รีวิวหนัง Resident Evil The Final

คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าวันเวลาของแบรนด์หนัง Resident Evil และชื่อที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง ผีชีวะ จะเดินทางมาได้ไกลและยาวนานจนถึงตอนนี้ นับตั้งแต่การแปรเปลี่ยนจากยุค Biohazard ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกลายร่างเป็นหนังซอมบี้ล้ำๆ รีวิวหนัง Resident Evil The Final ในยุคบุกเบิกที่เข้ามาสู่วงจรแฟรนไชส์วนลูปมาขายได้เรื่อยๆ แม้ยิ่งนานวันจะยิ่งออกทะเล เละตุ้มเป๊ะจนใครอาจมองว่าเป็นเหมือนจุดด่างพร้อยของเกม แต่ที่สุดมันก็เข้าไปอยู่ในภาพจำของผู้คนทั่วโลกถ้าพูดถึงหนังซอมบี้ไปแล้ว เรียกว่ามันประสบความสำเร็จในแง่แบรนด์ติดตลาด

รีวิวหนังฝรั่ง ชื่อของ อลิซ และ มิลล่า โจโววิช ที่ดูเหมือนเธอจะเกิดมาเพื่อเล่นบทนี้ จนกลายเป็นหนึ่งใน ‘ไอคอน’ ของอุตสาหกรรมหนัง ตั้งแต่นัยน์ตาสีฟ้าสวยที่แฝงไว้ด้วยความน่ารักและแข็งกร้าวอยู่ในตัว ชุดสายเดี่ยวสีแดงขับผิวขาวสวยของเธอ ย้อนแย้งกับดงซอมบี้แหวะๆ ที่ปนกลิ่นอายของหนัง horror แต่ทุกอย่างกลับเป็นส่วนผสมที่เกิดมาคู่กันอย่างลงตัวของแฟรนไชส์เรื่องนี้ ทุกครั้งที่ได้ดูมิลล่าในบทบาทอลิซ ผมชอบมอง Resident Evil ในประเด็นความโดดเด่นในความเป็นหนัง feminism ที่ชัดเจนมากเรื่องหนึ่ง มิลล่า เป็นหนึ่งในสาวสวยสายบู๊ที่เวลาจับปืนไล่ยิงซอมบี้แล้วผมไม่เคยรู้สึกติดขัดอะไรเลย เป็นซุปเปอร์ฮีโร่หญิงมีทั้งความเท่สตรองและเสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงที่ยังจับต้องได้ในคราวเดียวกัน
รีวิวหนัง Resident Evil The Final
ในภาค Final Chapter นี้ไม่มีเนื้อหาใดซับซ้อนมากนัก ดูหนังออนไลน์ หลักๆ แล้วตัวอลิซ ต้องย้อนกลับไปยัง Raccoon City เพื่อเอาตัวยาต้านไวรัสทีเพื่อจัดการกับซอมบี้ครองเมืองให้หมดโลกและจบภารกิจเสียที ซึ่งแม้ว่าจะมีบรรดาสหายเก่ามาร่วมต่อสู้ด้วย แต่ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นของ อลิซ และ มิลล่า ฉายเดี่ยวไปเสียแล้ว เรียกว่าไม่แบ่งใครดังใครเด่นเลย เรียกว่าเป็นเพียงเหยื่อของกับดักตามด่านต่างๆ ในการเคลียร์ภารกิจเท่านั้น ไม่มีความผูกพัน จะตายก็ไม่เสียดาย ตายให้รู้ว่า ‘เออ มันก็ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะโว้ย!’ (ฮา)
อีกหนึ่งสีสันของภาคส่งท้ายนี้ คือการได้ ลีจุนกิ มาร่วมเล่นด้วย ซึ่งสำหรับติ่งเกาหลีที่รอดูพระเอกหน้าหวานรายนี้ ต้องบอกว่าไม่ได้ออกมาเป็นฟอร์มนักแสดง extra ฉากสองฉาก และแม้จะโผล่หน้ามาไม่มากแต่มีบทบาทพอตัวในฉากสำคัญเหมือนกัน เรียกว่ามาเป็นน้ำจิ้มขยายฐานเรียกคนดูที่พอกล้อมแกล้มไปกับเรื่องนี้ได้
สำหรับ Resident Evil แต่ไหนแต่ไรมันก็คล้ายหนังแฟรนไชส์สไตล์ คือดูเอามัน เดาทางง่าย ไม่ต้องถามหาความสมเหตุสมผล แต่ต้องยอมรับว่า เป็นภาคจบที่มีฉากบู๊สะใจระดับเวอร์วังอลังการ ดูสนุกตื่นเต้นระทึก มีฉากให้ลุ้น ให้กดดันอยู่ตลอด ไม่ก๊องแก๊ง อาจมีจุดที่ตัวหนังเฉลยปมความลับของอลิซออกมาง่ายและขาดชั้นเชิงไปสักหน่อย ส่วนตัวแอบเสียดายตรงนี้ แต่สำหรับการเลือกฉากจบนั้นคิดว่าลงตัวสมกับเป็น Resident Evil แล้ว
รีวิวหนัง Resident Evil The Final
หลายคนบอก Resident Evil มันเป็นธุรกิจครอบครัวของ มิลล่า เพราะได้ทั้ง พอล ดับเบิลยู. เอส. แอนเดอร์สัน สามีมานั่งแท่นผู้กำกับ และ เอฟเวอร์ แอนเดอร์สัน ลูกสาวของเธอก็มารับบทเป็น อลิซในวัยเด็ก และ AI ที่ชื่อ Red Queen  แต่สำหรับ มิลล่า โจโววิช กับวันเวลาที่ล่วงเลยผ่านมาในวัยหลัก 4 นำหน้า ริ้วรอยแห่งประสบการณ์เริ่มปรากฏบนใบหน้าที่เคยสวยใส แต่แววตาที่กระพริบอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของเธอยังชัดเจน นั้นปฏิเสธไม่ได้ว่า นางเอก Resident Evil คือยี่ห้อที่คู่ควรกับเธอมากที่สุด ตลอดเส้นทางโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเธอ

รีวิวหนัง Resident Evil The Final

ความมาไกลของหนังชุด Resident Evil ทำให้หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเกมชื่อดังเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ดูหนัง อย่าง Biohazard บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า Resident Evil 1 แจ้งเกิดให้กับ มิลลา โยโววิช ในบท อลิซ หรือไม่ แต่ที่แน่ๆตัวละครนี้สร้างชื่อเสียงให้เธออย่างมาก ก่อนที่กระแสของหนังและเธอจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆตามจำนวนของภาคต่อที่เพิ่มขึ้น
จนในที่สุดค่ายหนังก็ขอทิ้งทวนด้วยการเข็นหนัง Resident Evil The Final Chapter หรือ Resident Evil 6 ออกมาโกยเงินเป็นเฮือกสุดท้ายในปี 2017 โดยเลือก พอล ดับเบิลยู. เอส. แอนเดอร์สัน ผู้กำกับและผู้เขียนบท Resident Evil 1 มากำกับภาคสุดท้ายของหนังเฟรนไชส์ซอมบี้ที่เขาเคยเริ่มต้นไว้เมื่อปี 2002เช่นเดียวกับนักแสดงในภาคก่อนๆหลายคนที่กลับมาส่งท้ายตัวละครของตัวเอง และร่วมอำลาหนัง
รีวิวหนัง Resident Evil The Final
เนื้อเรื่องของ The Final Chapter ต่อเนื่องจากภาค Retribution เผ่าพันธุ์มนุษย์เหลือผู้รอดชีวิตไม่ถึง 6 พันคน ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้หลากหลายพันธุ์ที่นับวันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ  อลิซ เป็นความหวังเดียวของมนุษยชาติกับการเดินทางสู่เมือง Raccoon City เพื่อเข้าไปจัดการกับผู้บริหาร The Umbrella Corporation ซึ่งอยู่เบื้องหลังหายนะของโลก
Resident Evil The Final Chapter เป็นหนังฉบับสูตรสำเร็จย่อยง่ายอีกเรื่องของฮอลลีวู้ด บทภาพยนตร์ฉาบฉวย เต็มไปด้วยช่องโหว่มากมาย ตัวละครไร้มิติ (บางตัวดูเหมือนจะมีอะไร แต่ก็ไม่มี) แห้งแล้ง ขาดสีสัน เนื้อหาเดาได้แทบจะเกือบทั้งหมด ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์
ผู้กำกับเลือกที่จะจัดการการสรุปข้อมูลมหาศาลของทุกภาค เว็บดูหนังฟรี รวมถึงเตือนความทรงจำของผู้ชมด้วยการเพิ่มฉากแฟลชแบ็คเข้ามามากมายเกินไป ทำให้หนังมีความยาวเกินพอดี น่าเบื่อ ขณะเดียวกันฉากแอ็คชั่นที่เป็นจุดขายก็ไม่สนุกเพราะไม่ต้องลุ้นเลย อลิซ เก่งเกินไป และดูเป็นอมตะ เธอมีความคล้ายกับตัวละครหลักในหนังซุปเปอร์ฮีโร่เกรดบี
การแสดงไม่มีใครโดดเด่นหรือมีสเน่ห์เลย แอบดีใจที่ มิลลา โยโววิช จะหลุดพ้นจากตัวละครตัวนี้ แม้ว่าภาพลักษณ์ของอลิสคงอยู่ติดตัวเธอไปอีกนานแสนนาน ส่วน แอลิ ลาร์เทอร์ ที่เล่นเป็น แคลร์ เรดฟิลด์ ภาคนี้ยังกะนักแสดงประกอบ ด้าน เอียน เกลน ซึ่งรับบท ดร.อเล็กซานเดอร์ ไอแซ็คส์ น่าจะติดอันดับหัวหน้าตัวร้ายที่โง่ที่สุดในโลกภาพยนตร์
Resident Evil The Final Chapter พยายามดำเนินเรื่องให้ออกแนวเป็นด่านๆเหมือนกับเกม ซึ่งจุดนี้ทำให้หนังยิ่งพังมากกว่าเดิม ดูเป็นการยัดเยียดเมมโมรี่ที่มีความทรงจำแย่ๆทั้งในอดีตกับปัจจุบันให้กับแฟนๆ  ภาคสุดท้ายของหนังซอมบี้ผีชีวะจึงแทบไม่มีอะไรน่าจดจำ ผู้ชมได้แต่โล่งอดถอนหายใจพลางคิดว่า จบเสียที
แรกเริ่มเดิมทีผมเองไม่อยากคาดหวังกับภาคนี้สักเท่าไหร่ แต่ที่ต้องไปดูก็เพราะว่าไหนๆ ดูหนังฟรี อุตส่าห์ดูมาจนจะจบเรื่องอยู่แล้ว ก็ขอจ่ายเงินซื้อตั๋วไปดูบทสรุปหน่อยแล้วกัน ในภาค The Final Chapter นี้ ตัวหลักที่ดำเนินเรื่องยังคงเป็นอลิสคนเดิม เพิ่มเติมคือความเก่งกาจที่น้อยลง ทำไมถึงน้อยลง? เพราะตั้งแต่ต้นยันจบผมยังไม่เห็นอลิสใช้พลังจิตเลย ทั้งๆ ที่ ตอนสุดท้ายของภาค 5 เวสเกอร์ ฉีด T-Virus เข้าร่างคืนแล้ว ดังนั้นอลิสต้องใช้พลังจิตได้เหมือนเดิม แต่ทำไมถึงไม่ใช้ก็ไม่รู้
ช่วงต้นเรื่องประมาณ 2-3 นาที ดูหนังฟรี มีการเล่าแบบ Flash Back คร่าวๆ ให้คนที่จำความไม่ได้ ได้เข้าใจเนื้อเรื่องหลักๆ ที่ผ่านมา ถัดจากนั้นก็จะเป็นการเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักโดยตรง เนื้อหาภายในภาคนี้จะอยู่ที่การเฉลยปมตัวตนของอลิส และการไปนำยาสลายเชื้อ T-Virus เพื่อให้ผีชีวะ (ซอมบี้) ทั้งหลายหายไปจากโลก ภายใต้คำแนะนำของ Red Queen จะเห็นได้ว่าศัตรูภาคที่แล้วกลับเปลี่ยนเป็นมิตรในภาคนี้ ส่วนมิตรในภาคที่แล้วอย่างเวสเกอร์ดันเปลี่ยนเป็นศัตรูในภาคนี้ซะงั้น?
ด้านฉากต่อสู้ภายในเรื่องมีมาให้เห็นเป็นระยะๆ และยังคงเห็นตัวละครประกอบยืนทื่อๆ อยู่เช่นเดิม (ประมาณว่ารอคิวเข้าใส่) โดยเฉพาะฉากชิงมอเตอร์ไซค์ นี่ถือเป็นจุดอ่อนในเรื่องของมุมกล้องที่ไม่ควรมีให้เห็น และความประหลาด หรือความประมาท? ที่ชวนสงสัยคือเวสเกอร์สามารถป้องกันด้วยการปิดทางเข้าทุกทางไม่ให้อลิสเข้ามาชิงยาได้แต่ก็ไม่ทำ รอให้อลิสเข้ามาก่อนค่อยปิดประตูขัง ผลก็เลยแพ้ไปตามระเบียบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *