รีวิวหนังฝรั่ง Top Gun: Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค

สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้เราจะมา รีวิวหนังฝรั่ง แนวสงคราม แอ็คชั่น ดราม่า ที่ในยุคสมัยนี้ เราคงจะไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ แล้ว เป็นหนังใหม่ ปี 2022 ที่เพิ่งฉายได้ไม่นาน แต่จะพูดอย่างนั่นก็ไม่ถูกซะเท่าไหร่ เพราะเดิมทีแล้ว หนังเรื่องนี้ก็เป็นภาคที่ 2 เพราะหนังภาคแรกสร้างขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน เรียกได้ว่าห่างหายไปนานจริง ๆ ครับสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่อย่างเสพเนื้อหาที่ตื้นเต้น เร้าใจ ไปกับบรรยากาศบนเครื่องบิน อย่างลืมไปรับชมหนัง Top Gun: Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค

รีวิวหนังฝรั่ง Top Gun: Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค

รีวิวหนังฝรั่ง Top Gun: Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ โจเซฟ โคซินสกี

ขนานมากับช่วงเวลาที่หนังภาคต่อเรื่องนี้ทิ้งห่างมา ในวันนี้พีท ‘มาเวอร์ริก’ มิตเชล (รับบทโดย ทอม ครูซ Tom Cruise) ยังคงจมปลักกับภาพอดีตอันแสนเลวร้ายที่ต้องเห็นเพื่อนร่วมบินอย่าง กู๊ส ตายไปต่อหน้าต่อตาเมื่อ 36 ปีก่อน

และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อชะตาได้พามาเวอร์ริกมาเผชิญหน้ากับ แบรดลีย์ ‘รูสเตอร์’ แบรดชอว์ (รับบทโดย ไมล์ส เทลเลอร์) ลูกชายของกู๊สที่เข้ามายังท็อปกันเพื่อคัดเลือกเป็นนักบินในภารกิจเสี่ยงตายทำลายฐานผลิตอาวุธนิวเคลียร์มหาประลัย

รีวิวหนังฝรั่ง Top Gun: Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค

top gun: maverick netflix ในฉบับใหม่ของผู้กำกับ โจเซฟ โคซินสกี (Joseph Kosinski) ออกมาจริง ๆ มันก็คือพิมพ์เขียวของหนัง ‘Top Gun’ เมื่อ 36 ปีก่อนแทบไม่มีผิดเพี้ยน หลายอย่างที่หนังฉบับ โทนี สก็อตต์ (Tony Scott) ได้ทิ้งมรดกอันมีค่าไว้ตั้งแต่ไตเติลเปิดเรื่องที่กล่าวถึงโรงเรียนท็อป กัน

ที่จบด้วยโลโก้ของหนัง ฉากแอ็กชันผาดโผน ความเป็นฮีโรโรแมนติกของมาเวอร์ริกผ่านซีนขี่บิ๊กไบค์ไล่ไปกับฉากหลังที่เอฟ 18 กำลังพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า ไปจนถึงเรื่องราวโรแเมนซ์ของมาเวอร์ริกที่ยังอุตส่าห์ไปขุดอดีตคนรักของเขาที่ถูกกล่าวถึงในบาร์ของหนังภาคแรกมาสานต่อเป็นตัวละครของ เจนนิเฟอร์ คอร์เนลลี (Jennifer Cornelly)

เรื่องย่อ

top gun maverick เรื่องย่อ กัปตัน Maverick ถูกเรียกตัวกลับมา Top Gun ในฐานะครูฝึก เพื่อสอนนักเรียนการบินหัวกะทิรุ่นใหม่ให้พร้อมสำหรับภารกิจ Mission Impossible ใน 3 สัปดาห์ หนึ่งในนักเรียนของเขาคือ Bradley “Rooster” Bradshaw (Miles Teller จาก Whiplash) ลูกชายของ Goose (Anthony Edwards)

คู่หูคู่ซี้ของเขาที่เสียชีวิตขณะฝึกบินกับเขาในหนังภาคแรก ซึ่งปมของคู่นี้เป็นปมสำคัญของเรื่อง และก็ยังมี Hangman (Glen Powell) ที่เป็น The Best of The Best และมีนิสัยจองหอง เสมือนเป็นตัวแทนของ Maverick เองกับ Iceman ในสมัยยังเป็นนักเรียน และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของคนสองเจนเนอเรชั่นที่แตกต่าง

รีวิวหนังฝรั่ง Top Gun: Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค

หนังภาคต่อที่ห่างหายไปจากวงการภาพยนตร์ถึง 36 ปี

หากจะให้รางวัลความทรหดอดทนกับหนังฟอร์มยักษ์เรื่องไหนคงหนีไม่พ้น ‘Top Gun : Maverick’ ที่ผ่านการตีลังกาหกสูง ทำวิถีโค้งต้านแรงโน้มถ่วงเพื่อรอโอกาสเหมาะ ๆ หลังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 เพื่อเข้าฉายให้ผู้ชมพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของหนังภาคต่อที่ทิ้งห่างมาถึง 36 ปี

รีวิวหนังฝรั่ง Top Gun: Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค

ท่ามกลางข้อครหามากมายโดยเฉพาะความน่าหวาดหวั่นที่ว่าหนังแอ็กชันที่เต็มไปด้วยฮอร์โมนเพศชายแบบหนังยุค 80s จะยังมีที่ทางในตลาดหนังที่ถูกครองด้วยซูเปอร์ฮีโรหุ่นซิกซ์แพ็กและเอวเอสอยู่หรือไม่ ซึ่งถือเป็นบททดสอบที่ยากพอ ๆ กับเหล่านักบินที่ต้องผ่านสนามฝึกสุดโหดกลางเวหาเลยทีเดียว ดูหนังออนไลน์

พูดคุยความรู้สึกหลังรับชม

ถ้าจะกล่าวกันตรงๆ Top Gun : Maverick ก็ยังคงเป็นหนังแอ็กชันแบบ Old-School ซึ่งมันไม่ใช่หนัง ยุคสมัย ใหม่ แบบหนัง ซูเปอร์วีรบุรุษ ที่เต็มไปด้วย สเปเชียลเอฟเฟกต์มากมายก่ายกอง แต่ว่ามันเป็นหนังแอ็กชันแบบที่ สตันท์ การที่ดาราหนัง หรือ ดาราหนังแทนเล่นฉากแอ็กชัน เสี่ยงตายด้วยตัวเองจริงๆ

ซึ่งโน่นเป็นสิ่งที่ ทอม คุณครูซ เชื่อถือ ตลอดมา และก็พิสูจน์มาแล้ว ใน Mission: Impossible หลายต่อหลายภาค ใน Top Gun : Maverick ทอม รวมทั้ง ผู้แสดงสมทบต่างจําเป็นต้องขับเรือบินรบด้วยตัวเอง (รวมทั้งถ่ายทําด้วยตัวเอง โดยใช้ กล้องถ่ายรูป ติดเอาไว้ภายในที่นั่งนักบิน)

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ฉากต่างๆ ในที่นั่งนักบินก็เลยออกมาสมจริงสมจัง สูงถึง สูงที่สุด สิ่งต่างๆ ที่ปรากฏในหนัง ล้วนเป็นแอ็กชันที่บางทีอาจจะไม่หวือหวาเท่าหนังที่เน้นย้ํา VFX แม้ กระนั้นมันมองเรียล แล้วก็ดึงอารมณ์ก้าวหน้ามากมายๆ

ข้อดีมากๆของ Top Gun : Maverick ที่ทำให้องค์ประกอบต่างๆลงตัว และดึงผู้ชมเข้าไปสู่หนังได้ตลอดคือ Pacing หรือจังหวะความเร็วในการเล่าเรื่องของหนัง หนังไม่ได้เร่งรีบอะไรมากมายนัก ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ยืดยาดจนน่าเบื่อ ทุกฉากใช้จังหวะตัดต่อดึงอารมณ์ได้อย่างพอดี และเมื่อฉากต่างๆในการปูเรื่อง ถูกปูมาอย่างพอเหมาะ

จนผู้ชมค่อยๆซึมซับอารมณ์ของตัวละคร เริ่มอินกับปมระหว่างตัวละคร พอเมื่อไปถึงฉากไคลแม็กซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 30 นาทีสุดท้าย เมื่อทุกอย่างมันขมวดเข้าด้วยกัน กลายเป็นความรู้สึกที่ลุ้น บีบหัวใจ มากกว่าหนังแอ็กชันทั่วไป ฉากบู๊ที่ตื่นเต้นมากๆอยู่แล้ว

ยิ่งเร้าอารมณ์เข้าไปใหญ่ด้วยปมแวดล้อมที่ถูกค่อยๆผูกมากอย่างดี อาจกล่าวได้ว่า Top Gun : Maverick เป็นหนังแอ็กชันที่ประณีตในการเล่า และค่อยๆรีดอารมณ์จากผู้ชมได้อย่างดีมาก จนบางครั้งเราอดน้ำตาซึม หรือปรบมิือให้กับตัวละครอย่างไม่รู้ตัว !

รีวิวหนังฝรั่ง Top Gun: Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค ภาพยนตร์ภาคต่อ ท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า

อปกัน: มาเวอริค (Top Gun: Maverick) เป็นภาพยนตร์แอคชันดรามาอเมริกันที่กำกับโดย โจเซฟ โคซินสกี เป็นภาคต่อของเรื่อง ท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า ในปี ค.ศ. 1986 จากบทภาพยนตร์โดย เอห์เรน ครูเกอร์, เอริค วอร์เรน ซิงเกอร์ และ คริสโตเฟอร์ แมคควอรี

และเรื่องราวโดย ปีเตอร์ เครก และ จัสติน มาร์คส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย ทอม ครูซ, ไมลส์ เทลเลอร์, เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี, จอน แฮมม์, เกลน โพเวลล์, ลูวิส พูลแมน, เอ็ด แฮร์ริส และ วัล คิลเมอร์ ครูซและคิลเมอร์ยังรับบทนำต่อจากภาพยนตร์เรื่องแรก บอกเล่าเหตุการณ์ประมาณ 30 ปีหลังภาพยนตร์ภาคแรก

ท็อปกัน: มาเวอริค ออกฉายในสหรัฐในวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 โดยพาราเมาต์พิกเจอส์ ท็อปกัน: มาเวอริค ทำเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก เดิมมีกำหนดฉายในวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 แต่ถูกเลื่อนออกไปเพื่อ “ให้มีการถ่ายทำฉากการบินที่ซับซ้อนทั้งหมด”

จากนั้นการเปิดตัวก็ล่าช้าออกไปอีกเนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 และความขัดแย้งในการกำหนดเวลาฉาย กลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 2 ในปี ค.ศ. 2022 เป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 11 เป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดในสหรัฐและแคนาดาเป็นอันดับที่ 5 และเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกาของค่ายพาราเมาต์พิกเจอส์

ทำไมถึงต้องดูเรื่องนี้!

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงคิดเหมือนกัน ส่วนมากเราจะพบหนังภาคต่อทำออกมายอดแย่หรือไม่ดีเท่าภาคแรกเลย ซึ่งผมเองก็กลัวว่าจะเป็นอย่างนั่น แต่สำหรับ Top Gun: Maverick นั้นตรงกันข้าม Top Gun: Maverick เป็นหนังภาคต่อที่ยอดเยี่ยม เชื่อมความคลาสสิกของยุคเก่ากับยุคใหม่อย่างลงตัว (ทั้งความเป็นหนังแต่ละยุค และความเป็นคนแต่ละรุ่น)

หนังทำได้ดีมาก ๆ ทั้งในพาร์ทมนุษย์และในพาร์ทเครื่องบิน หนังมีบทที่วางมาอย่างดี และเรื่องราวในตัวมันเอง คนที่ไม่เคยดูภาคแรกมาก่อนก็ดูรู้เรื่องแน่นอน 100% แต่คนที่เคยดูภาคแรกมาก่อนอาจอินมากกว่าเพราะมีความผูกพันกับความสัมพันธ์ตัวละครมากกว่า

ฉากแอ็คชั่นบนเครื่องบินในภาคนี้ก็มีจุใจและทำได้ระทึกเสียวโคตรมากกว่าภาคแรก (ส่วนหนึ่งอาจเพราะเราได้ชมภาคนี้บนจอใหญ่ด้วย และจริง ๆ แล้ว ภาคแรกในยุคนั้น มันก็ว้าวในตัวมันเอง ณ เวลานั้นด้วยเช่นกันแหละ) ซึ่งเราแนะนำว่า มันต้อง IMAX เท่านั้นจริงๆถึงจะได้รับความสนุกอย่างแน่นอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *