รีวิว Resident Evil ผีชีวะ

หลังจากที่ปิดฉากผีชีวะในยุคของ “มิลลา โยโววิช” ลงไป หนังชุดนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์อันทรงคุณค่าและสร้างความน่าประทับใจได้มากมายสักเท่าไหร่ เพราะช่วงหลังเกือบจะหลุดออกทะเลไปเสียแล้ว แต่ โซนี่ ก็ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะพวกเขายังหยิบเรื่องราวในจักรวาลนี้มาเล่าใหม่ ในรูปแบบเชิงรีบูตใหม่ใน “Resident Evil: Welcome to Racoon City” (ผีชีวะ ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ) ที่มาทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้น  ย้อนเล่าจุดกำเนิดการอุบัติของหายนะทั้งหมด ที่ดูทรงเหมือนจะเคารพต้นฉบับวิดีโอเกม แต่รสชาตินั้น…ฝาดชะมัด รีวิว Resident Evil ผีชีวะ รีวิวหนังฝรั่ง

Resident Evil: Welcome to Raccoon City (2021) ผีชีวะ

 

ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022 Resident Evil: Welcome to Raccoon City เล่าเรื่องราวย้อนกลับไปในช่วงปลายยุค 90s ที่ครั้งหนึ่ง Raccoon City เคยเป็นบ้านที่แสนเฟื่องฟูของ Umbrella Corporation บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ แต่ตอนนี้กลายเป็นเมืองแถบมิดเวสต์ที่กำลังจะตายลง การอพยพของบริษัทนี้ทำให้เมืองกลายเป็นเมืองร้าง พร้อมด้วยปีศาจที่โผล่พ้นขึ้นมาสู่ผิวดลก เมื่อปีศาจถูกปลดปล่อย เหล่าชาวเมืองก็ได้ ‘เปลี่ยนแปลง’ ไปตลอดกาล โดยมีคนกลุ่มหนึ่งที่รอดชีวิต พวกเขาต้องหันมาร่วมมือกันเพื่อเปิดโปงความจริงเบื้องหลัง Umbrella และเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปให้ได้ ดูหนังออนไลน์

ที่เกริ่นเอาไว้บนพาดหัวของรีวิวหนังก็คงไม่ได้กล่าวเกินจริงอะไรเลย เพราะว่า  เป็นหนังที่ค่อนข้างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน เต็มไปด้วยลูกเล่นซ้ำๆ เดิมๆ

ที่พบเจอในหนังตระกูลซอมบี้ จึงกลายออกมาเป็นหนังที่ดูเชยไปทุกย่างก้าวที่ถ่ายทอดออกมา การดำเนินเรื่องเหมือนจะไม่ช้า แต่ก็ค่อนข้างช้าเพราะเป็นการเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหายนะเท่านั้น ดูหนังฟรี

“โยฮันเนส โรเบิร์ตส์” ที่ขึ้นมาจากทะเลสู่ฝั่งแรคคูนซิตี้ ที่เขาได้มาย่ำยีหัวใจของแฟนๆ วิดีโอเกมชุดนี้เหลือเกิน เขาทำหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าวิสัยทัศน์โดยรวมของเขายังไม่สามารถแบกรับหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้ ภาพรวมที่ออกมาจึงไม่ต่างไปจากหนังที่เล่าเรื่องแคบๆ ชวนอึดอัดๆ ที่ไร้เสน่ห์บนหน้าจออย่างสิ้นเชิง เป็นช่วงเวลาชั่วโมงกว่าๆ ในการดูหนังเรื่องนี้ที่อยากหยิบโทรศัพท์มาไถ่อัปเดตฟีดข่าวทันกระแสยังจะดูมีประโยชน์มากกว่า

ยังทำได้ไม่ถึงสุด หนังพยายามที่ใส่ความสยองขวัญแบบหนังยุคก่อนเข้าไปผสมๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ทิ้งความเป็นหนังซอมบี้ไปไม่ได้ ความพยายามทั้งหมดกลายเป็นเพียงแค่อารมณ์ครึ่งๆ กลางๆ หนังทำได้ไม่สุดเลยสักทางเดียว จะชวนหลอนในตกใจก็ไม่ทำไม่ถึง จะขยะแขยงกับปีศาจที่ใส่เข้ามาก็ยังไม่ไหว ทุกๆ สิ่งในหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นโทนที่แบนราบและไม่รู้สึกตามสนุกไปด้วยเลย

Resident Evil: Welcome to Raccoon City (2021) ผีชีวะ

และมาได้เจอกับแคสติ้งหลักของหนังเรื่องนี้ ที่ทำให้อยากจะก้มลงไปกุมขมับ เห็นได้ชัดถึงความพยายามที่อยากจะเคารพต้นฉบับวิดีโอเกม ไม่ว่าจะใช้ตัวละครออริจินัลเข้ามา เช่น แคลร์ กับ คริส เรดฟิลด์, จิล วาเลนไทน์ หรือ อีออง เคนเนดี้ แต่ปรากฏว่าการดีไซน์ตัวละครเหล่านั้นออกมาช่างจืดชืด และไม่มีอะไรให้น่าจดจำพวกเขาได้เลยสักนิดเดียว บทหนังไม่สามารถส่งให้เข้าถึงตัวละครแทบจะทุกตัว ไร้เสน่ห์และอารมณ์ร่วมอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้นจึงทำให้ “คายา สโคเดลาริโอ”, “ร็อบบี้ เอเมลล์”, “แฮนนาห์ จอห์น-คาเมน” หรือ “ทอม ฮอปเปอร์” ใช้เพียงแค่พลังความสตาร์ในตัวพวกเขามาขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ เพราะบทบาทที่พวกเขาได้รับนั้น แทบจะไม่เข้ากับตัวพวกเขาเลย กลายเป็นเพียงการสวมบทบาทและแสดงไปให้จบๆ เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีชั้นเชิงและเสน่ห์ใดๆ ที่พวกเขาสามารถขับออกมาได้จากตัวละครที่เป็นไอคอนหลักประจำหนังชุดเลย

อันที่จริงโครงเรื่องในหนัง  ถือว่าค่อนข้างสนใจ เพราะต้องมีใครใคร่อยากรู้ถึงต้นสายปลายเหตุของอุบัติภัยที่เกิดขึ้น ที่เป็นต้นตอของหนังแฟรนไชส์ชุดที่แล้ว แต่กลายเป็นว่าภาคต้นภาคนี้กลับตอบโจทย์ผู้ชมยังไม่ได้ เจาะเข้าไปไม่ถึงจุด

และเป็นเพียงแค่การเล่าเรื่องแบบผิวเผินที่พยายามที่สร้างความสยองและบิ้วความสนุกเกินไป จนกลายเป็นความไม่สนุก

Resident Evil: Welcome to Raccoon City (2021) ผีชีวะ
อย่างน้อยๆ แล้ว  ก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้หนัง Resident Evil ฉบับของ มิลลา โยโววิช ดูดีขึ้นมาเป็นกองเลย อย่างน้อยๆ เวอร์ชั่นก่อนก็ยังมีจุดเด่นและเสน่ห์ในตัวที่แฟนๆ ใฝ่หา แต่กลับในเรื่องนี้นั้น ยังไม่ใช่การแก้โจทย์สมการที่น่าจะเข้ากับแฟนๆ ได้ดีเท่าไหร่ที่ควร ก็เป็นเพียงหนังซอมบี้จังหวะเชยๆ ที่บอกเลยว่าเชยสะบัดตั้งแต่นาทีแรกที่เปิดเรื่องขึ้นมาก็ว่าได้…

เป็นอีกเรื่องที่คนดูหนังเสียงแตกเป็นสองฝั่งหลังชมภาพยนตร์ ผีชีวะ Resident Evil ภาคล่าสุดซึ่งเป็นภาคย้อนต้นไปยังเมือง Raccoon City ต้นกำเนิดผีดิบที่เป็นผลจากการทดลองของบริษัท Umbrella เนื่องจากเรื่องนี้สร้างจากเกมดัง คนที่เล่นเกมก็จะคาดหวังไปแบบหนึ่งผลปรากฏว่าไม่ได้อย่างใจสู้เกมไม่ได้ก็จะไม่ชอบหนังภาคนี้ ส่วนคนดูที่ไม่ได้เล่นเกมโดยมากจะไม่ชอบเวอร์ชั่นมิลล่า โจโววิช ที่ผ่านมาทั้ง 6 ภาค เพราะดูแล้วเหมือนเล่นเกม กลับชอบหนังเรื่องนี้ที่ดูมีความเป็นหนังมากกว่า มีการแจกบทตัวละคร มีสถานการณ์ มีเหตุผลที่มาที่ไปของแรงจูงใจและการกระทำแต่ละอย่างมากกว่า ทั้งหนังตั้งใจทำให้เหมือนหนังสยองขวัญเกรดบีเมื่อ 50 ปีที่แล้วซึ่งดูแล้วได้อารมณ์มาก ผู้โพสท์อยู่ในฝั่งของคนที่ชอบจึงให้ได้ถึง 8 เต็ม 10 แม้ว่านักวิจารณ์เว็บมะเขือจะชอบกันแค่ 30% ก็ตาม

ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ เป็นภาพยนตร์จากประเทศแคนาดา เรท R ความยาว 1 ชั่วโมง 47 นาที ประเภท แอ็คชั่น สยองขวัญ และ ไซไฟ เข้าฉายประเทศไทย 27 มกราคม 2565 แต่จัดเป็นหนังของปี 2021 เนื่องจากฉายในหลายประเทศไปแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะนี้ทำเงินไปแล้ว 32 ล้าน $ ทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวเลขจากสหรัฐฯ 17 ล้าน ถือได้ว่าพอถูไถในยุคโควิด

เรื่องราวย้อนกลับไปราว 30 ปีที่แล้ว ประมาณยุค 90 ก่อนที่แร็คคูนซิตี้สถานที่ก่อตั้งดั้งเดิมของบริษัทอัมเบรลล่าจะถูกทำลายเนื่องจากสารพิษรั่วไหลก่อให้เกิดผีดิบเต็มบ้านเต็มเมือง น้องสาวกลับมาหาพี่ชายและพบว่าตำรวจทั้งสถานีไม่มีใครป่วยเหมือนชาวบ้านเลย เมื่อทุกคนที่ยังมีชีวิตรู้ความจริงว่าเมืองกำลังจะถูกทำลายก็พากันหาทางหนีเอาตัวรอดท่ามกลางดงผีดิบและสัตว์ประหลาดที่กำลังครองเมือง ใครดูแล้วชอบไม่ชอบก็แล้วแต่เลยนะครับ ถ้าไม่ได้ดูแล้วกำลังตัดสินใจบทความนี้ก็น่าจะชี้แนะได้ว่า ถ้าที่ผ่านมาไม่ชอบเวอร์ชั่นมิลล่า ก็น่าจะชอบภาคนี้ แต่ถ้าเป็นคนที่เล่นเกมและชอบมิลล่า ก็จะไม่ชอบภาคนี้

“Resident Evil” เชื่อว่าชื่อของเกมนี้ สามารถที่จะทำการตราตรึงใจของนักเล่นเกมให้สัมผัสกับความสยดสยองได้เป็นอย่างดี ในการพยายามเอาตัวรอดควบคู่ไปกับการช่วยเหลือโลกไม่ให้ล่มสลายจากการทดลองเชื้อไวรัสชีวะภาพที่เปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็นซอมบี้แสนร้ายกาจที่ไม่มีเหตุผลหลงเหลืออยู่

เมื่อมีการหยิบเอาเนื้อหาของเกมนี้ มาสร้างเป็นหนังสยองขวัญ Resident Evil: Welcome to Raccoon City ผีชีวะ ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ เชื่อว่าก็คงจะทำให้หลายคนตั้งตารอว่าจะได้เห็นความสยองขวัญแบบต้นตำรับ แต่.. หนังเรื่องนี้จะน่าดูหรือเปล่านั้น!? ประเด็นนี้คงต้องลองมาติดตามจากบทความชิ้นนี้กันเลย

หนังสยองขวัญ Resident Evil: Welcome to Raccoon City ผีชีวะ ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ เป็นเรื่องราวของเมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่าแรคคูนซิตี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยเฟื่องฟูเนื่องจากเป็นสถานที่ตั้งของบริษัทผลิตยาชั้นนำอย่างอัมเบลล่า คอเปอเรชั่น แต่หลังจากที่บริษัทย้ายฐานการผลิตก็ทำให้เมืองนี้ค่อย ๆ ซบเซาลง แถมพวกเขายังได้ทิ้งสารเคมีอันชั่วร้ายเอาไว้ที่ทำการเปลี่ยนชาวเมืองให้กลายเป็นซอมบี้ร้ายกระหายเลือด

ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ คือ สถานีตำรวจที่เหมือนกับในเกมอย่างมากราวกับถอดแบบทั้งหมดออกมาเลย (แน่นอนว่าทำได้อยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่เป็น CGI) กับฉากของคนขับรถบรรทุกคว่ำที่ถูกถอดแบบออกมาจากในเกมแบบเหมือนต้นฉบับเป็นอย่างมาก รีวิว Resident Evil ผีชีวะ

ส่วนของจุดด้อย แม้ว่าทางผู้กำกับบอกว่าพวกเขาจะทำการสร้างภาพยนตร์ที่อ้างอิงจากเกมให้มากที่สุด แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็น “ความห่างไกลจากเกม” มากยิ่งกว่าเดิม หนังเรื่องนี้ผิดพลาดตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดงที่เข้ามามีบทบาทแล้ว จนทำให้ตัวละครในเกมกับนักแสดงไปในคนละทิศละทางกันในระดับที่แฟนเกมต้องอุทานออกมาดัง ๆ ว่า “พวกคุณเป็นใครกันเนี่ย!?” แถมการพยายามยัดตัวเอกสองภาคเข้ามาไว้ด้วยกัน ผลคือทำให้บทบาทตัวละครจืดชืดไม่น่าติดตาม

การพยายามยัดเนื้อหาของเกมทั้งสองภาคแรก เข้าไปในหนังสยองขวัญ Resident Evil: Welcome to Raccoon City ผีชีวะ ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ ที่มีเวลาเพียง 1.40 นาที มันเป็นเรื่องที่ใจกล้าบ้าบิ่นจนเกินไป ที่จริงมันก็ทำได้หากมีการเหลื่อมของเวลาอย่างเหมาะสม ซึ่งในเกมทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก แต่ในหนังกลับเหมือนกับพยายามยัด ๆ มันเข้าไปให้พอดีกับเวลาที่มี

ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นแฟนเกม Resident Evil ต้องขอยอมรับตามตรงว่าได้คาดหวังเอาไว้กับหนังสยองขวัญ Resident Evil: Welcome to Raccoon City ผีชีวะ ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบค่อนข้างมากเลยทีเดียว ดังนั้น เมื่อได้ดูจนจบสิ่งที่ได้พบคือ “ความผิดหวัง” เอาการ

ดังนั้น หนังสยองขวัญ Resident Evil: Welcome to Raccoon City ผีชีวะ ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อนในระดับที่พอถูไถไปได้ แต่ถ้าหากใครเคยเล่นเกมมาก่อน ขอแนะนำว่าให้ “ข้ามไปดูหนังเรื่องอื่นก่อน” จะเป็นการดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจจะเสียใจอย่างแรงได้อย่างไม่คาดคิด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *