพาะ Avengers Infinity War (2018) มันคือหนึ่งในประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในการดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ในโรงภาพยนตร์ จำได้ช่วงโรงแทบแตกคนแน่นมาก หลังจากนั้นภาพยนตร์ Marvel จะดรอปลงเยอะมากจนแทบจะไม่มีใครสนใจ ประเด็นนี้อาจจะเป็นที่หนังทำออกมาไม่ได้มาตราฐานที่ควรจะเป็น หรืออาจจะเป็นเพราะคนเริ่มเบื่อหนังฮีโร่กันแล้วหรือไม่? จนในปี 2023 เราจะเห็น The Marvels หนังซุปเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวลส์ที่ใช้ตัวละครหญิงเป็นตัวนำเรื่องซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับ MCU เพราะส่วนมากเราจะเห็นแต่ฮีโร่ชายแทร่ทั้งนั้น เอาเป็นว่าหากคุณยังไม่เบื่อและยังเชื่อมั่นในพลังของ Marvel Studios เราอยากแนะนำให้คุณลองไปรับชมกัน ไม่ต้องคิดอะไรมากทำหัวโล่ง ๆ แล้วไปเปิด ก่อนดู The Marvels กันเลยครับ
- ชื่อหนัง: The Marvels / เดอะ มาร์เวลส์
- แนว: ซุปเปอร์ฮีโร่, แอ็คชัน, การผจญภัย, แฟนตาซี
- ผู้กํากับ: Nia DaCosta / เนีย ดาคอสตา
- ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์: Kevin Feige / เควิน ไฟกี
- ผู้เขียน: Nia DaCosta, Megan McDonnell, Elissa Karasik
- วันที่เข้าฉาย (โรงภาพยนตร์): 10 พฤศจิกายน 2023
- วันที่ออนแอร์ (สตรีมมิ่ง): 16 มกราคม 2024
- เวลาหนัง: 1 ชั่วโมง 45 นาที
- ผู้จัดจําหน่าย: Walt Disney Pictures
- บริษัทผลิต: Marvel Studios, Disney+
- มิกซ์เสียง: Dolby Atmos, Dolby Digital
ตัวอย่าง: The Marvels
ติดตามหนังซุปเปอร์ฮีโร่มาใหม่ได้ที่: ดูหนังใหม่
รีวิวหนัง The Marvels งานนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ MCU ตัดสินใจรวมทีมฮีโร่ 3 นักแสดงหญิงสุดแกร่ง
หลายคนอาจโตมากับซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง ‘ไอร่อนแมน’ ที่รับบทโดย ‘โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์’ หรือแม้แต่ ‘กัปตันอเมริกา’ ที่รับบทโดย ‘คริส อีแวนส์’ ฮีโร่เหล่านี้ที่ผู้เขียนกล่าวไปล้วนแล้วเป็นฮีโร่ชายทั้งนั้น ซึ่งแม้ผู้เขียนจะกล่าวแบบนี้แต่ไม่ไช่ว่า Marvel ไม่มีฮีโร่หญิงเลยนะ เพียงแต่ว่ายังไม่ค่อยถูกมาสร้างเป็นภาพยนตร์ให้เราเห็นมากนัก (คนอ่าน Marvel Comic จะรู้ดี) ฮีโร่หญิงที่ราคุ้นเคยกันส่วนใหญ่ก็จะเป็น Black widow และ Wanda vision อะไรทำนองนี้ใช่มั้ย
จนกระทั่ง ‘เนีย ดาคอสตา’ หรือ ‘Nia DaCosta’ ได้นำเสนอฮีโร่หญิงคนใหม่ในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Marvels’ แน่นอนว่านี่คือการวมพลังหญิงครั้งสำคัญโดยแท้ เพราะนอกจากจะได้ 3 นักแสดงนำหญิงมาเป็นตัวชูโรงแล้ว เรื่องนี้ยังได้ผู้กำกับหญิงดาวรุ่งไฟแรง “เนีย ดาคอสตา” มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง รวมทั้งร่วมเขียนบทหนังกับ “เมแกน แม็คดอนเนลล์” และ “เอลิสซา คาราซิก” ที่นับว่าเป็นการทำงานที่พยายามผลักดันความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในวงการหนังฮีโร แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์แตกต่างกันไปในหมู่แฟน ๆ ก็ตาม
แม้ว่าเราอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับผู้กำกับคนนี้สักเท่าไหร่ แต่หลังจากที่ผู้เขียนได้ ดูหนังออนไลน์ the marvels 2023 อาจจะต้องมองผู้กำกับ เนีย ดาคอสตา ใหม่เพราะหนังที่พี่แกสร้างมาในครั้งนี้ค่อนข้างน่าพอใจและที่เป็นที่จดจำอยู่ แม้ว่ามากกว่าครึ่งมันจะถูกเคลือบไปด้วยความฉาบฉวยสไตล์หนังมาร์เวล ที่แทบจะไม่ได้มีช่องไหนให้ผู้กำกับได้ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปได้มากสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย ๆ หนังก็มีกลิ่นอายความเป็นผู้หญิงและผู้นำได้อย่างลงตัว กลั่นกรองออกมาเป็นหนังฮีโรที่ดูได้สนุกเพลิน ๆ ไปกับครอบครัว
เรื่องย่อ: The Marvels
‘The Marvels’ คือหนังฮีโร่หญิงภาคต่อของ Captain Marvel (2019) the marvels เรื่องย่อ จะเล่าต่อจากภาคแรกโดยใช้เวลาไม่นาน นี่นับเป็นข้อดีสำหรับคนขี้ลืมอย่างผู้เขียนมาก มันช่วยทำให้สามารถเข้าถึงเรื่องราวได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น โดยในครั้งนี้ตัวหนังไม่ได้โฟกัสบทไปที่ Captain Marvel (ฮีโร่หญิงที่รับบทโดย Brie Larson) เพียงตัวเดียวที่มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่อง แต่หนังจะยังสมทบด้วยนักแสดงอีกถึง 2 ตัว เป็นต้นว่า Kamala Khan หรือ Ms. Marvel สวมบทบาท โดย Iman Vellani) รวมทั้ง Monica Rambeau (รับบทบาท โดย Teyonah Parris) เรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มขึ้นหลังจาก การที่ Dar-Benn (เล่นบท โดย Zawe Ashton) ชาวศรีผู้เผด็จการที่กําลังตามหากําไลดีเลิศเพื่อจะนำพลังนั้นมาใช้เพื่อสําหรับการฟื้นฟูถิ่นกําเนิดของตนเอง แม้กระนั้นในเวลาเดียวกัน เธอเองก็ไปล่วงล้ำยังดาวดวงอื่นเพื่อฉกชิงทรัพยากร Captain Marvel ก็เลยจําเป็นต้องออกไปหยุดยั้งเธอ แต่ทว่าโชคร้ายที่ในระหว่างกระบวนการทำภารกิจได้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นเมื่อจู่ๆ พลังของ Captain Marvel, Ms. Marvel และ Monica Rambeau ได้พันกัน ทําให้เมื่อใดก็ตามใช้พลังพวกเธอจะสลับที่กัน ฉะนั้นทั้งยัง 3 คนก็เลยจ่าต้องมาร่วมทีมกันอย่างไม่มี ทางเลือกเพื่อกีดขวาง Dar-Benn ซึ่ง สุดท้ายแล้ว เรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ทุกคน จําเป็นต้องไปรับชมด้วยตาตนเองในโรงภาพยนตร์
ติดตามรีวิวหนังเรื่องใหม่น่าดูได้ที่: รีวิวหนังฝรั่ง
เนื้อเรื่องที่มีความต่อเนื่องดูง่ายแบบเล่าต่อจากภาคที่แล้วแบบติด ๆ
เรื่องราวทั้งหมดในภาคนี้จะยังคงต่อเนื่องมาจากทั้ง 2 ภาคก่อนหน้าที่ถูกอย่างจบแบบมีเงื่อนงำและเหมือนจะมีอะไรรอคอยเราอยู่ เราจะเห็นได้ว่าใน “Captain Marvel’ รวมถึงใน End-Credits ของซีรีส์ ‘Ms. Marvel’ จะค่อนข้างซ่อนอะไรไว้เยอะ หลังจากที่ แครอล เดนเวอร์ หรือ กัปตันมาร์เวล ที่นําแสดงโดย บรี ลาร์สัน ไปล้างแค้นกําจัดมหาจอม ปัญญา ถึงหน้าบ้าน จนเป็นเหตุทําให้ชาวครีถึงกับเดือด ตาร์-เบนน์ ซาวี แอชตัน หัวหน้าจอมเปลี่ยนแปลง ก็เลยได้นํากองทัพชาวครี ไล่ยึดเอา ทรัพยากรจาก ดาวอื่นๆ มาเป็นของตัวเอง ด้วยการเจาะรูหนอนข้ามผ่านมิติ ไปยังดาวต่างๆ ทั่วจักรวาล
รีวิวหนัง The Marvels หนังฮีโร่มเวลาที่มีพล็อตเรื่องสำเร็จแบบหนังฮีโร่ทั่วไป
Marvel อาจมีความยาวภาพยนตร์ที่สั้นที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่รุ่นปัจจุบัน เพราะหนังใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่งกว่าๆ เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นหนังที่ค่อนข้างสั้นก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาเนื้อหาอย่างรอบคอบแล้วพบว่าสามารถอธิบายได้ค่อนข้างกระชับ จังหวะของเรื่องค่อนข้างอ่อนโยน
แม้จะตัดสินจากบทของมาร์เวลแล้ว แต่มันก็เต็มไปด้วยสูตรของมาร์เวลที่คุ้นเคย โครงเรื่องและโครงสร้างของภาพยนตร์ไม่มีอะไรใหม่ มันเหมือนกับพาเราย้อนกลับไปในยุคแรกๆ ของ Marvel Cinematic Universe ที่จุดขายยังเหมือนเดิมและลูกเล่นของเรื่องก็ไม่ทำให้รู้สึกตื่นเต้น ตัวละครอื่นๆ ยังขาดมิติ ซึ่งน่าเสียดาย นอกจากจะเน้นไปที่ฮีโร่หญิง 3 คนเป็นหลักแล้ว
องค์ประกอบการผลิตต่างๆ ใน ”Marvel” ถือว่าได้มาตรฐานของ Marvel แล้ว ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ทุกอย่างค่อนข้างไปในทิศทางเดียวกันกับต้นฉบับ สไตล์แอคชั่นไซไฟในอวกาศค่อนข้างน่ารัก และงาน CGI ก็…เหมือน Marvel งดงามแต่ไม่สมจริง
ร่วมติดตามหนังแอ็คชันตลกคอมเมดี้เรื่องราวของแกงค์โจรกรรมระดับประเทศได้ที่: รีวิวหนัง Lift ปล้นเหนือเมฆ
ความรู้สึกหลังรับชม: The Marvels
สำหรับหนังเรื่องนี้โดยส่วนตัวแล้วหลังจากที่ได้ดูตัวอย่างแล้วรู้สึกว่าไม่อยากดูเลย แต่เนื่องจากผมติดตามจักรวาล MCU อยู่เสมอ ผมจึงต้องบันทึกทุกอย่างเพื่อไม่ให้พลาดสิ่งใด ผมจึงตัดสินใจลองดู แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่ามันดูดี มันสนุกที่จะดู คือว่าพอดูตัวอย่างก็นึกว่าจะแย่กว่านี้อีกเยอะ ความผิดอยู่ที่คนตัดตัวอย่างจริงๆ สิ่งที่แก้ไขแล้วไม่น่าดูเลย สคริปต์ส่วนนี้เขียนตามสูตรสำเร็จ เริ่มต้นด้วยการเปิดเผยเป้าหมายของคนร้าย มีเบาะแสว่าทำไมคนร้ายถึงทำเช่นนี้ ต่อไปเราจะวางรากฐานในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างฮีโร่ทั้งสามนี้ งานเล็กๆ ยังคงดำเนินการในลักษณะที่สร้างความสับสน โดยมีข้อผิดพลาดและไม่สอดคล้องกันบางประการ ผ่านไปได้ครึ่งเรื่อง เราเห็นทั้งสามคนเริ่มเข้ากันได้ มีการฝึกความแข็งแกร่ง จากนั้นทีมก็ทำงานร่วมกันเพื่อต่อสู้กับคนร้ายเป็นครั้งสุดท้าย และเรื่องราวก็จบลงตรงนั้น ฉันหมายความว่านั่นคือสูตรสากลแห่งความสำเร็จจริงๆ ในส่วนของเนื้อเรื่องก็ค่อนข้างดีตามมาตรฐาน อาจเป็นเพราะหนังเรื่องนี้มีความยาวเพียง 1 ชั่วโมง 45 นาที ทุกอย่างจึงดูรวดเร็วแต่ก็กระชับในตัวมันเอง
