รีวิว House of the Dragon

หลังจาก ‘Game of Thrones’ ปิดฉากไปได้ 3 ปีพร้อมการประกาศสร้างซีรีส์ภาคแยกมากมายในที่สุดปี 2022 ซีรีส์สปินออฟต่อยอดความสำเร็จชุดแรกอย่าง ‘House of the Dragon’ หรือเรื่องราวของตระกูลทาร์แกเรียน ชาติมังกรผู้ครองบัลลังก์สูงสุดแห่งเวสเทอรอส ซึ่งเรื่องราวของซีรีส์จะเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต 172 ปีก่อนการมาถึงของ แดเนริส ทาร์แกเรียน หรือราชินีมังกรคะนองสงครามแห่ง รีวิว House of the Dragon รีวิวหนังฝรั่ง

รีวิว House of the Dragon

ดูหนังฟรี โดยเรื่องราวของซีรีส์จะเน้นไปที่เหตุการณ์ที่ทำให้บัลลังก์ของ วิเซริส ทาร์แกเรียน กษัตริย์แห่งเวสเทอรอสต้องสั่นคลอน ทั้งความมักใหญ่ใฝ่สูงของ เดมอน ทาร์แกเรียน พระอนุชาที่ครองกำลังทหารทั้งเมือง ดูหนังออนไลน์ และความไม่แน่นอนว่าบุตรในพระครรภ์ของราชินีจะเป็นชายหรือหญิง แต่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ราชาวิเซรีสจึงจัดงานประลองครั้งยิ่งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองพระโอรสที่พระองค์รอคอย และในขณะที่ไฟสงครามกำลังรอการปะทุ เจ้าหญิงเรเนียรา ทาร์แกเรียน กำลังเผชิญบททดสอบสำคัญในการปกป้องบัลลังก์ของตระกูลมังกรอย่างทาร์แกเรียน ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022

หากจะให้กล่าวอย่างย่นย่อที่สุด ‘House of the Dragon’ ก็คือ ‘Game of Thrones’ หรือ ‘GOT’ แบบย่อส่วนเล่าแค่เรื่องราวการแย่งชิงบัลลังก์ในตระกูลทาร์แกเรียน ซี่งเป็นชนวนสงคราม The Dance of the Dragons ซึ่งข้อดีอย่างแรกจากการชมตอนแรกมาแล้วก็พบว่า ตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้จะย่อยง่าย จำง่ายกว่า ‘GOT’ เพราะมันแทบจะแบ่งบทบาทชัดเจนและภาระคนดูก็เหมือนถูกหารด้วย 7 เพราะเล่าเรื่องราวแค่ตระกูลเดียว (ฮ่าาาา) เลยช่วยลดความซับซ้อนไปได้เยอะเลย

ประการต่อมาคือต้องยอมรับล่ะว่า ‘House of the Dragon’ รู้ตัวดีว่าผู้ชมส่วนใหญ่เคยดู ‘GOT’ มาแล้ว ดังนั้นเอกลักษณ์ที่คนดูคุ้นเคยทั้งความโหดระดับเลือดสาด ซึ่งก็มีฉากสยดสยองและชวนช็อกมันตั้งแต่ตอนแรกอยู่มากพอสมควร ฉากนู้ดของเหล่าโสเภณีก็มีแพลม ๆ มาบ้าง แต่ที่ตื่นตาตื่นใจก็เห็นจะเป็นการที่ซีรีส์ไม่ต้องกั๊กไว้แบบ ‘GOT’ แล้ว ดังนั้นเราเลยได้เห็นมังกรตัวเป็น ๆ เดินไปมาบนจอกันจุใจพอสมควรแม้จะยังไม่มีแอ็กชันอะไรมากนอกจากบินโฉบลงมา เข้าถ้ำและพ่นไฟนิดหน่อยก็ตาม ซึ่งคุณภาพงานซีจีก็ยอดเยี่ยมแม้จะฉายบนจอภาพยนตร์ก็เนียนตาไม่ขัดเขินเลย

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเหล่าตัวละครใหม่ ๆ ที่ซีรีส์นำเสนอซึ่งแม้จะมีแต่ตระกูลทาร์แกเรียนแต่ก็มาครบทั้งตัวดีตัวชั่วให้เราลุ้นและก่นด่ากันระหว่างดูไม่ต่างจาก ‘GOT’ เลย ทั้งเจ้าหญิงเรเนียรา ที่ได้นักแสดงสาว เอ็มมา ดาร์ซี (Emma D’Arcy) มาสวมวิกผมขาว ท่าทางทะมัดทะแมงและเรื่องราวที่เธอต้องฝ่าฝันเพื่อให้ราชสำนักยอมรับในสถานะของเธอเหนือเพศหญิงที่ถูกกีดกันจากบัลลังก์ก็ทำให้คนดูอยากเอาใจช่วยได้ไม่ยาก

รีวิว House of the Dragon
และที่น่าจะเป็นสีสันและทำให้ซีรีส์สนุกมาก ๆ ก็คือการมีอยู่ของ แมตต์ สมิธ (Matt Smith) ในบท เดมอน ที่ก็ดูเป็นปีศาจสมชื่อทั้งน่าหวาดหวั่นและมีเสน่ห์ในตัวอย่างล้นเหลือ ด้าน แพดดี คอนซิดีน (Paddy Considine) ที่มารับบทวิเซริส กษัตริย์ผู้ต้องรั้งบัลลังก์ก็ทำให้ตัวละครมีมิติดีทีเดียวแถมยังสร้างความช็อกให้คนดูอย่างคาดไม่ถึงอีก ส่วนหนุ่ม ๆ ก็น่าจะชื่นชอบ โอลิเวียร์ คุก (Olivia Cooke) ผู้รับบท แอลิเซนต์ ไฮทาวเวอร์ หญิงงามแห่งเวสเทอรอสที่ทั้งสวยสง่าและฉลาดหลักแหลม

ซึ่งในซีรีส์ตอนแรกต้องยอมรับนะครับว่าเราอาจจะยังไม่ได้เห็นอะไรมากเท่าไหร่ เพราะเน้นปูข้อมูลความสัมพันธ์ตัวละครและการเมืองในตระกูลทาร์แกเรียนให้ครบถ้วนก่อน ดังนั้นหากใครคาดหวังว่ามันจะตูมตามและเร้าอารมณ์แบบ ‘GOT’ ตอนแรกเลยก็ต้องบอกว่า การต้องมาเริ่มปูข้อมูลของตระกูลเดียวใน ‘House of the Dragon’ น่าจะกลายเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ถ้าคนดูไม่ถูกจริตกับเรื่องแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ ชิงบัลลังก์แย่งอำนาจกันก็อาจมีเทหลังดูไปตอนเดียวได้เหมือนกัน

ดังนั้นความหวังต่อไปของซีรีส์ในอีก 9 ตอนที่เหลือคงหนีไม่พ้นปมว่า เดมอน ทาร์แกเรียน จะกลับมาชิงบัลลังก์ของตัวเองได้โหดสลัดขนาดไหน หรือการเปลี่ยนแปลงตัวเองของเจ้าหญิงเรเนียราที่ต้องฝ่าฟันอคติของเหล่าชายชาตรีในราชสำนักจะทำให้เธอลิ้มเลือดผู้คนมากเพียงใด รวมถึงการปรากฎตัวและเผยตัวของหลาย ๆ ตัวละคร โดยหนึ่งในนั้นได้แก่ โซโนยะ มิซูโนะ (Sonoya Mizuno) สาวญี่ปุ่นที่เคยทำหนุ่ม ๆ ใจละลายจาก ‘Ex-Machina’ จะมารับบทมิซาเรีย ทาสสาวพันธมิตรของเดมอน ทาร์แกเรียนได้แซ่บเพียงใด

รีวิว House of the Dragon
สิ้นสุดการรอคอยของคอซีรีส์ระดับตำนาน Game of Thrones ในซีรีส์ภาคต้นอย่าง House of Dragon ฉาย Ep.1 แล้วทาง HBO Go งานนี้ The Thaiger ก็ไม่พลาดพาทุกคนมารีวิวหลังดูศึกชิงบัลลังก์มังกรตอนแรกจบกันไป รีวิวเอฟเฟคงานอาร์ต บทบาทตัวละคร เนื้อเรื่องที่เขาว่าดีกว่าดาร์กกว่า GOT จริงไหม ?

ซีรีส์ House of the Dragon สร้างขึ้นมาจากนิยายแฟนตาซีขายดีของ George RR Martin เรื่อง “Fire & Blood” เล่าถึงช่วง 200 ปีก่อนเหตุการณ์มหาศึกชิงบัลลังก์ Game of Thrones

เนื้อเรื่องจะเน้นไปที่เรื่องราวความขัดแย้งภายในตระกูล ทาแกเรียน (Targaryen) การแก่งแย่งอำนาจของพี่น้องสายเลือดมังกร ซึ่งชนวนเหตุเกิดจากการที่ เจ้าหญิงเรนีร่า (Rhaenyra) ถูกวางตัวให้เป็นรัชทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์เหล็กต่อจาก กษัตริย์วิเซริสที่ 1 (King Viserys I)

แต่ตามธรรมเนียมดั้งเดิมไม่อนุญาตให้ ผู้หญิง ได้ขึ้นครองราชแม้แต่ในยุคของบิดาเช่นกันซึ่งแทนที่ เจ้าหญิงเรนิส (Princess Rhaenys) หลานสาวคนโตของพระราชาองค์ก่อนที่อายุมากกว่า กษัตริย์วิเซริสจะได้ขึ้นครองราชย์แต่เพราะความเป็นผู้หญิง ทำให้เธอนั้นไม่ได้รับเลือกให้เป็นกษัตริย์ในปัจจุบัน

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผู้ชายที่มีสิทธิ์ในบัลลังก์พอ ๆ กับเจ้าหญิงเรนีร่า เกิดความไม่พอใจที่จะต้องมาทนเห็นผู้หญิงก้าวขึ้นมาปกครองอาณาจักร และอยู่เหนือหัวของตน ก่อเกิดเป็นสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ที่จะฉุดอาณาจักรในยุครุ่งเรืองที่สุด ดำดิ่งลงมาอยู่ในจุดดำมืดในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด

โดยส่วนตัวของแอดนั้นขอออกตัวก่อนเลยว่าแอบจำบางตัวละครของ GOT ได้แล้ว แต่ก็เชื่อว่าหลาย ๆ คนนั้นต้องเป็นแฟนพันธุ์แท้ของซีรีส์เรื่องouhตามมาดูกันอย่างแน่นอน และถ้าใครยังจำภาคสุดท้ายของ GOT ได้นั้นก็จะรู้ว่าภาคนี้นั้นตุ่นสุด ๆ ทำเอาแฟนซีรีส์หลายคนผิดหวังไปตาม ๆ กัน รีวิว House of the Dragon

แต่ด้วยผลบุญเก่าของ GOT ภาคก่อน ๆ ทำให้ทีมผู้สร้างส่งภาคต่อออกมาได้อย่าง House of Dragon ที่เรื่องนี้จะพาเราย้อนเวลากลับไปเมื่อ 200 ปีก่อนเหตุการณ์ GOT จะเริ่มต้นขึ้น

สำหรับเนื้อเรื่องของ House of Dragon ในตอนแรกนั้นในกระแสโซเชียลได้รับคำชมอย่างล้นหลามเลยก็ว่าได้ ซึ่งสำหรับแอดมองว่าเป็นการเปิดเนื้อเรื่องมาได้ค่อนข้างดี มีประสิทธิภาพมาก ๆ โดยเฉพาะการเล่าเรื่อที่จะพาเราไปถึงมหากาพย์ Game of Thrones การเล่าเรื่องกระชับ จับใจความได้ดี

เนื้อเรื่องในตอนนี้นั้นจะมีการเล่าถุึงที่มาที่ไปของตัวละครหลักอย่าง เจ้าหญิงเรนีร่า ทาแกเรียน และตัวละครหลักอื่น ๆ ก่อนที่จะปูทางไปให้เห็นประเด็นขัดแย้ง เรื่องราวการเมือง และเมนหลักของเรื่องเรียบเรียกออกมาได้ดี ตัวซีรีส์ทำออกมาให้ดูง่าย โทนสีสันสดใสสมกับความเป็นแฟนตาซี

เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนเองก็สงสัยเหมือนกันว่าถ้าเรานั้นไม่เคยดู Game of Thrones มาก่อนเลยจะเข้าใจเนื้อเรื่องของ House of Dragon ได้ไหม ?

โดยส่วนตัวแอดเองอยากให้ทุกคนลบภาพจำของซีรีส์ GOT ออกไปก่อนดูจะดีกว่า เพราะอย่าลืมว่าเรื่องราวของ GOT นั้นเกิดหลังซีรีส์เรื่องนี้ตั้ง 200 ปี ดังนั้นตัวละครหลาย ๆ ตัวในเรื่องนี้ถ้าเราจะไม่รู้จักเลยก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็จะยังคงมีตระกูลทั้ง 4 ที่ให้เรานึกถึงเป็นกลิ่นอายเบา ๆ ได้อยู่บ้าง

สำหรับใครที่ดู GOT มาแอดคิดว่าน่าจะอินกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก เพราะด้วยจุดเชื่อโยงต่าง ๆ อีสเตอร์เอก ที่ทำให้เราได้นึกถึงเนื้อเรื่องภาคหลักได้ไม่ยาก ทั้งซาวด์เพลงประกอบ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายที่ชวนคิดถึง ทำให้คนดูอ่างเรานั้นตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *