รีวิว Mother/Android กองทัพแอนดรอยด์กบฏโลก

จากวันที่เรารู้จักใช้ไฟ ทำให้เวลาในการย่อยอาหารนั้นลดลง มนุษยชาติก็เริ่มจะพัฒนาตัวเองได้ไวจนในปัจจุบัน เราคาดหวังถึงอนาคตกันแล้วว่า อีกไม่นาน เราจะมีหุ่นยนต์คอยรับใช้ประจำบ้านและสถานที่ต่างๆ ดูหนังฟรี แต่ก็เช่นกัน มีนิยายหลายต่อหลายเรื่อง ภาพยนตร์มากมายที่กำลังบอกเล่าถึงภัยที่อาจมาถึงตัวเราถ้าไม่ระวังตัว หุ่นแอนดรอยด์รับใช้อาจกลายเป็นภัยคุกคามอย่างคาดไม่ถึง Mother/Android ก็คือหนึ่งในนั้น รีวิวหนังฝรั่ง รีวิว Mother/Android กองทัพแอนดรอยด์กบฏโลก

รีวิว Mother/Android กองทัพแอนดรอยด์กบฏโลก

ดูหนังออนไลน์ เรื่องราวในหนังเรื่องนี้อาจเป็นอุทธาหรณ์และสิ่งย้ำเตือนถึงอนาคตอันใกล้ เมื่อมนุษย์คิดค้นและพัฒนาเอไอให้หุ่นแอนดรอยด์คิดได้ใกล้เคียงมนุษย์ และพวกมันอาจลุกขึ้นมาปฏิวัติฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ในสักวันหนึ่ง และกลายเป็นพวกเรานี่เองที่ต้องกระเสือกกระสนหนีตาย และเด็กเกิดใหม่คงเหลือน้อยนิด จนวันหนึ่ง ก็อาจสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022

ตัวอย่างหนัง มาเธอร์/แอนดรอยด์ | Miramax
เมื่อหนีรอดออกมาได้ พวกเขาทั้งสองต่างก็พยายามเอาตัวรอดในป่าที่ห่างไกลผู้คน แต่ยิ่งนานวัน ท้องของจีก็เริ่มแก่และใกล้คลอดเข้ามาทุกที พวกเขาจำเป็นต้องเดินทางยังบอสตัน แต่ระหว่างทางนั้น พวกเขาต้องพบเจออะไรมากมาย ทั้งกองทหาร และเหล่าแอนดรอยด์ที่ดักซุ่มรออยู่

คงต้องติดตามกันแล้วล่ะ ว่าจอร์เจียจะเป็นแม่ได้สำเร็จสมใจหวังหรือไม่

รีวิว Mother/Android กองทัพแอนดรอยด์กบฏโลก

ผลงานจากผู้กำกับอย่าง Mattson Tomlin นั้น อาจไม่เป็นที่คุ้นตาคนไทย ผลงานของเขาส่วนใหญ่เป็นหนังสั้น ยามโปรโมตจึงใช้คำโปรยว่าเป็นหนังจากทีมโปรดิวเซอร์เดียวกับ The Batman แต่กระนั้นก็ถือเป็นการชิมลางสร้างหนังยาวขนาดใหญ่กว่าที่เคย

อย่างน้อยมีตัวเอกฝ่ายหญิงเป็น Chloë Grace Moretz ที่ผู้คนรู้จักกันทั่วโลก ร่วมกับตัวเอกฝ่ายชายที่รับบทโดย Algee Smith ที่อาจไม่คุ้นหน้าสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ก็ในหมู่นักดูหนัง หน้าของเขาก็เริ่มเป็นที่คุ้นเคยบ้างแล้ว เสริมทัพด้วย Raúl Castillo ที่เคยอยู่ในหนังอย่าง Wrath of Man, Knives Out, We the Animals และซีรีส์อย่าง Atypical ที่เหลือก็เป็นบทเล็กบทน้อยที่ผ่านมาแล้วก็ไป

หนังค่อนข้างให้ความสำคัญกับตัวละครหลักอย่าง จอร์เจีย และ แซม สองหนุ่มสาวที่เคยอยู่ในเมือง กับชีวิตที่ดูสุขสบาย มีแอนดรอยด์คอยรับใช้ แต่พอเกิดเหตุคืนนั้น ทั้งสองก็ต้องระหกระเหินเดินป่าอยู่หลายเดือน ทำตัวให้เงียบที่สุด ให้หลุดพ้นและรอดชีวิตจากเหล่าแอนดรอยด์ เพื่อจะไปยังพื้นที่ที่จะเลี้ยงดูลูกน้อยอย่างปลอดภัย

รีวิว Mother/Android กองทัพแอนดรอยด์กบฏโลก

มันเป็นหนังเอาตัวรอดในรูปแบบหนึ่งที่มีทั้งช่วงเวลาลุ้นระทึก การหลบหนีการถูกตามไล่ล่า และช่วงเวลาของการพูดคุยสนทนา หนังจึงมีความสนุก ลุ้น ตื่นเต้น สลับกับช่วงเวลาที่แผ่วลงไป

ในด้านแสดงนั้น คงไม่อาจหลับหูหลับตา ทำเป็นไม่ชื่นชมในความสามารถในการแสดงของโคลอี้ไปได้ แต่ทว่า ช่วงเวลาของการสนทนา ค่อนข้างราบเรียบและใช้เวลานานเกินไป ยิ่งมนุษย์แต่ละคนต้องกระซิบกระซาบกันแล้ว ยิ่งทำให้หนังยิ่งเงียบ [แถมทีวีสมัยนี้ เสียงคุยเบากว่าเสียงดนตรีประกอบ บรรยากาศในการดูในบ้านจึงต่างกับโรงหนังอย่างสิ้นเชิง] พอสลับมาลุ้นไล่ล่า ก็พบว่า บางฉากมันดูไม่สมเหตุสมผลจนชวนกังขา ทีแรก คุยกันว่าจะไปอย่างเงียบๆ เอาจริง กลับเล่นตึงตังจนถูกไล่ล่า อีกอย่างคือ หญิงท้องแก่แต่ต้องซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ที่บิดซิ่งอย่างไวในป่า อะไรแบบนี้

ความไม่สมเหตุผลของหนังนั้นปรากฏอยู่ทั่วไปหมด ไม่ว่าจะเป็น จอร์เจียกลายเป็นสาวที่ขี้เหวี่ยงขี้วีนอยู่ตลอด ทุกเช้าเธอจะต้องสะดุ้งตื่น เธอเลือกจะเก็บลูกไว้ทั้งที่ยังไม่แน่ใจในผู้ชายคนนี้ มุ่งมั่นเดินป่าทั้งที่ท้องแก่ใกล้คลอด ฝนตกหนักก็ยังคงลุยไม่สนสุขภาพ ตั้งความหวังจะไปเกาหลีทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าที่นั่นปลอดภัยจริงๆ หรือเปล่า และ บลา บลา บลา

เมื่อดูจากโปรดักชันก็อาจมองเห็นถึงความประหยัดทุนที่ชัดเจน ฉากต่อสู้ที่ดูไม่มีอะไรนัก แถมยังมีน้อยกว่าที่ควรด้วย กลายเป็นว่า หนังทำได้เพียงให้เราดูการแสดงของน้องโคลอี้กันไปเพลินๆ

เท่าที่รู้สึก หนังมีพล็อตทวิสต์อยู่หนนึง ซึ่งก็ทำให้ประหลาดใจได้พอตัว และก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น บทลงเอยของหนังก็กลับดูยืดยาว เรื่องราวที่ดูไม่น่าสนใจ กลายเป็นหนังที่ดูเอาเพียงผ่าน

วันหยุดสุดสัปดาห์อีกแล้ว วันนี้มีภาพยนตร์เรื่อง Mother/Android มาฝากค่ะ ผลงานของนักแสดงสาวสวย โคลอี้ เกรซ มอเรตซ์ กับบทคุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอดที่พร้อมยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตตัวเองและลูกน้อยให้รอดปลอดภัย ท่ามกลางการทำลายล้างของหุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่ถูกสร้างมาให้ช่วยเหลือมนุษย์ แต่พวกมันกลับก่อกบฏ ผลงานของผู้กำกับ แมตต์สัน ทอมลิน เป็นแนวระทึกขวัญ ไซไฟ เอาชีวิตรอด เรื่องราวจะสนุก น่าติดตามแค่ไหน ไปติดตามกับรีวิวเรื่องนี้กันค่ะ

ภาพยนตร์เรื่องMother/Android (2021) บอกเล่าเรื่องราวของจอร์เจีย นักศึกษาสาว ที่รู้สึกกลัดกลุ่มใจช่วงวันหยุดคริสต์มาส เมื่อพบว่าตัวเองท้องกับแฟนหนุ่ม แซม เธอกลัวว่าเขาจะทิ้งเธอไป ซ้ำร้ายแอนดรอยด์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำงานบ้าน และรับใช้มนุษย์ ก่อการปฏิวัติเข่นฆ่าผู้คนแล้วเข้ายึดครองเมือง รีวิว Mother/Android กองทัพแอนดรอยด์กบฏโลก

มนุษย์จึงต้องหนีตายเพื่อเอาชีวิตรอด จอร์เจียและแซมตั้งใจที่จะเดินทางไปฐานที่ตั้งในบอสตัน สถานที่ปลอดภัยที่ถูกป้องกันแน่นหนา เพราะมี EMP (Electronics Magnetic Pulse) ตัวสัญญาณแม่เล็กไฟฟ้าที่สามารถกำจัดพวกแอนดรอยด์ทุกตัวที่อยู่ในรัศมีของมันได้ในคราวเดียวและครั้งเดียว จอร์เจียอยากไปคลอดลูกที่นั่น และรอเพื่ออพยพไปเกาหลีใต้ ภารกิจการเดินทางไปบอสตันจะสำเร็จหรือไม่ และระหว่างทางต้องเจอกับอะไรบ้าง สามารถรับชมได้ทาง Netflix มีพากย์ไทย หนังยาว 1 ชั่วโมง 51นาที

เนื้อเรื่องหุ่นยนต์ทำลายล้างโลกไม่ใช่เรื่องใหม่ ทำนองคล้าย ๆ Terminator อยู่นะ (ผู้กำกับแมตต์สัน ทอมลิน ตอนนี้กำลังถ่ายทำทีวีซีรีส์เรื่อง Terminator) แมตต์สันสอดแทรกเรื่องราวชีวิตจริงในวัยเด็กของเขาเข้ามาด้วย และหยิบเอาประเด็นหุ่นยนต์ที่มีหน้าตาเหมือนมนุษย์มาเล่าว่า พวกมันถูกสร้างมาให้รับใช้มนุษย์และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ชอบความที่เป็นไซไฟ แต่ไม่ได้ไกลตัวมาก ดูมีความสมจริง ถึงแม้ปัจจุบันจะยังไม่สามารถสร้างหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์อย่างในภาพยนตร์ได้ 100 % ก็ตาม แต่ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อย่างหนังเรื่อง Contagious ที่พูดถึงเกี่ยวกับโรคระบาด ตอนที่ดูก็คิดว่าช่างไกลตัวเหลือเกิน แต่พอโควิดระบาด อยากจะบอกว่าสถานการณ์ช่างคล้ายกับเนื้อเรื่องในภาพยนตร์เกินกว่าจะคาดคิด


ถ้าเกิดเหตุการณ์หุ่นยนต์ล้างโลกจริง เราคงต้องเดินป่าและนอนเต็นท์ ทรมานระหกระเหิน อย่างในหนังแน่เลย แต่ที่ดูแล้วคาใจก็คือ ถ้าเราท้องแก่ขนาดนั้น จะไปได้ไกลแค่ไหนนะ คิดว่าอาจจะไม่รอดถึงเก้าเดือนแบบนางเอกหรอกมั้ง

เริ่มเล่าเรื่องจากตอนที่จอร์เจียนั่งเผารูปหน้าเตาผิง กำลังหวนนึกถึงคนที่ทิ้งเธอไป จากนั้นเล่าเรื่องในอดีตเริ่มจากตอนที่เธอรู้ว่าตัวเองท้อง และสงสัยในตัวแซมว่าอยากเป็นพ่อของลูกไหม ตลอดเรื่องก็ลุ้นว่าแซมจะทิ้งเธอไปใช่ไหม แล้วจะทิ้งตอนไหน หรือว่ามีพลิกล็อก คอยลุ้นเอาใจช่วยทั้งคู่ ลุ้นหนักคือจะคลอดลูกได้ไหม จะคลอดตอนไหน แล้วลูกจะรอดชีวิตในป่าอย่างไร หนังก็ดำเนินเรื่องดีลุ้นตลอด มีปมทวิสต์เล็ก ๆ ตอนเกือบท้ายเรื่อง ดูจบแล้วต้องย้อนมาดูกลางเรื่องนิดนึง เพื่ออธิบายตอนจบ

เรื่องความบู๊แอ็คชั่นก็มี อย่างยิงปืนตูมตาม ขี่มอเตอร์ไซต์หนี วิ่งไล่ โดรนบินตาม แต่ตอนโดรนบินตาม ภาพถ่ายมุมกล้องช่วงนี้ทำงง ไม่รู้จะโฟกัสอะไร ดูไม่ค่อยลุ้น ถ้าใช้โดรนตัวเดียว หรือ ไม่ใช่เลย อาจจะลุ้นระทึกกว่านี้ ส่วนเอฟเฟกต์หน้าแอนดรอยด์ ดูน่ากลัว มีความสมจริงในระดับหนึ่ง

“โคลอี้ เกรซ มอเรตซ์” สาวแสบจาก Kick-Ass และนักบินจาก Shadow In The Cloud ประจัญบานอสูรเวหา เรื่องนี้รับบทเป็น จอร์เจียบทยังคงเอาตัวรอด เรื่องที่แล้วคลอดลูกแล้วเอาลูกขึ้นเครื่องบิน เรื่องนี้ต้องเล่นเป็นแม่ท้องแก่ใกล้คลอด ที่สู้ยิบตาเพื่อรักษาชีวิต กับบทหญิงเก่ง เก่งเว่อร์ ทำได้ทุกอย่าง สาวโคลอี้แสดงเก่ง แสดงดี ไม่ต้องสงสัย แต่บทอาจจะทำให้รู้สึกขัดใจ ว่าเก่งไปหน่อยไหม? สำหรับคนท้องแก่ แต่จะมองว่าเป็นพลังของเพศแม่ที่อยากเอาชีวิตรอดเพื่อลูกก็พอเข้าใจได้ ตอนใส่เสื้อเกราะหลบแอนดรอยด์ก็ทำลุ้นดี

“อัลจี สมิท” รับบทเป็นแซม แฟนของจอร์เจียและพ่อของลูก ชอบบทแซมนะ โดยเฉพาะประโยคที่เขาพูดว่า “นั่นเป็นสิ่งที่พ่อที่ดีควรจะทำ คือดูแลปกป้องเมียและลูก” ถึงตอนเปิดเรื่องจะทำให้ลุ้นว่าแซมจะทิ้งจอร์เจียไปตอนไหนแต่ที่เขาแสดงออกมาตลอดคือไม่มีความคิดที่จะทิ้งเธอ ยิ่งทำให้ลุ้นว่า มันต้องมีอะไรกระชากใจให้สองคนห่างกันแน่เลย

“ราอูล คาสติลโญ” หลายคนน่าจะคุ้นหน้าเขาจากบทกัซแมนในเรื่อง Army of the Dead และเจย์ โชเฟอร์รถหรูในเรื่อง Nightteeth เรื่องนี้รับบทเป็น อาร์เธอร์ เป็นคนที่เข้ามาช่วยจอร์เจียยามคับคัน เป็นคนที่โผล่มาในตอนที่ไม่คาดคิด มีความบู๊ถือปืนยิ่งกระหน่ำเหมือนกับผลงานสองเรื่องที่พูดถึงก่อนหน้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *