รีวิว Venom 2 เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด หนังแอ็คชั่น-ไซไฟสุดมัน
นับเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ อีกเรื่องของค่าย Marvel ที่มีเสียงจากนักวิจารณ์ในแง่ลบซะเป็นส่วนมาก ทั้งภาคแรก และภาคสอง แต่สำหรับควาคิดเห็นของคนดูอย่างเรา ที่เป็นแฟนคลับ marvel กลับตาลปัตรมาก เรียกได้ว่าส่วนมากด้วยซ้ำ ที่ชอบ Venom ทั้งสองภาคเลย วันนี้เราจึงจะมา รีวิวหนังฝรั่ง ที่หลาย ๆ คนไม่ควรมองข้าม ส่วนตัวแล้วผมมองว่าเป็นหนังฮีโร่ที่มีสเน่ห์ มีความน่าสนใจกว่าเรื่องอื่น ๆ สำหรับแฟนแท้มาเวล จึงไม่สมควรพลาดเรื่องนี้อย่างยิ่ง หากใครยังไม่ได้ ดูหนังออนไลน์ เรื่องนี้ แนะนำเลยครับ
Venom 2 สานต่อเรื่องราวจากภาคแรกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในปี 2023 มีหนังใหม่น่าดูออกมามากมายไม่ว่าจะ The Mother หรือแม้แต่ Venom 2 ที่มา ในชื่อ Venom: Let There Be Carnage ซึ่ง Venom หรือ เจ้าเอเลี่ยน ปรสิต ก็ยังคงติดอยู่ที่ผู้สื่อข่าว ขี้ แพ้ Eddie Brock (Tom Hardy จาก Mad Max: Fury Road, Inception อื่นๆอีกมากมาย)
เว้นเสียแต่แชร์ร่างกันแล้ว ทั้งคู่ยังเสมอ เหมือนรูม มันข้นเพื่อนรัก ที่ บากบั่นปรับตัวเข้าพบกัน แม้กระนั้นก็มักจบที่การตีกัน ไม่รู้ จักจบสิ้น สําหรับ พวกเรา ความเชื่อมโยงของทั้งคู่ ยอดเยี่ยม ในสิ่งที่ยอดเยี่ยมของแฟรนไชส์นี้
ตัวร้ายหลักของภาคนี้เป็นฆาตกรโรคจิต Cletus Kasady (Woody Harrelson จาก Zombieland, Now You See Me อื่นๆอีกมากมาย) และ Frances หรือ Shriek (Naomie Harris จาก Moonlight)
แฟนสาวมนุษย์กลายพันธุ์ของเขา โดย Kasady ได้รับเลือดเอเลี่ยน ปรสิต จาก Eddie ไปโดยไม่ได้ตั้งอกตั้งใจ เขา ก็เลยได้รวมร่างกับ Carnage ซึ่งมี อําานาจเป็นลูกของ Venom ทําให้เขาเปลี่ยนเป็นคู่ปรับที่สมน้ําสมเนื้อ (?) ของ Eddie & Venom และมีฉากต่อสู้วินาศสันตะโร และการฆ่า ไม่ยั้ง แบบ ไม่คิด และไม่ปราณี ใคร
เรื่องย่อ
สืบต่อ เรื่องราว จากภาคแรก ภายหลัง เอ็ดดี บล็อก อดีตกาล ผู้รายงานข่าว โด่งดัง ได้ ร่วม ดํารงชีวิต ในฐานะคู่ซี้ปราบอาชญากรรม กับ เวนอม ปรสิตจากต่างดาว โดยหน้าที่ การงาน และความข้องเกี่ยวกับ แอนน์
สมัยก่อน คู่หมั้นคู่หมาย สาว ยังคง ตรง ลงเหว ได้แก่เดิม ในภาคนี้ราวกับเขา จะได้โอกาสกลับมารุ่งอีกทีเมื่อเขาได้รับการติดต่อจาก คลีตัส แคสซาดี ฆาตกรโรคจิต โด่งดัง ให้สัมภาษณ์พิเศษ ถึงในตาราง และโน่น แปลงเป็น จุดกําเนิด ของ ความวายป่วงที่ตามมา ไม่สิ้นสุด เพื่อน ๆ สามารถไปติดตามรับชมหนังได้ทาง Venom 2 Bilibili
Venom ภาค 2 กับผู้กำกับคนใหม่ แอนดี้ เซอร์คิส
ในภาคแรก ‘Venom’ (2018) เป็นผลงานการดูแลของ รูเบน เฟลสเชอร์ (Ruben Fleischer) ผู้กํากับ ที่สร้างชื่อจากงาน อย่าง Zombieland’ (2009) โดยเป็นความ พากเพียรที่จะก่อร่างสร้างตัวร้ายจาก จักรวาล
หนัง สไปเดอร์-แมน ที่โซนี่ ถือสิทธิ์ สร้าง หนังเอาไว้ให้ภาพลักษณ์เป็นแอนตี้วีรบุรุษ เพื่อนํามาพบกับ ปีเตอร์ ขว้างร์กเกอร์ หรือ สไปเดอร์-แมน
ฉบับของ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland)หรือ บางทีอาจจะนํ มาทําหนังรวมดาวร้ายอย่าง แก๊ง Sinister Six ในจักรวาล หนัง สไปเดอร์เวิร์สของ ตนเองเอง โกยเงินรับทรัพย์สินถัดไป
และในรูปภาพ รวมจัดว่า หนังภาคแรกก็ไม่ได้เล่นท่ายาก สําหรับในการเล่าเพื่อรับ รับรอง การบรรลุผล ไป แล้ว พอเพียง มาภาคนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลง Venom 2 Netflix ผู้กํากับมาเป็น แอน ดี้ เซอร์คิส (Andy Serkis) ดาราหนัง ที่มีชื่อ
ด้านการปรากฏตัวละคร โม ชัน แคปเจอร์ อย่าง กอลลัม หรือ ซีซาร์ แต่ว่า สําหรับผลงาน ด้าน การควบคุม ยัง จําเป็นต้องพิสูจน์ตัว ต่อไป เพราะว่าผลงานอย่าง ‘Mowgli (2018) นั้นยังเทียบเคียงความสนุกสนาน กับ ฝั่ง ‘’The Jungle Book’ (2016) ของ ดิสนีย์ที่ออกฉาย ก่อนเกือบจะไม่ได้เลย
ความรู้สึกหลังรับชม
สําหรับพวกเรา พวกเรา ค่อนข้างจะชอบ Tom Hardy เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และ พากเพียร รู้เรื่องว่า ภาคแรกมันจะต้องปูเรื่องเยอะแยะหน่อย พวกเราเลย ไม่ถึงกับรู้สึก ไม่ดี กับหนังภาคแรก มันก็พอให้ความสนุกสนาน ในขณะดูได้อยู่ แต่ว่าพอเพียงเวลา ผ่านพ้นไป พวกเราก็จําอะไรเกี่ยวกับหนัง ภาคแรก แทบจะไม่ได้เลย
และหากแม้หนังจะมีประสิทธิภาพที่หนักขึ้นได้ ชั่วร้ายขึ้นได้ เป็นหนังเรต R สุดกําลัง เพราะเหตุว่า เมื่อรวมกับเรื่องที่เวนอม กับ คาร์เนจนั้น ควรจะมีการกินหัว คน ใหม่ๆ โชว์ หน้า กล้องถ่ายภาพ ตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว
ยิ่งในภาคนี้ร่างหลักของ คาร์เนจเป็นฆาตกร โรคจิต ที่ บารมี ความน่าสยดสยอง คงจะมีมากกว่า ตัวร้ายอย่าง ไร ออต ในภาคแรก ที่ อย่างต่ํา ฉากการต่อสู้ของไรออตกับเวนอมมันก็ดุเดือด ยิ่งใหญ่ และตื่นเต้น
นอกเหนือจากนั้น ตัวบทก็นับว่ามีปัญหา พอเหมาะพอควร จากการที่เรื่อง Venom 2 Disney Plus แทบจะไม่มี อะไรเลยเป็น เอ็ดดี้พาเชื้อไปทําให้เคสตัสกลายเป็นคาร์เนจ แล้วก็กลับมาตามล่า เอ็ดดี้เท่านั้น ไม่อะไรหักมุม หรือ แปลกใหม่เลย
เรียกว่าเป็นเส้นตรง แน่ว จนกระทั่ง คน ดู ไม่ต้อง ทายใจ อะไรอีกเลย แถมยังดู การ์ตูน กล้วยๆ มาก ไป ตัวเรื่อง ก็เลยเหลือเพียง ฉากแอ็กชั่นที่คนรอคอย ดูและช่วยกลบรอยแผล ของบทที่ตรงนี้ไป แทนอีกด้วย
Venom 2 หนังที่นักวิจารณ์ไม่รัก แต่คนดูโคตรรัก!
นี่เป็นหนัง แฟรนไชน์ท่า เงินของ โซนี่ ที่นักวิพากษ์วิจารณ์ ไม่รักมา ตั้งแต่ภาคแรก กระทั่งมาถึง ภาค นี้ (จากเว็บไซต์ rotten tomatoes ภาคแรก ได้ 30% ส่วนภาค 2 ได้ 59%) แม้กระนั้นคนดูกลับเทคะแนนให้ตรงกันข้าม
ซึ่งก็ ไม่ สนเท่ห์ใจอะไรเพราะว่า เรื่องราว ใน ภาค แรก กับ ภาคนี้ยังมีแนวทางเดิมๆที่เชื้อเชิญให้นักวิพากษ์วิจารณ์อี้ ส่วนประกอบของแนว แอนตี้ วีรบุรุษ ติดตลก +เลือดสาด จะว่าราวกับเดดพูลก็ไม่ใช่ เนื่องจากว่าเรต ของเรื่องนี้อยู่ที่ PG13 แค่นั้นเอง
ซึ่งไม่มีฉากแหวะกัดเลือดออก ใดๆก็ตาม ทั้งหมดทั้งปวง ซึ่งมันค่อนข้างจะย้อน โต้แย้ง กับ ต้นฉบับ คอมิค ของเรื่องนี้ที่ เน้นย้ํา โหดเหี้ยม เลือดสาด ยิ่ง ภาคนี้การที่เรื่องเน้นไปที่ตัวร้ายคาร์เนจ ที่ฉบับร่าง เป็นฆาตกรโรคจิต
คาร์เนจ โหดเหี้ยม มาก กว่าเวน่อมมากมาย แม้กระนั้น พอเพียง โดน จํากัด ด้วยเรต 13 แบบงี้ ก็เลยเปลี่ยนเป็นตัวเรื่อง ไม่สามารถที่จะไปในหนทางนั้นได้ เต็มกําลัง
หรือ แม้กระทั้ง สัก ครึ่งเดียว ก็บางทีก็อาจจะยังไม่ได้ด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าว คงเดิม มุ่งหวัง ความขาดความกรุณาปรานี จากตัวร้าย ในภาคนี้ก็ว่าต้องผิดหวังกันแน่ๆ
สรุปหลังดู
แม้หนัง Venom 2 จะไม่น่าจดจํา แต่ว่าฉากด้านหลัง เครดิต กลับกลายฉากที่น่าจํา และตื่นเต้นที่สุดของเรื่องเลยก็ว่าได้ และขอใบ้ไว้ล่วงหน้าเลยว่า แฟนหนัง Marvel ควรต้อง ตื่นเต้น กับ สิ่งนี้ ควรจะคอยชม เช่นไรก็ตาม
ในด้านความสนุกสนาน พวกเรา รู้สึกว่า Venom 2 ที่ ดูแล โดย Andy Serkis มีความเพลิดเพลินกว่า Venom ภาคแรก ภายใต้การดูแลของ Ruben Fleischer อย่างน่าประหลาด
ด้วยเหตุว่า Marvel เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น หรือ ด้วยเหตุว่า Tom Hardy ลงมือร่วมเขียนบท และโปรดิวซ์เอง ด้วยหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ แม้กระนั้น ความสนุกสนานที่ว่า ก็ยังไม่มีอะไร ที่น่าจดจำอีกดังเช่นเดิม
เป็นเพียงแต่ความดูเพลิดเพลินกั้นเวลา (ระหว่างรอคอย Spider-Man: No Way Home) หรือ ความเพลิดเพลิน ในระดับหนังเกรดบี แค่นั้น