รีวิว Guardian of the Galaxy Vol. 3 บทสรุปแฟรนไชส์ก๊วนพิทักษ์จักรวาล
หากใครเป็นคนชอบดูหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ พลังเหนือธรรมชาติ Guardian of the Galaxy คือหนึ่งในหนังฮีโร่ที่คุณควรดู หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เราได้ดูภาค 1 และ 2 ไปแล้ว ในปีนี้เราจะได้ไปพบกับการกลับมาของเหล่า แก๊งพิทักษ์จักรวาลสายฮา ที่พร้อมจะไปป่วนทุกจักรวาล หากคุณเป็นแฟน Marvel ยิ่งไม่ควรพลาดเลยครับ รีวิวหนังฝรั่ง วันนี้เราจึงจะมาวิเคราะห์หลังจากที่เราได้ไปดูมาแล้ว หากท่านใดสนใจอยากรับชม สามารถไปติดตามรับชมหนังเต็ม ๆ เรื่องได้ที่เว็บ ดูหนังออนไลน์
รีวิว Guardian of the Galaxy การเดินทางครั้งสุดท้ายที่แฟน Marvel ไม่อยากให้จบลง
หากใครยังจํากันได้ กว่าจะมาเป็น ‘Guardians of the Galaxy Vol. 3’ อย่างที่พวก เราได้ดูกัน นอกเหนือจากการที่จะนานแล้ว ก็ยังทุลักทุเล ใช่ย่อย ด้วยเหตุว่า เจมส์ กันน์ ผู้กํากับและเขียนบทประจําแฟรนไชส์นี้
ดันถูกขุดทวีตแนวขบขันร้ายต่างๆ นานา จนกระทั่ง Disney สุดที่รักษา ภาพลักษณ์ ด้านบวก ยิ่งชีพ ถึงกับจําเป็นต้องให้ออก ถึง แม้หนัง 2 ภาคจะทํารายได้ไปไม่น้อย แม้กระนั้นท้ายที่สุด ด้วยแรงหนุนจากทั้งคนดู
และดาราหนัง ก็เลยได้ช่องทางที่ 2 ได้กลับมาสานฝันกับหนังเรื่องนี้อีกที แม้กระนั้น แล้วก็ ยัง จ่าต๋อง ผัดผ่อนไปอีก เนื่องจากว่าระหว่างนั้น กันน์ก็ผ่านไปจักรวาล DC ดูแล หนัง The Suicide Squad’ (2021)
และโทรทัศน์ซีรีส์ “Peacemaker (2022) จนถึง ได้นั่งแท่นประธานร่วมของ DC Studios ด้วยซะเลย ถ้าหาก ตั้งแต่แมื่อระยะ เวลา ภายหลังที่ ‘Guardians of the Galaxy Vol. 2′ ลงโรงฉายไปเมื่อปี 2017
ไม่น่า เชื่อว่านี่เป็นช่วงนานถึง 6 ปีเข้าให้แล้ว นับได้ว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรของ Marvel Studios ที่มีระยะห่าง ของ ภาคต่อ ที่ห่างมาก อีกประเด็นเลยก็ว่าได้
เรื่องย่อ
เรื่องย่อ Guardian of the Galaxy เล่าเรื่องราวของชีวิต ที่ยังก้าวเดินต่อไปของเหล่านักสู้เสี่ยงอันตราย ในห้วงอวกาศ เริ่ม ด้วย “ปีเตอร์ ควิลล์” ที่ยังคงเศร้าใจกับการสูญเสีย “กามาอร่า” แม้กระนั้นว่าต้องนํา กลุ่ม คุ้มครองปกป้อง พวก พร้อมทั้ง ภารกิจสุดท้าย
สําหรับเพื่อการช่วย “ร็อกเก็ต” ซึ่ง ภาคนี้จะพาผู้ชมย้อนกลับไปติดตามเรื่อง ชีวิต อีกมุมของร็อกเก็ต ที่ไม่เคยเผยมาก่อน (ค่าตักเตือน : รายละเอียด บางทีอาจเซ็นซิทีฟสําหรับคนรักสัตว์) ทุก ภารกิจของเหล่า ซุปเปอร์วีรบุรุษ
ใน Guardians of the Galaxy Vol. 3 ยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ร่าเริง และชักชวนติดตาม ตลอดเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้กับพลังพิเศษ ของ ศัตรู ที่กลับมา คราวนี้ ท้ากว่าเดิม
ผู้กำกับ เจมส์ กันน์ นั่งยันยืนยันว่านี่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ Gotg
guardians of the galaxy มีกี่ภาค ภาคนี้เปรียบได้เสมือนดั่งเป็นบทสรุปของกลุ่มเหล่านักสู้ผู้รักษาจักรวาล ที่ อีกทั้งผู้ กํากับเจมส์ กันน์ ตลอดจน ดาราหนัง และคณะทํางานทําออกมา ได้เป็นอย่างดีมากเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวเรื่องราว ซึ่ง บอก ตามจริงเลยว่า
ผมชื่นชอบแทบทุกฉากเลย ทั้งยัง ฉากย้อนอดีตของร็อคเก็ต ไม่ว่าจะเป็นฉาก ที่ร็อคเก็ตเล่นและสนทนากับเพื่อนพ้องๆ ถึง โลก ใหม่ ที่พวกเขา ใฝ่ฝันที่จะได้ไปอยู่ร่วมกัน และฉากเพื่อนพ้องๆของร็อคเก็ต ถูกฆาตกรรมนั้น
บอกเลยว่าเป็นฉากที่ผมรู้สึกเสียใจ และเศร้าโศก อย่างมากเลยล่ะครับ แต่ว่า ในเวลาเดียวกัน ตัวหนังก็ยังคงความเฮฮา ตลกโปกฮา ตามแบบกลุ่มการ์เดี้ยนไว้ อยู่ บอกเลยว่าระหว่าง ผมดูไปก็แอบยิ้ม กับฉากตลกโปกฮา
ด้านในเรื่อง อยู่หลายๆ ฉากเช่นเดียวกัน อีกทั้งฉากระหว่าง แดร็ก กับ แมนทิส, ฉาก แดร็ก และโซฟา ของ เขา และฉาก ท้ายที่สุด ที่ อดัม ช่วยสตาร์ลอร์ด โดยเอาอย่าง ภาพวาด มีชื่อเสียงอย่าง creation of Adam บอกเลยว่าแต่ว่า ละฉากเป็นขบขันและทําให้ตัวหนังดูไม่ดาร์ค จนถึง เกินความจําเป็น ครับ
รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำเอาคนดูว้าว
นอกเหนือจาก หลักสําคัญเรื่องการทดลองในสัตว์ แล้ว อีกหัวข้อที่เหมือนจะวิบรรยาย วิภาควิจารณ์ โลกยุคใหม่ที่ทําตัวเหมือนกับเป็น พระผู้เป็นเจ้า ผู้กําหนดชีวิตของทุกสิ่ง Guardian of the Galaxy 3 ตัวละคร ไฮ อีโวลูชั่น ผู้หญิง
ที่ดูไปแล้ว ก็ชักชวนให้รําลึกถึงมนุษย์ที่ทดลองยา เครื่องสําอางค์ และอะไรอีกมากมาย ในสัตว์เพื่อคัดสรร สิ่งที่ปลอดภัยแก่ตัว ปรับ เปลี่ยน กรรมพันธุ์เพื่อตรงกับที่พวกเรา อยากได้ ฝึกหัดให้สัตว์เอาอย่าง
คนเพื่อความ รื่นเริงใจ และกําจัดทิ้งเมื่อ ดุร้ายเกินควบคุม เพื่อสร้างโลก ในแบบที่พวกเราอยาก ไม่ ได้ต่างอะไรกับตัวร้าย ใน เรื่องอีกจุดหนึ่งที่ชักชวนให้คิดถึง พระคําภีร์เป็นฉาก การช่วยเหลือเกื้อกูล สัตว์ทั้งปวง
ของ ร็อคเก็ต ที่ทําให้หวนคิดไปถึง เรือ โนอาห์ การต่อสู้และอพยบหลายๆครั้ง ของซุปเปอร์ วีรบุรุษ ทั้งหลายแหล่ว่าชอบจุดโฟกัสที่การช่วยคนทั้งปวง แม้กระนั้นก็ยังมีสิ่งมีชีวิตที่ ถูกลืมไว้ด้านหลัง ในตอนที่โลก ที่บริบูรณ์
ที่จริงนั้นเป็นโลกที่มีทั้งยังมนุษย์และ สัตว์อยู่ร่วมกัน อย่างเช่น เมื่อ ครั้งที่มีน้ําท่วมใหญ่ล้างโลก สิ่งที่ช่วยทําให้สิ่งมีชีวิต ยัง อยู่ถัดไปได้ เป็นเรือโนอาห์ที่ไม่ได้มีเพียงแต่มนุษย์ แม้กระนั้น สัตว์ทั้งหลายแหล่ ใน นั่น ด้วยต่างหาก
รีวิว Guardian of the Galaxy บทส่งท้ายของเหล่าฮีโร่สายเกรียนที่อยู่กับเรามาเกือบ 10 ปี
เรียก ได้ ว่า เดินทาง นานเกือบจะ 10 ปี สําหรับแฟรนไชส์หนัง Guardians of the Galaxy ช่วงเวลานี้ได้สร้าง ภาพจำให้ผู้แสดงนําอย่าง คริส แพตต์ เติบโต อย่างงดงาม ใน ฐานะหนึ่ง ใน ซุปเปอร์วีรบุรุษ ของค่ายมาร์เวล
แฟนคลับต่างจําเขา ในรูปภาพลักษณ์ ของ “ปีเตอร์ ควิลล์” หรือ สตาร์ลอร์ด ชายรูปร่าง ใหญ่โต ที่หลงใหล การฟังเพลง สมัย 70s-80s ผ่านเครื่องเล่นเทป ตั้งแต่ Sony Walkman มาจนกระทั่ง Zune เครื่องเล่น เพลงดิจิทัล
ของ Microsoft ในภาค ปัจจุบัน ทําให้แฟนคลับได้หวนนึกถึงอดีตกาล ผ่านกลิ่นความวินเทจ ต่างๆ ที่ปรากฏ ในหนังการเข้าฉายของ Guardians of the Galaxy 3 end credits ในแต่ละภาค ก็ล้วนมีส่วนทําให้เพลงประกอบภาพยนตร์
และเพลง สมัยเก่ากลับมา ได้รับความนิยมอีกที รวมถึงยอดขาย จานเสียง เทป ค้าง สเซ็ต และยอดสตรีม ไม่งของเพลงต่างๆที่ปรากฏตั้งแต่ภาค 1-3 นับว่าเป็น อีก หนึ่ง การบรรลุผล ของ แฟรนไชส์เรื่องนี้
ที่สร้างคุณลักษณะเด่นได้ทั้งยังด้าน รายละเอียด และเพลงประกอบภาพยนตร์ (Soundtrack) โดยยิ่งไปกว่านั้น ในหนังภาค นี้ ดูได้ว่า Guardians of the Galaxy Vol.3 ขยับมาเลือก ใช้เพลง ได้รับความนิยมใน สมัย 905-2000s ซึ่ง ต่างจาก ภาค ก่อนหน้าที่ผ่านมา
ความรู้สึกหลังรับชม
Guardians of the Galaxy Vol. 3 ภาคจบของแก๊งการ์เดียนที่เป็นผลงาน ท้ายที่สุด ของเจมส์ กัน ทําให้กับมาร์เวล ก่อนที่จะไปรับตําแหน่ง ประธาน DC
ซึ่งคนเขียนเองก็ มุ่งหวังว่านี่จะเป็นภาคจบ ทิ้งทวนที่เจมส์ กัน คงจะตั้งมั่นทํามากที่สุด แม้กระนั้น ผลงาน ที่ออกมากลายเป็นว่าเต็มไปด้วยความไม่สมหวัง หากแม้ภาพรวมของ ตัวหนังจะแอบมี ความซีเรียส
และมีฉากที่เศร้าโศก คู่รัก สัตว์ หน่อยเดียว แต่ว่าเอาจริงเอาจังๆ คนเขียน รู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ถึงกับ ดราม่า หมอง หมองร้องไห้ตับจะแตกอะไรขนาดนั้น ครับ ด้วย เหตุว่า ตัวหนังเพียรพยายาม สลับอารมณ์ให้เหมาะสม
ถูกทางมากขึ้น ทั้งยังจังหวะฮา เหี้ยน ตามแบบฉบับ และจังหวะ หม่นหมองน้ําตาซึม และรวมถึง ผู้กระทํา ระจายเส้นเรื่อง ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วย เช่นเดียวกันน์จะมานะเทปมเรื่องของทุกคน ออกมา
ทิ้งทวนเป็น คราวสุดท้าย แบบไม่กลัวเสียดาย หากแม้เส้นเรื่องหลักจะมีศูนย์กลางอยู่ที่ร็อกเก็ต แต่ว่า สิ่ง ที่สุดยอดของตัวหนังก็เป็น การแบ่งเครื่องปรับอากาศไทม์อันแสนจะยุ่บยั่บ ให้ กับผู้แสดง ทั้งสิ้นได้อย่างสมดุล
และมีจังหวะจะโคน กระทั่ง ทําให้แต่ละเส้นเรื่องไม่ ได้ตีกันเองจนกระทั่งมั่วแหลก แม้กระนั้นราวกับเป็นการรวมทุกเงื่อนของทุก นักแสดง จากทุกภาค มาสรุป และหาทางลง ให้ในภาคนี้ได้อย่างพอดี
หากคุณเบื่อหนังซุปเปอร์ฮีโร่แล้ว สามารถติดตามหนังใหม่ได้ที่นี่ รีวิว Dahmer