รีวิวหนัง ASHFALL นรกล้างเมือง : มหากาพย์ภาพยนตร์เกาหลี
ดินแดนกิมจิของเรามี หนังภัยพิบัติ ashfall นรกล้างเมือง ที่พูดได้ว่าหายนะมาแน่ๆ รีวิวหนังฝรั่ง หนังภัยพิบัติสุดแสนจะอลังการงานสร้าง ASHFALL 2022 นรกล้างเมือง กำกับโดย อีฮเยจุน, คิมบยองซู ได้นักแสดงนำที่ผู้เขียนชอบมากกกก อาทิ ฮาจองอู, อีบยองฮอน, มาดงซอก, จอนฮเยจิน, เบซูจี ภัยพิบัติสั่นสะเทือนแผ่นดินเกาหลีเกิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิด เมื่อภูเขาไฟเพ็กตูที่สูงที่สุดในเกาหลีเกิดปะทุขึ้นส่งขี้เถ้าขึ้นไปสูงถึงชั้นบรรยากาศ เกิดวิบัติไปทั้งกรุงโซลและกรุงเปียงยาง เรื่องราวในหนังจะสนุก และน่าติดตามแค่ไหน ไปติดตามรับชมกันเลยที่ ดูหนังออนไลน์
รีวิวหนัง ASHFALL นรกล้างเมือง หนังฟอร์มยักษ์ต้อนรับปี 2019
เตรียมต้อนรับปีใหม่ด้วยที่สุดของความตื่นตาไปกับ นรกล้างเมือง ashfall โปรเจกต์ยักษ์ที่จะมาจัดเต็มทั้งเรื่องราวและภาพบนจอให้ชวนติดตามอย่างถึงที่สุด โดยได้ 5 นักแสดงนำอย่าง “ฮา จองอู” (Along with the Gods), “อี บยองฮอน” (G.I. Joe), “มา ดงซอก” (Train to Busan), “จอน ฮเยจิน” (The Beast)
และ “เบ ซูจี” (Vagabond) มาร่วมงานกับสองผู้กำกับ “อี ฮเยจุน” (Castaway on the Moon) และ “คิม บยองซู” (Cold Eyes) หนังมหันตภัยภูเขาไฟระเบิดส่งตรงจากเกาหลีปี 2019 ของผู้กำกับ ลี แฮ จุน ร่วมกับ คิม บย็อง ซอ ที่บอกเล่าถึง ภูเขาไฟ เพ็กตู ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรเกาหลี ได้ระเบิดขึ้นจนทำให้เกิดมหันตภัยล้างเมืองที่สั่นสะเทือนทั้งเกาหลี
เรื่องย่อ
นรกล้างเมือง เรื่องย่อ เล่าเรื่องราวเมื่อภูเขาไฟเพ็กทู ที่สูงที่สุดในเกาหลีเกิดปะทุขึ้นนำไปสู่ภัยพิบัติสั่นสะเทือนแผ่นดินเกาหลีอย่างไม่มีใครคาดคิด และยังส่งขี้เถ้าขึ้นไปสูงถึงชั้นบรรยากาศ เกิดวิบัติไปทั้งกรุงโซลและกรุงเปียงยาง
ดังนั้นเพื่อรับมือกับหายนะครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดชาวเกาหลีใต้ (ฮาจองอู) จึงต้องร่วมมือกับ เจ้าหน้าที่พิเศษชาวเกาหลีเหนือ (อีบยองฮอน) และ นักธรณีวิทยาอันดับหนึ่งของประเทศ (มาดงซอก) เพื่อหยุดยั้งเหตุวินาศที่อาจจะทำให้เกาหลีหายไปจากแผนที่โลก
ไม่ต้องคิดมากแค่ดูฉากแอ็คชั่นเพลิน ๆ งานภาพสวย ๆ
ถึงหนังจะออกมาค่อนข้างดีที่แบบดูเพลินๆ แต่ใน ashfall นรกล้างเมือง (2019) นรกล้างเมือง เราได้เห็นฉากที่แบบภูเขาไฟระเบิดที่แบบนับฉากได้เลย อันนี้เลยขอหักคะแนนนิดนึงละกันครับ เพราะในเมื่อเป็นหนังมหันตภัยแล้วก็อยากเห็นฉากที่แบบโลกถล่มมากกว่านี้
และในเรื่อง CGI ก็ไม่ได้ว้าวเท่าไรเพราะ ยังมีลอยๆบ้างในบางฉาก แต่ก็ไม่ได้แย่ถึงกับเสียอารมณ์ในการดูแน่นอน ส่วนตัวละครส่วนตัวแอดยกให้ เบ ซูจี เลย ซึ่งในเรื่องเธอรับบทเป็นแฟนของพระเอกที่ตั้งท้องอยู่แล้วกำลังจะคลอด และด้วยความเป็นหนังหนีตาย มันเลยทำให้คนดูลุ้นเอาใจช่วยเธอให้รอดปลอดภัย
นอกจาก เบ ซูจี แล้ว ก็ต้องยกให้ด้าน ฮา จองอูด้วย ที่ต้องไปทำภารกิจที่โอกาสสำเร็จแถบเป็นศูนย์ แต่ด้วยความรักเมียแบะอยากเห็นหน้าลูก ดูแล้วลุ้นตามไปเลย เป็นหนังมหันตภัยดูเพลินอีกหนึ่งเรื่อง เนื้อเรื่องดี พร้อมพาคนดูลุ้นหนีตายไปกับภูเขาไฟระเบิด
ส่วน CGI ก็ไม่แย่อาจจะมีลอยๆบ้างแต่ไม่เป็นอุปสรรคในการดู อีกอย่างอีกขาดไม่ได้คือ เบ ซูจี น่ารักมาก (5555) คอหนังวันโลกแตกไม่ควรพลาด
พล็อตเรื่องที่เทียบเท่ากับหนังดังระดับฮอลลีวูด
ลำพังแค่พลอต Ashfall ก็ทำให้นึกถึงหนังฮอลลีวูดดัง ๆ ในอดีตเพียบ ยิ่งมีฉากไปช่วยนักโทษแหกคุกเพื่อทำภารกิจกู้โลกก็ทำให้นึกถึง The Rock (199ุ6) และพอมีภูเขาไฟระเบิด โอ้โหทีนี้ลิสต์หนังฮอลลีวูดดัง ๆ มาเพียบลำพังแค่ยุค 90s ก็มีทั้ง Volcano (1997) และ Dante’s Peak (1997) ยังไม่พอ
เมื่อมีภารกิจเอานิวเคลียร์ไปกู้วิกฤติก็แน่นอนงานนี้หนังดังอย่าง Armageddon (1998) ก็มาจนเรียกได้ว่า Ashfall ก็ไม่ต่างจากหนังเกาหลีสายบันเทิงทั่วไปที่เป็นเหมือนร่างทรงหนังฮอลลีวูดบล็อกบัสเตอร์ดัง ๆ อีกที แต่บอกแบบนี้อย่าพึ่งนึกว่าหนังจะลอกโครงเรื่อง ฉาก หรืออะไรจากหนังดัง ๆ มาแบบหน้าด้าน ๆ นะครับ
ตรงกันข้าม ผู้กำกับอย่าง อี ฮเยจุน และ คิม บยองซู กลับเอาวัตถุดิบสไตล์แฮมเบอร์เกอร์มาผัดรวมวัตถุดิบชั้นดีของหนังเกาหลีอย่างพลอตดราม่าสะเทือนอารมณ์ และการแสดงแบบเชื่อมือได้จากนักแสดงแถวหน้าของประเทศควบคู่ไปกับงานสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่พยายามทำให้ทัดเทียมกับฮอลลีวูด
จนผลลัพธ์ของหนังออกเป็นหนังบันเทิงที่ทำหน้าที่ของมันได้อย่างขยันขันแข็ง ดูไปเหงื่อซึมมือ ดูไปน้ำตาซึม แถมเคล้าเสียงหัวเราะแบบไม่ขาดแคลนอารมณ์ขันเลยแหละ
อีกจุดที่ทำให่หนังโดดเด่นคือการเล่นกับประเด็นการเมืองตั้งแต่เรื่องเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ที่ดูจะเอาเป็นประเด็นที่ทำให้หนังเริ่มแตะการเมืองเบา ๆ อย่างการให้ทหารเกาหลีใต้ไปช่วยนักโทษเกาหลีเหนือที่เป็นคนทรยศชาติก็ทำให้เห็นว่า ท้ายที่สุดเมื่อเกิดปัญหาทางเกาหลีใต้ก็พร้อมจะลงมาทำตัวเป็นฮีโรมากกว่า
แถมในหนังยังมีภาพรูปปั้นท่านผู้นำถล่มจนกองบนพื้นก็แอบสะท้อนภาพชาตินิยมที่แอบกัดทางฝั่งเกาหลีเหนือว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ ก็น่าจะทำให้ประชาชนยิ่งลำบากไปกันใหญ่ เพราะระบอบเผด็จการไม่น่าทำให้คนมีความสุขได้ แต่ช้าก่อน..หากคิดว่าหนังจะเล่นงานแค่เกาหลีเหนือฝั่งเดียว
เพราะแท้จริงหนังยังแอบใส่การจิกกัดเกาหลีใต้ด้วยการที่ภารกิจต้องถูกขัดขวางเพียงเพราะ “ไอ้กัน” อยากจะยึดหัวรบนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือซ่อนไว้ จนเกิดการปะทะกันขึ้น แถมมีเรื่องคนเกาหลีที่ถูกช่วยเหลือหลังจากชาวอเมริกันได้อพยพอีกก็สะท้อนภาพผู้นำอ่อนแอจนสหรัฐอเมริกาเข้ามามีบทบาทในประเทศได้อย่างเจ็บแสบทีเดียว
รีวิวหนัง ASHFALL นรกล้างเมือง
หากมอง Ashfall ในฐานะหนังหายนะภัย ก็คงต้องบอกว่ามันไม่ได้ชวนเซอร์ไพร์สในแง่เทคนิคอะไรมากนัก เพราะบอกตามตรงว่าหลายซีน ซีจี ก็ยังไม่ได้ดีมาก ส่วนฉากที่ภูเขาไฟระเบิดแล้วสร้างความวินาศสันตะโรก็ทำได้ตื่นเต้นดี แต่ยังไม่ถึงขั้นชวนว้าวเหมือนตอนเราดูหนังภูเขาไฟดัง ๆ ที่กล่าวถึงไปในย่อหน้าที่แล้วเท่าไหร่
แล้วอะไรล่ะคือจุดเด่นของมัน ก็ต้องตอบว่าเป็นการใส่ดราม่าและซับพลอตที่ซับซ้อนนี่แหละ เพราะภายใต้พลอตหนังหายนะ มันยังซ่อนทั้งเรื่องราวโรแมนติกระหว่าง โจ อินชาง และ จียอง เมียท้องแก่ที่สัญญากันว่าจะหนีไปด้วยกันให้ทันมาคอยทำให้เราเอาใจช่วย
โดยเฉพาะการดึง แพ ซูจี ที่เพิ่งฮอตจากซีรีส์ Netflix สุดดังอย่าง Vagabond มาเพิ่มความสดใสและด้านโรแมนติกให้เรื่องราว นอกจากนี้ยังมีเรื่องดราม่าความผิดบาปในอดีตของ ลี จุนพยอง ที่ได้ อี บยองฮอน ดาราเกาหลีอินเตอร์มาเล่นดราม่าจนทำให้จากตัวละคร
ที่คนดูพร้อมจะเกลียดกลายเป็นเกลียดไม่ลงเมื่อรู้ว่าเขาทำทุกอย่างเพียงเพื่อไถ่บาปต่อคนสำคัญในชีวิต หรือจะเป็นแนวหนังรักชาติที่สื่อผ่านตัวละคร ดร.คังบงแร ของ มา ดงซอก จาก Train to Busan หนังซอมบี้สุดดัง
ที่ส่งให้เขากลายเป็นดาราระดับนานาชาติ เหล่านี้ล้วนเป็นส่วนผสมต้นตำหรับเกรดเอที่ทำให้ Ashfall กลายเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ดูสนุกและลุ้นเหงื่อซึมมือ บวกกับบทหนังที่ดีในแง่การให้ความบันเทิงเพราะสถานการณ์ต่าง ๆ ก็ใจร้ายกับตัวละครเหลือเกิน และเมื่อมาเกิดกับตัวละครที่คนดูเทใจให้ก็ย่อมทำให้เราอดลุ้นตามไม่ได้เลยสักวินาที
บทสรุป ASHFALL นรกล้างเมือง
ต้องบอกเลยว่า ASHFALL นรกล้างเมือง ทำคนดูลุ้นไปกับตัวหนังได้ตลอดทั้งเรื่องก็ว่าได้ เพราะด้วยความที่เป็นหนังภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถคาคเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ยิ่งชวนให้นึกถึงหนังมหันตภัยดังๆในอดีตเลย
แต่ด้วยความเป็นเอเชียเลยทำให้ดูน่าสนใจไปอีกแบบครับ นอกจากนั้นในหนังไม่ได้มีแค่ฉากหนีตายอย่างเดียวนะ ในเรื่องมีทั้งฉากแอ็คชั่น บวกกับ ดราม่าเบาๆ และ แซะการเมืองของเกาหลีเหนือ และ เกาหลีใต้ นิดหน่อย พอรวมๆแล้วก็ออกมาไม่เลวเลยทีเดียว
กำหนดฉาย: 9 มกราคม 2020
แนว: แอ็คชั่น / ชีวิตการเอาตัวรอด
นำแสดง: ฮาจองอู, อีบยองฮอน, มาดงซอก, จอนฮเยจิน, เบซูจี
กำกับ: อีฮเยจุน, คิมบยองซู
ความยาว 2 ชั่วโมง 10 นาที
ติดตามหนังใหม่ได้ที่ รีวิว World War Z