รีวิว Thor Ragnarok
จริง ๆ การจะดูหนังเรื่องนี้ให้สนุกสมดั่งที่นักรีวิวเมืองนอก หรือแฟน ๆ เขารู้สึกกัน คือการไม่รู้อะไรก่อนไปดูเลย ไม่ควรรู้ว่าหนังจะมาสายตลก ไม่ควรรุู้ว่าหนังจะมีตัวละครนู้นนี้นั้นมาแจม แล้วไปรอรับสิ่งเหนือความคาดหมายจากหนังแบบเต็ม ๆ ดังนั้นใครอยากรู้สึกว้าวจริง ๆ ควรตรงไปโรงดูเลย อย่าเพิ่งไปอ่านรีวิวหรือสปอยล์ที่ไหนครับ แต่ถ้าใครไม่ได้แฟนพันธุ์สดขนาดนั้น อ่านรีวิวไปก่อนก็ทำให้รู้จักตัวหนังมากขึ้นครับ ไม่ผิดอันใด
Thor: Ragnarok หรือในคอมมิคก็คืออีเว้นท์ที่ทำลายล้างเหล่าเทพและแอสการ์ดจนพินาศ กลายเป็นหนังภาคที่ 3 ที่ดำเนินเรื่องโดย ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าเป็นตัวหลัก ต่อจาก Thor (2011) และ Thor: The Dark World (2013) ที่จบด้วยการที่ตัวร้าย โลกิ ปลอมตัวเป็น โอดิน กษัตริย์แห่งแอสการ์ดโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ และถ้าว่ากันตามไทม์ไลน์ของจักรวาลมาร์เวล หนังภาคนี้ก็เป็นการเดินหน้าต่อจาก Avengers: Age of Ultron (2015) ในส่วนของตัวละครหลักอย่าง ฮัลค์ ที่ขึ้นยานทะยานออกสู่อวกาศหลังอาละวาดจนมนุษย์โลกหวาดกลัวไปพร้อมกันด้วย
Thor Ragnarok ศึกอวสานเทพเจ้า : เป็นหนังไตรภาคของเทพเจ้าสายฟ้าสนุกมากดูเพลินไม่อยากให้หนังจบเลย ยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุดเลยก็ได้ การต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าในโหมดบันเทิงไร้ความจริงจังใดๆ ดูหนัง
เรื่องนี้ต้องมีคนแพ้ ต้องมีจุดจบ แต่ไม่ขอดราม่า ไม่มีซีนเรียกน้ำตาให้คนดู เน้นมุกฮารั่วๆ ใส่แบบต่อเนื่องเหมือนดูตลกคาเฟ่ แถมเนื้อหาดูง่ายมากไม่ต้องจำภาคเก่าๆ มาก็ได้ (เพราะเราก็แอบลืมไปแล้ว)
แต่ตรงนี้ก็ต้องบอกไปเลยว่า พอเน้นเอาฮาเอารั่ว ทำให้หนังมันเพี้ยน ๆ ไปเยอะเหมือนกัน ตัวละครทั้งเก่าทั้งใหม่ถูกจับให้ได้ยิงมุกกันถ้วนหน้า จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นคณะเชิญยิ้มกันเลยทีเดียว มันทำให้ความเชื่อในตัวละครที่ถูกสร้าง ๆ มาก่อนหน้าในภาคเก่าถูกทำลายลง มันไม่ค่อยกลมกลืนหรือลื่นไปกันดีนัก ยิ่งบางอย่างที่ภาคก่อนทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจที่โลกิกลายเป็นราชาของแอสการ์ด กลับถูกเอาไปใช้ในภาคนี้อย่างกับแมนดารินในไอออนแมนอย่างไรอย่างนั้น คืออะไรที่ดูจะซีเรียสเกินไปถูกถอดไปแทบหมดเลย และจากบทสัมภาษณ์ผู้กำกับว่ามีการใส่ฉากตลกเข้าไปทำให้จากเดิมหนังยาว 100 นาที กลายเป็น 130 นาทีในปัจจุบัน นั่นเท่ากับแค่มุกเสริมเรื่องอย่างเดียวก็ปาไป 30 นาทีแล้ว นี่น่าจะบอกอะไรได้หลายอย่างทีเดียว ดูหนัง 4k
รีวิว Thor Ragnarok หนัง ธอร์ที่สนุกที่สุด
รีวิวThor Ragnarok คือการพลิกโฉมใหม่ของไตรภาคเทพเจ้าสายฟ้า ในเมื่อเอาดีทางด้านการทำให้มันเป็นแฟนตาซีจ๋าไม่ได้ ก็พลิกเป็นแฟนตาซีคอมเมดี้ไปซะเลย ต้องชื่นชมในความกล้าของมาร์เวลที่เลือกทางนี้ และดึงเอาผู้กำกับสายหนังฮาอย่าง ไทกา ไวตีตี้มาควบคุม ความสนุกของมันจึงทำให้เราแทบอยากจะให้ภาคนี้เป็นภาคแรก แล้วทำเป็นลืม ๆ ภาคก่อน ๆ ไปเสีย แต่ถึงกระนั้นถ้าไม่ได้มาร์เวลคอยคุมความเชื่อมโยงของเนื้อหาเอาไว้ หลายจุดในเทพเจ้าสายฟ้าภาคที่ 3 ก็อาจจะเละเทะไปแล้วก็ได้ ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณจะได้เจอใน Thor Ragnarok
หนังภาคนี้ว่าด้วย ธอร์ ที่ต้องกลับแอสการ์ดมากู้วิกฤตตามคำทำนายที่ชื่อว่า แร็กนาร็อก ซึ่งจะทำลายแอสการ์ดและเหล่าเทพจนสิ้น โดยภัยที่ว่ามาในรูปของราชินีแห่งความตายนามว่า เฮล่า ซึีงได้รับการปลดปล่อยจากคุมขังกลับมา นอกจากนั้นยังมีภัยข้างกายอย่างโลกิคอยแทงข้างหลังตลอดเวลาอีก ธอร์พลาดท่าถูกทำลายอาวุธประจำกายทั้งยังหลุดหายไปในกาลอวกาศจนไปโผล่ยังดาวซาคาร์ที่เป็นสนามกลาดิเอเตอร์จับเอเลี่ยนมาสู้กัน จนจับพลัดจับผลูต้องมาเผชิญหน้ากับสหายเก่าอย่างฮัลค์ที่ลืมเขาจนหมดสิ้น ธอร์จึงต้องหาทางกลับไปแอสการ์ดให้ทันเวลาก่อนทุกอย่างจะสายไป นั่นคือเท่าที่ตัวอย่างหนังบอกเราครับ
งานภาพที่สีสันจัดจ้านและเผ็ดแซ่บ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Thor ภาคนี้ฉีกแนวออกไปจากสองภาคก่อนหน้าเลยก็คือ สีสันที่จัดเต็มจัดจ้านของดาวซาคาร์ ฉากหลักกว่าค่อนเรื่องของภาพยนตร์ ชวนให้นึกถึงสีสันกลิ่นอายเทศกาลโฮลี ของประเทศอินเดียไม่น้อย แม้จะมีบางฉากที่ตั้งใจเปลี่ยนใหม่จนดูไม่เนียนไปบ้าง แต่การดีไซน์งานภาพนั้นน่าสนใจไม่แพ้เรื่องไหน ยิ่งการต่อสู้ไคลแม็กซ์แล้วด้วย งานออกแบบภาพยิ่งทำให้เราได้เห็นความเท่สุดเจ๋งของธอร์ได้มากกว่าภาคที่แล้วหลา ดูหนังออนไลน์ 4k
เรื่องเป็นยังไง
– ธอร์ (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ถูกเนรเทศไปยังสุดขอบจักรวาล กลายเป็นนักโทษโดยปราศจากค้อนคู่ใจ เขาจะต้องหาทางกลับไปยังแอสการ์ดเพื่อหยุดยั้งมหาสงครามที่จะทำลายล้างดินแดนแห่งเทพ และจบสิ้นอารยธรรมแห่งแอสการ์ด ภายใต้เงื้อมมือของวายร้ายคนใหม่ที่ทรงพลังและโหดเหี้ยมที่สุด เฮล่า (เคท แบลนเชตต์) แต่ก่อนอื่นเขาจะต้องเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้แบบฉบับกลาดิเอเตอร์ให้ได้เสียก่อน ซึ่งคู่ต่อสู้ในคราวนี้เป็นถึงหนึ่งในทีมอเวนเจอร์ที่เขาคุ้นเคย…เดอะ ฮัลค์!
ข้อมูลเรื่องย่ออย่างเป็นทางการซึ่ง จขกท. ได้ทำการขออนุญาตใช้แล้ว
ความรู้สึกก่อนดู
– คาดหวังไว้เยอะมาก บวกกับกระแสของนักวิจารณ์ใน Rotten Tomatoes และคะแนนใน IMDb อีกทั้งกระแสจากการฉายรอบสื่อของหนังที่มีทิศทางบวกไปมากๆ เลยยิ่งทวีความน่าดูไปอีก
แต่พอดูจนจบเรากลับรู้สึกเฉยๆแฮะ คือหนังมันก็ดีนะ ไม่ได้แย่อะไร ส่วนตัวคิดว่าหนังเปิดเรื่องมาดี เนือยช่วงกลางเรื่อง และบันเทิงเป็นอย่างมากในช่วงท้า รีวิวหนังฝรั่ง
ภาคที่ดีที่สุดของเทพเจ้าสายฟ้า สนุกมันส์ฮาสมคำร่ำลือ
2 ปีผ่านไปหลังจากเหตุการณ์ใน Avengers: Age of Ultron ธอร์ (โดยคริส แฮมส์เวิร์ธ) ออกผจญภัยเพื่อตามหาเบาะแสของ Infinity Stones จนกระทั่งเขาได้พบว่าอันตรายในชื่อ Ragnarok กำลังคืบคลานมาสู่แอสการ์ด แต่เมื่อเขากลับไปยังบ้านเกิด กลับได้เห็นว่า โลกิ (โดยทอม ฮิดเดลตัน) น้องชายจอมเจ้าเล่ห์ได้เนรเทศ โอดิน (โดยแอนโทนี ฮอปส์กิน) ออกไปและปลอมตัวเป็นบิดาแห่งแอสการ์ดแทน ธอร์จึงบังคับให้โลกิพาไปตามตัวพ่อของพวกเขากลับคืน แต่นั่นทำให้เขาต้องเจอกับเทพีแห่งความตาย เฮลา (โดยเคท แบลนเช็ต) ที่หมายจะยึดบัลลังก์แห่งแอสการ์ดเป็นของเธอ
พวกเขาเข้าปะทะกัน ธอร์ไม่สามารถทำอะไรเฮลาได้แม้แต่น้อย หนำซ้ำค้อนคู่ใจอย่างโยเนียร์ยังถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี ทุกอย่างยิ่งเลวร้ายเมื่อธอร์ถูกซัดหลุดออกจากจักรวาลไปยังดาวซาคาร์ ที่นั่นเขาถูกจับตัวโดย วัลคีรี (โดยเทสซ่า ทอมป์สัน) กลายเป็นนักสู้ที่ต้องเผชิญหน้าเพื่อเอาชนะกับอดีตเพื่อนร่วมงาน ฮัลค์ (โดยมาร์ค รัฟฟาโล) ขวัญใจคนล่าสุดแห่งซาคาร์ เพื่อหาหนทางที่จะกลับไปทวงแอสการ์ดคืน พร้อมตอบคำถามว่าเขาคือเทพเจ้าแห่งค้อน(โยเนียร์) หรือเทพเจ้าแห่งสายฟ้ากันแน่??
หลังธอร์ภาคแรกดูไม่มีจุดเด่นอะไรมากนอกจากความเป็นภาคกำเนิดเทพเจ้าสายฟ้า ภาคถัดมา ‘Thor: The Dark World’ จึงจัดเต็มความบันเทิงมากขึ้นด้วยฉากบู๊ฉวัดเฉวียนและการวาร์ปไปมา จนเรียกศรัทธาคนดูขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง มาคราวนี้ Marvel ผ่าตัดใหม่อีกครั้งด้วยการเพิ่มสีสันให้กับธอร์ผู้เริ่มเบื่อหน่ายกับบทเดิมๆ
ซูเปอร์ฮีโร่สายตลก สีสันฉูดฉาด ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และร็อก
ด้วยลีลาส่วนตัวของผู้กำกับฯ ที่นำความด้นสด ดูหนังออนไลน์ และความตลกโปกฮาคาเฟ่เข้ามาใส่หนังเทพเจ้าหน้าหล่อหุ่นล่ำ ทำให้กลายเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เต็มไปด้วยมุกตลกยียวนกวนประสาทไม่เว้นระยะ แม้ช่วงแรก มุกอาจจะยังไม่ปังเท่าไหร่ ไม่ถึงกับชวนขำกลิ้งได้มากนัก พอจะทำให้หึๆ ได้บ้างแต่ ยอมรับว่าช่วงครึ่งหลัง นั่งหัวเราะกันสนุกไปเลย
ผมเชื่อว่าการดูหนังที่ดีที่สุดคือการไปโดยไม่ชมตัวอย่างหนังมาก่อน เพราะบางครั้งหนังหลายเรื่องนำฉากที่เด็ด ๆ มาไว้ในหนังตัวอย่างจนหมดแล้ว แม้ว่าธอร์ภาคแรกจะไม่เอามันส์มาใส่ในหนังตัวอย่าง และไปเซอร์ไพรส์คนดูด้วยหนังเต็มก็ตาม แต่ผมก็ตัดสินใจไปดูหนังเรื่องนี้ด้วยสิ่งยั่วเย้าจากPosterเท่านั้น ไม่รู้พล็อตเรื่องหรือว่าตัวร้ายเป็นใครอะไรยังไงเลย เมื่อถึงเวลาไปชมมันทำให้ผมตื่นเต้นไม่ใช่น้อยเลยครับ
เมื่อดูจบผมขอบอกสั้น ๆ ได้เพียงคำเดียวว่านี่คือหนังของธอร์ที่ดีที่สุดในบรรดาสามภาคครับ ถ้ามองกันถึงไทม์ไลน์ของจักรวาลมาร์เวลตามสูตร ธอร์ภาคนี้จะมีเนื้อเรื่องต่อจาก The Avengers : Age of Ultron นั่นเอง ในภาคแรกของหนังจะเล่าเรื่องของคุณสมบัติของการครองราชย์และการตกหลุมรักสาวที่โลกมนุษย์ , ภาคสองจะว่าด้วยเรื่องการทำสงครามที่ธีมหนัง จะออกแนวดาร์คซะส่วนมาก ส่วนภาคสุดท้ายจะเล่าถึงการล่มสลายของแอสการ์ด
สิ่งที่ชอบ
– สกอร์ที่ประกอบในหนัง และเอฟเฟ็กต์เสียงในหนัง
– มุกตลก 40% ที่มีในหนัง
– หนังที่เล่นกับภาพ 3D เยอะอยู่
– ฉากต่อสู้ที่ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน
– CG ที่ถือว่าทำได้ดี
– โลกิ กับพฤติกรรมของเขาตลอดทั้งเรื่อง ดูแล้วน่าจดจำ
สิ่งที่ไม่ชอบ
– มุกแป้ก (สำหรับผม) อีก 60%
– หนังเดินเรื่องที่ดาวซาคาร์มากเกินไป แทนที่จะเน้นไปที่เฮล่าที่ยึดครองแอดการ์ดเสียมากกว่า
– มุกตลกที่มาพร่ำเพรื่อจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่หนังกำลังซีเรียส
– หนังขาดมิติของตัวละครอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเฮล่า, Grandmaster และอีกตัวละครหลายๆตัว
– After End Credits ที่..ใส่มาทำไม ของ Spider-Man Homecoming ยังมีอะไรให้น่าจดจำมากกว่านี้