รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ (2020) เรื่องของเด็กชายผู้ไม่รู้ใจตัวเอง
รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ ซีรีส์ไทยแนว ดราม่า โรแมนติก เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ 2020 ในโปรเจกต์พิเศษ BKPP Project ของ พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล กับ กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ผลิตโดย นาดาวบางกอก ภายใต้ความร่วมมือกับไลน์ทีวี สร้างเรื่องและเขียนบทโดย นฤเบศ กูโน โดยเป็นเรื่องราวของเต๋ และ โอ้เอ๋ว เพื่อนสนิทที่มีเหตุให้ต้องทะเลาะกันในวัยเด็ก และได้กลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัย สามารถไปติดตามเรื่องราว แปลรักฉันด้วยใจเธอ ย้อนหลัง ทั้งหมดได้ทางเว็บ ดูหนังใหม่
รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ ซีรีส์วายที่มีจำนวนตอนทั้งหมดเพียง 5 ตอน
รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ จากความสำเร็จของคู่จิ้นรองในละคร My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ที่ถือเป็นการแจ้งเกิดนักแสดงชุดใหม่ของนาดาวบางกอกเต็มตัว โดยเฉพาะกับ พุฒิพงศ์ และกฤษฎ์ ที่เล่นได้สมจริง ทำให้เกิดกระแสคู่จิ้น หมอเต่า-ทิวเขา จากกระแสนี้เอง นาดาวบางกอก ได้หยิบขึ้นมาต่อยอดเป็นโปรเจกต์พิเศษ BKPP Project ที่จะประกอบไปด้วยซีรีส์ เพลงประกอบซีรีส์ และงานพบปะสังสรรค์ เดิมทีนฤเบศวางแผนสร้างซีรีส์เป็นภาคต่อจากตัวละคร แต่ด้วยบทละครที่ทำให้ตัวละครหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ทีมพัฒนาบทไม่สามารถหาวิธีการจับคู่ขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้นฤเบศตัดสินใจเขียนบทใหม่ทั้งหมด โดยมี อรัชพร โภคินพากร และทีมเขียนบทละครมาร่วมเขียนบท โดยใช้ชีวิตจริงของ พุฒิพงศ์ และกฤษฎ์ เป็นเค้าโครงต้นแบบ
แปลรักฉันด้วยใจเธอเป็นละครชุดที่มีทั้งหมด 5 ตอนประกอบไปด้วย ตอนที่ 1 ชื่อตอน ความรักดั่งเกลียวคลื่น, ตอนที่ 2 ชื่อตอน ชิดใกล้ใช่ครอบครอง, ตอนที่ 3 ชื่อตอน เริ่มรักที่รักแรก, ตอนที่ 4 ชื่อตอน ห้วงรักดุจเหวลึก และ ตอนที่ 5 ชื่อตอน ตะวันลาไม่เปลี่ยนทิศ
ความสัมพันธ์ระหว่าง เต๋ และ โอ้เอ๋ว
ท่ามกลางบรรยากาศสายลมและแสงแดดของเมืองภูเก็ต เพื่อนสมัยเด็กที่ห่างหายกันไปหลายปีอย่าง “เต๋” (บิวกิ้น) และ “โอ้เอ๋ว” (พีพี) โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งที่โรงเรียนกวดวิชาภาษาจีน เพื่อเตรียมสอบแอด มิชชันเข้ามหาวิทยาลัย แต่ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมุ่งมั่น จะสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเดียวกัน เพื่อนรักที่เคยร่วมฝัน จึงกลับกลายมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ
เมื่อยิ่งสำคัญ ก็ยิ่งอยู่ในสายตา… การที่เต๋และโอ้เอ๋วได้กลับมาใกล้กันอีกครั้ง ทำให้ทั้งสองได้รู้จักกันและกันมากขึ้น จนได้นำพาไปสู่ความรู้สึกใหม่ ที่ต่างก็ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ในวันที่พวกเขายังเด็ก สนามสอบที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเด็ก ม.6 ครั้งนี้ จึงมีทั้งความฝันและความผูกพันของเด็กหนุ่มสองคนเป็นเดิมพัน แปลรักฉันด้วยใจเธอ ตอนจบ
โครงเรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจากการที่ เต๋ (พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) และ โอ้เอ๋ว (กฤษฏ์ อำนวยเดชกร) สอบติดโรงเรียนเดียวกันในที่ภูเก็ตสมัยมัธยม จนได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน ในเวลาต่อมาโอ้เอ๋วได้รับโอกาสจากครูให้แสดงบท หย่งเจี้ยน ซึ่งเป็นบทที่เต๋ใฝ่ฝันอยากแสดงมาตั้งแต่แรก หลังแสดงจบโอ้เอ๋วได้บอกเต๋ว่าตนเองพบความฝันแล้วว่าในอนาคตอยากเป็นนักแสดง ซึ่งทำให้เต๋โกรธและเสียใจมากเพราะไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะมาเป็นคู่แข่งของตนเอง ส่งผลให้ทะเลาะกันมาจนถึงปัจจุบัน
ในปัจจุบัน เต๋และโอ้เอ๋ว ได้มาพบกันอีกครั้งที่โรงเรียนกวดวิชาสอนภาษาจีนฟูหนานเหล่าซือ เนื่องจากทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันคือการสอบเข้าคณะนิเทศน์ศาสตร์ มหาวิทยาอนันตศาสตร์ ทำให้ทั้งสองคนกลายมาเป็นคู่แข่งกัน[13] เต๋พยายามทำทุกทางเพื่อที่จะเอาชนะโอ้เอ๋วรวมไปถึงการพูดเยาะเย้ยคะแนนสอบพรีเทสภาษาจีนของโอ้เอ๋ว จุดพลิกพันเกิดขึ้นเมื่อผลการสอบรับตรงของคณะนิเทศน์ศาสตร์ มหาวิทยาอนันตศาสตร์ประกาศ เต๋สอบผ่าน ในขณะที่โอ้เอ๋วสอบไม่ผ่าน จึงทำให้เต๋สำนึกผิดในคำพูดและการกระทำของตนเอง และได้ไปตามไปขอโทษที่บริเวณชายหาดที่เคยมากันประจำสมัยเด็ก และทำให้ทั้งสองเริ่มกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง แต่การกลับมาเป็นเพื่อนครั้งนี้ไม่เหมือนรอบก่อน เพราะจากความเป็นเพื่อนที่สนิท เริ่มทำให้แต่ละคนคิดไปไกลเกินเพื่อน จนสุดท้ายความสัมพันธ์ก็ถึงจุดแตกหักลงเมื่อทั้งสองสนิทกันจนเกินเลย โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าความสนิทที่พวกเขาคิดนั้น ไม่ใช่แค่ความสนิทในระดับเพื่อน
ความสับสนและความไม่ชัดเจนของเต๋ทำให้โอ้เอ๋วไม่มีกำลังใจในการอ่านหนังสือสอบต่อ และตัดสินใจที่จะไม่สอบเข้ามหาลัย นั่นเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เต๋ตัดสินใจที่จะไม่ยืนยันสิทธิ์รอบรับตรง เพื่อจะให้โอ้เอ๋วที่อยู่ในรายชื่อตัวสำรองลำดับที่ 1 ได้สอบติดรอบรับตรง แต่ผลกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อโอ้เอ๋วตัดสินใจไม่รับความหวังดีจากเต๋ และกลับไปอ่านหนังสือเตรียมสอบรอบแอดมิชชั่นอีกครั้ง หลังจากเห็นบาสสารภาพรักกับโอ้เอ๋วในห้องเรียนพิเศษ เต๋ก็เสียใจเป็นอย่างมาก และกลับไประบายความในใจกับโก๊หุ้น เวลาผ่านไป ทั้งสองกลับมาตั้งใจเตรียมสอบรอบแอดมิชชั่น จนในที่สุดโอ้เอ๋วก็สอบติดคณะนิเทศน์ศาสตร์ มหาวิทยาอนันตศาสตร์ ในขณะที่เต๋นั้นแบกความเสียใจจากที่คิดว่าโอ้เอ๋วคบกับบาสไปเข้าห้องสอบ จึงทำให้ทำข้อสอบไม่ทัน และติดคณะนิเทศน์ศาสตร์ คณะลำดับที่ 2 ในตัวเลือก เต๋เสียใจเป็นอย่างมาก หลังประกาศผล โอ้เอ๋วกับบาสก็เคลียร์ใจกันว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า เช่นเดียวกันกับเต๋และตาล ในวันที่โอ้เอ๋วมาวิ่งแก้บนจากหน้าบ้านเต๋ ในที่สุดเต๋ก็ตัดสินใจวิ่งแก้บนเคียงคู่กับโอ้เอ๋วไปจนถึงสุดขอบแหลมพรหมเทพ และได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินตามที่บนไว้ โอ้เอ๋วตัดสินใจบอกเต๋ว่า โอ้เอ๋วกับบาสกลับมาเป็นเพื่อนกัน เช่นเดียวกันกับเต๋กับตาล โอ้เอ๋วยอมให้เต๋เป็นอะไรก็ได้ แต่ขอให้เต๋อย่าหายไปไหนก็พอ ในขณะที่เต๋ก็รู้ใจตัวเองและกล้ามากพอที่จะขอโอ้เอ๋วเป็นแฟน
รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ ความหน่วง ความเจ็บปวด ความซึ้ง ครบทุกรสจบในเรื่องเดียว
รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ เป็นซีรีส์โรแมนติกแบบ melodramatic ที่มีทั้งความหน่วง ความเจ็บปวด ความซึ้ง และความโรแมนติก รวมทุกโมเมนท์ของทุกความรู้สึกของคนที่เป็นเพศทางเลือกต้องเคยเจอและเคยผจญมาก่อนซึ่งเคมีของนักแสดงนำหลักทั้งสองคนต้องขอบอกว่าดีมากๆ บ่อยครั้งที่สื่่อไทยมักจะเปลี่ยนให้ความรักของคนเพศทางเลือกเป็น LGTV แต่ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอความรักของผู้ชายสองคนได้ตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว และตัวละครในเรื่องก็ค่อนข้างมีพัฒนาการในการกระทำและการตัดสินใจรวมถึงความมีเหตุมีผลของตัวเองที่ค่อนข้างชัดเจนด้วย
และมากกว่าประเด็นเรื่องเพศที่ค่อนข้างเป็นเรื่องที่อ่อนไหวง่าย เด็กมัธยมปลายยังใช้เวลาส่วนมากของชีวิตเคร่งเครียดกับการเตรียมสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยอีก ไม่ว่าจะเป็นผลคะแนนสอบที่กดทับความสัมพันธ์มากมาย และแฟนซีรีส์ก็คงจะตกหลุมรักจังหวัดภูเก็ตมากขึ้นด้วยและคงอยากจะเก็บกระเป๋าพร้อมกล้องมาถ่ายรูปสถานที่ตามรอยซีรีส์เรื่องนี้ด้วย เป็นหนังซีรีส์แนว coming of age ที่คนที่อยู่ในวัยค้นหาตัวเองควรดู หรืออยู่ในวัยทำงานแล้วก็สามารถดูได้ ที่แม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า ความเจ็บปวดและความสับสนของวัย แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความงดงาม ความสวยงาม ของมิตรภาพ ความรักและความทรงจำ ที่ต้องขอบอกว่านักแสดงเต็มที่และอินกับบทบาทที่ตัวเองได้รับ
เสียง เสียงชัด เสียงดี ก็อย่างว่า เสียงก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกไปด้วย ทั้งเสียงนักเเสดง เสียงเพลงประกอบ คือดี อย่างเพลง
แปลรักฉันด้วยใจเธอ ซีรีส์วายคุณภาพ ที่คอซีรีส์ไม่ควรพลาด
เนื้อเรื่อง ใครที่ได้ดูซีรีส์ไทย ซีรีส์วายอยู่แล้วจะเข้าใจว่า มันจะมีความไม่เป็นเหตุเป็นผลอยู่ ยิ่งดูยิ่งงงว่า อิหยังวะ เเป๊ปนึงนะ นี่ว่าไม่ได้ แบบนั้นเข้ามาในหัว แต่เรื่องนี้ก็จะมีความผมเหตุสมผล มีความคิดแบบจริง ๆ ในสังคม เวลาจะตัดสินใจทำอะไรก็ต้องคิดอ้างอิงถึงหลาย ๆ ส่วนก่อนที่จะทำ เรียกได้ว่ามีความสมจริงในหลังการใช้เหตุผลเลยล่ะ ก็อย่างที่ว่าเป็นซีรีส์วาย ผู้ใหญ่ก็จะไม่เข้าใจ ลองมาดูเรื่องนี้อาจจะช่วยผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านให้เข้าใจโลกมากขึ้น ว่าสังคมไปถึงไหนแล้ว ไม่ใช่ดูหนังตบตี แย่งสามีกัน เล่าถึงปัจจุบัน ความเป็นเด็ก ม.6 เครียดเรื่องเรียน เรื่องสอบ สอบเข้ามหาวิทยาลัย ครอบครัว เพื่อน ทุกอย่างมันเครียดไปหมด ผู้ใหญ่ควรที่จะเข้าใจถึงจุดนี้ ไม่ใช่คอยที่จะกดดัน ต้องช่วยกันสนับสนุนกันและกัน
นักแสดง เนื้อหาของเรื่องจะมีความเกี่ยวข้องกับวันมัธยมปลาย ช่วงต่อระหว่างการเข้ามหาวิทยาลัย ก็เลยจะเป็นนักแสดงในช่วงไวนี้ และส่วนใหญ่จะเป็นนักแสดงชายเพราะ นักแสดงหลักเป็นผู้ชาย ในส่วนของรักแสดงหลักนั้นไม่ได้มีดีแค่หน้าตา การแสดงก็ดีด้วย ถึงบางฉากจะงงหน่อยว่าไม่รู้ว่านักแสดงคิดอะไร ยังไงกันแน่ เพราะเป็นฉากที่คุยกันผ่านสายตาก แต่ถ้าพูดอะไรออกมาก็คือ กินใจสุด ๆ น้อยแต่มากที่แท้ แปลรักฉันด้วยใจเธอ 2 จบดีไหม
โปรดิวเซอร์ : ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร
กำกับการแสดง : บอส-นฤเบศ กูโน
แนวละคร : Romantic Coming of Age
นักแสดง : บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ร่วมด้วย สไมล์-ภาลฎา ฐิตะวชิระ, ขุนพล-ปองพล ปัญญามิตร, โรเล็กซ์-จิรายุส ขาวใบไม้, ดรีม-ธีธัต สุขอิ่ม, คริสเตียน-จุราพร บอส รวมถึงนักแสดงสมทบ โนเบล- พิชชานันท์ เจียมศิริกาญจน์, ภูผา-อินทนนท์ แสงศิริไพศาล และ กาญจนา ภาควิวรรธ
ผลิต : นาดาว บางกอก ร่วมกับ LINE TV
ร่วมติดตาม รีวิว Will Be Free สามเราต้องรอด ได้ที่เว็บ รีวิวหนังฝรั่ง