รีวิว The Kill Room (2023) พื้นที่ฆาตกรรม | หนังระทึกขวัญตลกร้าย ดาร์กคอมเมดี้

รีวิว The Kill Room เป็นหนังระทึกขวัญแหวกแนวที่เราไม่ค่อยเห็นมากนักในบ้านของเรา เป็นภาพยนตร์ดาร์กคอมเมดี้ที่กํากับโดย Nicol Paone และเขียนบทโดย Jonathan Jacobson นําแสดงโดย Uma Thurman, Joe Manganiello, Maya Hawke, Debi Mazar, Dree Hemingway, Samuel L. Jackson และนักแสดงสมทบอื่น ๆ อีกมากมาย หากพวกคุณพร้อมกันแล้วไปอ่านรีวิว the kill room (2023) พื้นที่ฆาตกรรม ที่ข้างล่างกันได้เลย

• คะแนน: R (ความรุนแรง|ภาษาที่แพร่หลาย|การใช้ยา)
• ประเภท: ความขบขัน, ลึกลับและระทึกขวัญ
• ภาษาต้นฉบับ: อังกฤษ
• ผู้กํากับ: Nicol Paone
• ผู้ผลิต: Jordan Yale Levine, Jordan Beckerman, Anne Clements, William Rosenfeld, Bill Kenwright, Nicol Paone, Dannielle Thomas, Jason Weinberg, Uma Thurman, Jon Keeyes
• ผู้เขียน : โจนาธาน เจคอบสัน

The Kill Room หรือชื่อภาษาไทย พื้นที่ฆาตกรรม เป็นหนังระทึกขวัญแนวดาร์กคอมเมดี้ ปี 2023 ที่จะพาพวกเราไปติดตามชีวิตของพ่อค้างานศิลปะ (Uma Thurman) ที่ได้ร่วมมือกับนักฆ่าเลือดเย็น (Joe Manganiello) และคุณนายตัวแสบของเขา (Samuel L. Jackson) การร่วมมือกันของทั้ง 3 คนในครั้งนี้ จุดประสงค์คือการฟอกเงิน การร่วมมือกันที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จึงเริ่มต้นขึ้น ให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่จะทำให้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป…

หากใครกำลังลังเลที่จะ ดูหนัง the kill room วันนี้เราจะบอกสิ่งที่หลาย ๆ คนจําเป็นต้องรู้ก่อน ว่า The Kill Room เป็นหนังตลกอาชญากรรมแบบไหน คุณรับได้หรือเปล่า ซึ่งเรื่องราวจะเกี่ยวกับพ่อค้างานศิลปะที่กําลังดิ้นรน (Uma Thurman) ที่เริ่มฟอกเงินและนักฆ่า (Joe Manganiello) ที่กลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงโดยไม่คาดคิด มีความรุนแรงพอสมควร โดยตัวละครถูกฆ่าโดยขาดอากาศหายใจด้วยถุงพลาสติก พวกเขากําลังดิ้นรน และถุงซึ่งต่อมาแสดงเป็นงานศิลปะ เต็มไปด้วยเลือด

นอกจากนี้ยังมีการชกต่อย หักคอ สําลัก และอื่น ๆ รวมถึงความรุนแรงที่อธิบายไว้ในบทสนทนา ชายคนหนึ่งขาย “กางเกงชั้นในสําหรับคนนิสัยเสีย”; หลายคู่แสดงบนราวตากผ้า มีบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องเพศที่รุนแรง และอื่น ๆ มากมาย ตัวละครซื้อ Adderall ที่ผิดกฎหมายจากพ่อค้ายา ทุบยา และสูดดมพวกเขา มีการดื่มสังสรรค์และบทสนทนาเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งถ้าหากคุณยังยืนยันที่จะดูภาพยนตร์เรื่องนี้ สามารถไปติดตามรับชมได้ที่เว็บ ดูหนังใหม่

จากที่เห็นรีวิวมาหลาย ๆ สำนัก ส่วนใหญ่มักจะเห็นคนพูดถึงนักแสดง 2 คนอย่าง Uma Thurman และ Samuel L. Jackson เยอะมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่านักแสดงสองคนนี้เก่งจริง ๆ เป็นนักแสดงที่เคยสร้างความตื่นเต้นให้กับโปรเจ็กต์ที่พวกเขาแสดง เมื่อเร็ว ๆ นี้ความตื่นเต้นนั้นไม่ได้อยู่ที่นั่นเนื่องจากทั้งคู่นอกเหนือจากภาพยนตร์ IP ที่เป็นที่รู้จักยังไม่ได้เลือกโปรเจ็กต์ที่ดีที่สุดสําหรับความสามารถเฉพาะของพวกเขา The Kill Room มอบความหวังอันริบหรี่เมื่อเธอร์แมนและแจ็คสันแบ่งปันหน้าจอในการเสียดสีมืดที่พูดน้อยแต่ตลกเกี่ยวกับโลกของนักฆ่าและศิลปะ แม้จะมีข้อบกพร่อง แต่ The Kill Room ก็นําเสนอเรื่องราวตลกขบขันในโลกศิลปะและจุดอ่อนของอาชญากร พร้อมการแสดงที่สนุกสนานจาก Thurman, Jackson และ Manganiello

เพียงแค่ the kill room เรื่องย่อ ก็สามารถรับรู้ได้เลยว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มีศักยภาพที่ดีในการเสียดสีและอารมณ์ขันที่มืดมน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อยู่ตลอดทั้งเรื่องอย่างแน่นอน ภาพยนตร์เรื่องนี้ดําเนินไปอย่างถูกต้องสําหรับคอลัมนิสต์เกี่ยวกับธรรมชาติของศิลปะ และแม้ว่าจะปฏิบัติต่อศิลปะนามธรรมและศิลปะแบบเอ็กซ์เพรสชันนิสม์ด้วยความดูถูกเหยียดหยาม แต่ก็เป็นประเด็นทั่วไปแต่ก็ยังดีเกี่ยวกับโลกที่ “ชื่นชม” ของศิลปะที่มีชนชั้นสูงเพียงใด

ในขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกว่า The Kill Room สามารถไปได้ไกลกว่านี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้นําเสนองานศิลปะจากมุมมองที่แตกต่างกัน และเริ่มการถกเถียงและโครงเรื่องหลายอย่างที่สามารถยกระดับการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างมาก แต่ส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้ง เรื่องราวสามารถสนุกสนานได้อย่างง่ายดายในการเป็นข้อพิพาทที่มีเดิมพันสูงระหว่างศิลปินและผู้ค้างานศิลปะ (ไม่มากก็น้อยเหมือนที่ Cruella remake ทํา) แต่สิ่งนี้กลายเป็นเพียงเสียงรบกวนพื้นหลังสําหรับอย่างอื่น

แน่นอนว่า The Kill Room ไม่เคยบ่งบอกว่าต้องการเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือวิจารณ์โลกศิลปะอย่างมโหฬาร เพราะมันยังมีโครงเรื่องอาชญากรรมทั้งหมดให้พัฒนาอีกด้วย ปัญหาคือแง่มุมนี้ของหนังก็ไม่เคยเต็มที่ หนังพยายามบอกเป็นนัย แต่คุณไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตของแพทริซตกอยู่ในอันตราย เพราะเข้าไปพัวพันกับเรื่องของหัวหน้าแก๊ง นอกจากนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นนักฆ่าเลือดเย็น แต่คุณไม่เคยรู้สึกว่า Reggie ของ Manganiello เป็นภัยคุกคาม เนื่องจากตัวละครนี้ค่อนข้างมีเสน่ห์และความโหดร้ายของเขา แม้ว่ามันจะถูกมองข้ามไปพอสมควรจากการเนื้อเรื่องอ่านะ

ยอมรับตรง ๆ เลยว่าเป็นหนังตลกอาชญากรรมที่ช่องโหว่เยอะมาก ๆ เรื่องราวที่ไม่ปะติดปะต่อ แต่อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่านักแสดงจะเข้ามามีช่วงเวลาที่ดีและยกระดับภาพยนตร์ให้อยู่ในสถานะ “ไม่เลว” กํากับโดย Nicol Paone The Kill Room ทนทุกข์ทรมานเล็กน้อยจากสไตล์บล็อก โดยมีนักแสดงถ่ายภาพแบบตัวต่อตัว โดยมีการตัดไปมามากมายระหว่างการแลกเปลี่ยน มันสร้างการลบเล็กน้อยราวกับว่าพวกเขากําลังพูดกับตัวเอง (วิธีนี้บางครั้งใช้เมื่อนักแสดงไม่ได้อยู่ในกองถ่ายพร้อมกัน) แต่เมื่อ Paone สามารถจัดองค์ประกอบนักแสดงของเธอในกรอบเดียวกันได้ เธอร์แมนนําความบ้าคลั่งของสกรูบอลมาสู่ตัวละครของเธอ (และยังเล่นฉากโบนัสกับลูกสาวในชีวิตจริงของเธอ Maya Hawke) และดูเหมือนว่าแจ็คสันจะสนุกกับตัวละครที่เล่นโวหารของเขา Manganiello นําหัวใจที่คาดไม่ถึงมาสู่ตัวละครนักฆ่าที่ไม่เต็มใจของเขา และเจนนิเฟอร์ คิมก็เฮฮาในฐานะพ่อค้างานศิลปะที่ค่อนข้างเหนือชั้น มันสนุกที่ได้เห็นนักสะสมงานศิลปะเศรษฐีขี้ขลาด

ในท้ายที่สุด The Kill Room ไม่ใช่ประสบการณ์ที่เลวร้าย แต่อย่างใด แต่ในตอนท้าย คุณจะรู้สึกได้ว่าคุณได้รับการเสนอชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นได้หากตัดสินใจพัฒนาตัวละครต่อไปหรือเพียงแค่ใช้องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งแล้ววิ่งไปกับมัน ประเด็นที่ทําให้เกี่ยวกับศิลปะเป็นสิ่งที่ดีอย่างแน่นอนในการเริ่มต้นการสนทนา อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างพังทลายเมื่อแสดงภาพคนรักศิลปะและอาชญากรว่าเป็นคนหัวสูงหรือไร้เดียงสา ค่อนข้างจะเป็นภาพยนตร์ที่สนุกนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่คาดหวังมากเกินไป

อ่านบทความ รีวิว บ่วงรักซาตาน : ละครไทยแนว ดราม่า โรแมนติก ปี 2018 ได้ที่เว็บ รีวิวหนังฝรั่ง