รีวิวหนังฝรั่ง Beauty And The Beast (2017) โฉมงามกับเจ้าชายอสูร

วันนี้เรามาแนะนำหนังฝรั่งน่าดู เรื่อง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนต่างรู้จักกันดี หรืออาจจะคุ้นเคยกับหนังเรื่องนี้ดี เนื่องจากหนังเรื่องนี้สร้างมาจากกาตูนดังทางฝั่งยุโรปจากค่าย disney ค่ายดังที่ใครต่อใครต่างก็รู้จักอีกเช่นกัน เอาหละครับ เราจะพาไปรีวิว พูดคุยความรู้สึกหลังรับชม และ สรุปหนังเรื่องนี้ ซึ่งเนื้อหานี้มีสปอยหากเพื่อนๆ ต้องการจะดูหนังแบบเต็มเรื่องสามารถไปรับชมได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์

โฉมงามกับเจ้าชายอสูร Beauty and the Beast เป็นภาพยนตร์เพลง อเมริกันแนวโรแมนติก แฟนตาซี เสี่ยงภัย ในปี คริสต์ศักราช 2017 ดูแล โดย บิล คอนดอน เขียนบท โดย สตีเฟน ชาบอสกี

รวมทั้ง อีแวน สปีลลิโอโทปูลอส อํานวยการสร้าง โดย วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส และก็ แมนด์วิลล์ฟิล์มส์ ภาพยนตร์หัวข้อนี้เป็นภาพยนตร์ที่ใช้คน แสดงจริง รีเมกจาก ภาพยนตร์แอนิเมชันในชื่อเดียวกัน ในปี คริสต์ศักราช 1991

โดยมีการปรับเปลี่ยนให้กับ เทพนิยายของ สมาธิ น์-มารี เลอ แปรงซ์ เดอ โบมง ภาพยนตร์เป็นการรวม ผู้แสดงน่าฝ่าย โดยมีเอ็มมา วอตสัน แล้วก็ แตน สตีเวนส์ เป็นตัวละครหลัก

ร่วมด้วยลุค อีแวนส์, เควิน ไคลน์, จอช แกด, ยวน แม็คเกรเกอร์, สแตนลีย์ ทุชชี, ออดรา แมคโดนัลด์, กูกู เอ็มบาธา-รอว์, เอียน แม็กเคลเลน แล้วก็เอ็มมา ทอมสัน เป็นหน้าที่ สมทบ

โฉมงามกับเจ้าชายอสูร เรื่องย่อ เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ พระราชโอรส ถูกสาปให้เป็นอสุรี (Dan Stevens จาก Downton Abbey) รวมทั้ง ทาสบริวาร ในพระราชวัง ก็ถูกสาปให้เป็นสิ่งของเครื่องใช้ตามค้างแรกเตอร์แล้วก็ identity ของแต่ละคน ตั้งแต่… Lumière (Ewan McGregor จาก Star Wars)

เป็นที่วางเทียน, Cogsworth (Ian McKellen จาก X-Men, The Lord of the Rings) เป็นนาฬิกา, Plumette (Gugu Mbatha-Raw จาก Miss Sloane) เป็นไม้ปัดขน, Madame de Garderobe (Audra McDonald) เป็นตู้ที่มีไว้ใส่เสื้อผ้า, Maestro Cadenza (Stanley Tucci

จาก The Devil Wears Prada) เป็นเปียโน, เด็ก Chip (Nathan Mack) เป็นแก้วกาแฟ, และก็ Mrs. Potts (Emma Thompson จาก Sense and Sensibility) เป็นกากาแฟ โดย พระราชโอรส ยักษ์ และก็เหล่าเราไท

จะกลายเป็นคนมีชื่อเสียง เดิม ได้ก็เมื่อ พระราชโอรส ยักษ์ รู้จักรักจริง รวมทั้งหญิงสาวคนนั้นก็รักตอบ ก่อนที่จะดอกกุหลาบ ดีเลิศ กลีบ ในที่สุด จะเหี่ยวเฉา มิฉะนั้นพวกเขา ควรจะเป็น แบบงี้ตลอดไป

Beauty And The Beast (2017) มีความคล้ายเวอร์ชั่นการ์ตูนที่พวกเราเคยมองกันเกือบทุกอย่าง นับเป็น Live Action ของเหล่าเจ้าฟ้าหญิง ดิสนีย์ อีกประเด็น ที่พวกเรามีความรู้สึกว่ามีความพอดี รวมทั้งเพอร์เฟ็คที่สุด

โดยยิ่ง ไปกว่านั้น ฉากการเต้นรํา ของ สอง พวกเรา ที่เบลล์เต้น คู่กับ พระราชโอรสอสุรีโดยมีเพลง Beauty And The Beast สุดฟิน คลอตาม จนถึงอด ขนลุก กับ ความตระการตา ระดับดาวล้านดวงมิได้

เอาจริงเอาจังๆ ตอนแรกพวกเรา มองดูภาพไม่ออกเลยว่าตัวอสุรี ในการ์ตูนเมื่อออกมาอยู่ในรูปดุจดังเหมือนจริงแล้ว จะเป็นอย่างไร

ซึ่งเพียงพอมา ได้มองเห็นก็แทบ ตบมือให้เลย เพราะว่าเป็นยักษ์ที่ตรงกับในการ์ตูนเป๊ะ ทั้งยังสีขนที่ฟูงาม เค้าหน้า รวมทั้งดวงตาที่ยังคงฉายแววความเป็น พระราชโอรส อย่างเห็นได้ชัด

ลึกซึ้งที่ดิสนีย์เก็บเนื้อหาได้อย่างดี เยี่ยม เอมม่าก็เหมาะสมกับบทของเบลล์ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกลักษณะ อารมณ์ และก็การร้องเพลง

ส่วนสถานที่อย่างภาพ วัง หมู่บ้าน แล้วก็ป่าดงก็เลือก โลเกชั่น ได้งาม เสื้อผ้ากับการแต่งตัวก็ บ่งถึงความเป็น สไตล์ ประเทศฝรั่งเศส

อันเป็นประเทศที่มาเริ่มแรกของต้นฉบับนิทาน Beauty And The Beast บอกเลยว่าไม่สมควรพลาดสามารถไปรับชมได้ที่ รีวิวหนังฝรั่ง

หลังเรียนจบจาก Hogwarts ดูอย่างกับว่า Emma Watson จะไปเด่นเอาดีทาง ทางการศึกษา ทางสังคม แล้วก็ เพื่อสตรี กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณก็สนใจจนถึงจบ Brown University สมกับเป็น Hermione Granger

ถัดมาได้รับเลือกให้เป็น UN Women goodwill ambassador ทั้งยังขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 100 ของผู้มีอิทธิพลที่สุด ในโลก ซึ่งจัดลําดับโดย Timeส่วนทางด้านการแสดงนั้น ก็จําต้องสารภาพว่า ภาพยนตร์ แต่ละเรื่องที่คุณเล่นนั้น ไม่ค่อยปัง สักเท่าไหร่

แม้กระนั้นแฟนคลับของ Emma Watson ก็ยัง ติดตาม มอง ผลงาน ของคุณ โดยตลอดอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง ปัจจุบันอย่าง Beauty and the Beast ซึ่งเป็นหนังใหญ่ จากเทพนิยาย โด่งดัง ใน ดิสนีย์แลนด์

ความสุขของการดูหนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงดิสนีย์ก็คือ ความรักของเธอกับเจ้าชายที่สุดท้ายก็มักจะลงเอยกันโดยจำต้องผ่านอุปสรรคบางอย่างไปก่อน

หนังให้คติความคิดบางอย่างที่ออกจะเป็นการมองโลกในแง่ดี และเป็นประเด็นง่ายๆ ที่เด็กจะหยิบจับต้องได้ และโดยเฉพาะผู้ชมที่เป็นฝ่ายหญิง

แม้จะไม่ถึงขั้นแฟนพันธุ์แท้หนังเจ้าหญิงดิสนีย์ แต่ก็พอเห็นอยู่บ้างว่า หนังมีการหยิบเอามุมมองของฉากต่างๆ ที่ผู้คนจดจำของเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นมาสร้างใหม่

ในแบบคนแสดงแทบจะไม่ต้องเล่าเรื่องราวอะไรเลยก็ได้ เพราะมันแทบจะไม่แตกต่างกันเลย มีความแฟนเซอร์วิสค่อนข้างจริงจัง

โดยสรุป ถ้าไปดู Beauty and the Beast เพลิน ๆ ชนิดไม่คาดหวังว่ามันจะต้องตีความใหม่หรือถ่ายทอดอะไรที่โตไปกว่าการ์ตูน มันก็ดูได้เพลิน ๆ ไม่แย่ ภาพสวย เพลงเพราะ (แม้จะน่าเบื่อบางเพลง) ดูสนุกได้ตามมาตรฐานดิสนีย์

คือเหมาะเป็นหนังครอบครัวหรรษาทั่วไป (ถ้าครอบครัวนั้นไม่ซีเรียสเรื่องมีตัวละครเกย์ในการ์ตูนอ่านะ) ที่แน่ ๆ ผู้หญิงแนวฟรุ้งฟริ้งยูนิคอร์น ใครที่ชอบดูอะไรสไตล์ดิสนีย์ออริจินัลหรือเป็นติ่ง Emma Watson น่าจะชอบถึงขั้นชอบมาก