รีวิว Jason Bourne
เป็นภาคต่อของหนังแฟรนส์ไชส์ที่ได้รับการคาดหวังค่อนข้างสูงมาก เมื่อ Matt Damon กลับมารับบทเดิมที่หลายคนคิดถึง ด้วยความที่ภาค Legacy มันสร้างความผิดหวังในแง่ของตัวละครและเนื้อหาพอสมควร ภาคนี้เลยขอกลับมากู้ชื่อซะหน่อย แต่ก็นะ…เมื่อหนังมันมาไกลขนาดนี้แล้ว การจะเล่นอะไรกับสิ่งเดิมๆ ก็คงไม่ได้น่าสนใจสักเท่าไหร่
หนังเล่าถึงสิบปีหลังจากหายสาบสูญ เจสัน บอร์นยังคงใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน ที่ไอซ์แลนด์ อดีตเจ้าหน้าที่ CIA นิคกี พาร์สันส์ร่วมมือกับคริสเตียน ดาสซอลต์เจาะเข้าไปในระบบของ CIA และพบข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับบอร์น นิคกีนัดพบบอร์นที่กรีซ การเจาะระบบของนิคกีส่งสัญญาณเตือนไปถึงหัวหน้าฝ่ายไซเบอร์ของ CIA เฮเทอร์ ลีและผู้อำนวยการ CIA โรเบิร์ต ดิวอี ซึ่งเมื่อพบว่าทุกอย่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับบอร์น การไล่ล่าครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้น รีวิวหนังฝรั่ง
เจสัน บอร์น ผู้ที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องแล้วทุกอย่าง ไม่สิ เขายังไม่รู้บางอย่างและกำลังสืบหาความจริงในอดีตอยู่ ชีวิตของอดีตสายลับอย่างเขา ได้แต่ร่อนเร่หากินด้วยการต่อสู้ไปวัน ซ่อนอยู่ในเงามืดที่ไม่มีใครมองเห็น ตามก็ไม่เจอ ทั้งที่ก็ไม่ได้ปิดหน้าตาแต่อย่างใด วันหนึ่ง นิกกี้ พาร์สัน แอบลักลอบเจาะระบบเพื่อเก็บข้อมูลบางอย่างไป และถูกเฮเธอร์ ลี เจ้าหน้าที่ซีไอเอสาวสวยตรวจพบเหตุดังกล่าว เธอจึงแจ้งกับ โรเบิร์ต ดิวอี้ ผอ.ซีไอเอ ว่าจะตามล่าทั้งสองคนให้พบ
ก่อนที่จะพูดถึงภาคนี้ ขอพูดเกี่ยวกับเจสัน บอร์นในภาพรวมก่อน เขาคือสายลับจากภาพยนตร์คนแรกเลยก็ว่าได้ที่เรารู้สึกจับต้องได้ในโลกของความเป็นจริง ดูไม่โอเวอร์ ไม่หลุดโลก ไม่มีอุปกรณ์สุดไฮเทค มีแต่ไหวพริบ เซ้นส์การเอาตัวรอดและสิ่งของรอบข้างให้เป็นประโยชน์ และด้วยความที่เจสันถูกหมายหัวโดยการจับตาย ย้ำ จับตายนะครับ โผล่มาคือยิงลูกเดียว ไม่มีฉากปัญญาอ่อนแบบที่พระเอกโดนจับไปมัดแล้วตัวร้ายก็มายิ้มสาธยายแผนการชั่วร้ายให้ฟัง ไม่มีนะครับ และนี่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของหนังชุดเรื่องนี้ เพราะพระเอกจะพลาดไม่ได้เลย พลาดเท่ากับตายสถานเดียว อ่อ และฉากต่อสู้ที่เน้นศิลปะป้องกันตัวจริงๆ ดูดิบๆเถื่อนๆดี และสุดท้ายนักฆ่าแต่ละคนที่ถูกส่งมาฆ่าเจสันไม่ได้กระจอกนะครับ เก่งสัสๆทุกคน และไม่ได้พลาดท่าแพ้พระเอกแบบง่ายๆโง่ๆ นอกจากต่อสู้กันด้วยศิลปะป้องกันตัวแล้ว ยังมีชิงไหวชิงพริบ ชิงเล่เหลี่ยมกันตลอดเวลา
เจสันบอร์นยังแสดงให้เราเห็นอีกว่า สิ่งของรอบข้างที่เราไม่คาดคิด สามารถเปลี่ยนเป็นอาวุธได้หมดถ้าอยู่ในมือของเขา คนเหี้ยอะไรเก่งชิบหาย
ภาค Ultimatum นี้เป็นบทสรุปของเรื่องทั้งหมด เราจะรู้ว่าเจสันบอร์นคือใคร แล้วทำไมถึงต้องโดนตามฆ่าอยู่ตลอดเวลา แค่ช่วงแรกของหนังแม่งก็สนุกแล้ว มาถึงพี่แกก็โชว์ไหวพริบและสติปัญญาอันชาญฉลาดเลย แล้วแบบทุกการกระทำของบอร์นแม่งมีผลกระทบตลอด เป็นภาคที่ ku พูดคำว่า “เหยดดด” บ่อยมาก แถมฉากต่อสู้ที่มันส์กว่าเดิม สะใจกว่าเดิม ยิ่งฉากไล่ล่ากันที่แม่งโคตรระทึก ด้วยมุมกล้องของหนังด้วยแหละเลยรู้สึกถึงความเรียลลิตี้ ทำให้เราไม่รู้สึกเลยว่าหนังมันขี้โม้หรือโอเวอร์เกินจริงเลย ภาคนี้ขอยกให้เป็นหนังสายลับที่ดีที่สุดตั้งแต่ดูหนังมาเลยก็แล้วกัน
รีวิว Jason Bourne ดูหนัง
รีวิว Jason Bourne สายลับมือฉกาจที่กลับมาตามล่าความจริงอีกครั้ง
ส่วนตัวผมว่าแฟรนส์ไชส์ Bourne เป็นอะไรที่บทเขียนดีมากๆ นะครับ มีทั้งความตื่นเต้น ความน่าติดตาม สุดยอดแอ็คชั่น และเรื่องราวที่โยงใยผูกเกี่ยวกันทั้งหมดทุกอย่าง แต่อย่างที่เกริ่นไปแต่ต้น ถ้าหนังถ้าหนังมาไกลถึงภาค 4 แล้ว ก็ควรจะเริ่มมีอะไรใหม่ๆ มาใส่ในเนื้อเรื่องบ้าง แต่กับ Jason Bourne ภาคนี้ หนังกลับเล่นกับประเด็นเดิมๆ คือการเปิดโปงโครงการลับ สืบสาวราวเรื่องไปมาจนสุดท้ายเจอตัวการ ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าหนังต้องจบลงยังไง มันเลยกลายเป็นภาคที่ดูแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากภาค 1-2-3 หรือภาค Legacy เลยแม้แต่น้อย
แต่ฉากแอ็คชั่นซึ่งเป็นข้อดีของหนัง Bourne ก็ยังเป็นจุดแข็งอยู่ แถมยังพัฒนาได้ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ฉากแอ็คชั่นที่ดูสนุก ลุ้นมันส์มากตลอดทั้งเรื่อง เรียกว่าเวลาสองชั่วโมงกว่า ลุ้นกันไม่ติดเบาะ โดยเฉพาะฉากขับรถไล่ล่ากันบนท้องถนนในลาสเวกัส เรียกได้ว่าถล่มเมืองกันเลยทีเดียว อันนี้ต้องยอมรับว่าหนังสนุกได้เกือบ 80% มาจากฉากแอ็คชั่นล้วนๆ
เนื่องด้วยภาคนี้ มีภารกิจเรื่องราวใหม่ๆ เสริมเข้ามา ทำให้ เสน่ห์ของหนังชุด Jason Bourne อาจดรอปลงไป อาทิเช่นการชิงไหวชิงพริบ ระหว่างฝ่ายไล่ล่า กับฝ่ายถูกล่า แต่พอจะเข้าใจอยู่บ้าง การที่ พอล กรีนกราสส์ พยายามแตกเรื่องราวไปมากกว่าจะไล่ล่า เจสัน บอร์น เพียงอย่างเดียว ซึ่งเราอาจจะเห็นเส้นเรื่องคร่าวๆ ในอนาคตของหนังชุดเรื่องนี้ในภาคต่อๆไป รวมไปถึงการเล่าเรื่องที่เนิบนาบบางช่วงทำให้อารมณ์หนังดรอปลงไปพอสมควร ดูหนังออนไลน์
แต่เรื่องความมันส์ในฉากแอคชั่น ยังคงมีให้เห็นอยู่อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ฉากไล่ล่า บนถนนทั้งตอนต้นเรื่องและปลายเรื่อง การตัดต่อภาพที่กระชับฉับไว บวกกับ เสียงดนตรีประกอบที่เร้าอารมณ์คนดู ให้ตื่นเต้นเสพความมันส์กันได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการต่อสู้ด้วยมือเปล่าหรือใช้อาวุธที่อยู่ใกล้ตัวรวมถึงการเอาตัวรอดของเขาในยามคับขัน ที่ยังเป็นเสน่ห์ของ เจสัน บอร์น
เป็นบอร์นภาคแรกที่บทภาพยนตร์ไม่ได้ดัดแปลงจากนิยายของโรเบิร์ต ลัดลัมแล้ว และเปลี่ยนมือเขียนบทจากโทนี่ กิลรอย ขาประจำมาตลอดทั้งไตรภาค Bourne และ Bourne Legacy มาเป็น คริสโตเฟอร์ เราส์ มือตัดต่อขาประจำของ ดูหนัง 4k พอล กรีนกราส ที่โดดมาลองเขียนบทเป็นครั้งแรก และดูเป็นทิศทางใหม่ที่ดี กลายเป็นบอร์นภาคที่ดูง่ายสุด เนื้อหาไม่ซับซ้อนตัวละครไม่มาก ประเด็นหลักของเรื่อง บอร์นยังคงตามหาอดีตของตัวเองที่เกี่ยวพันกับโครงการเทรดสโตน คลำไปจนเจอเงื่อนงำที่เกี่ยวกับการตายของพ่อและตัวร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ไม่พอรอบนี้บอร์นจะต้องเจอกับ แอสเส็ต มือสังหาร CIA จอมโหดที่มีความแค้นส่วนตัวกับบอร์น แอสเส็ต ถือได้ว่าเป็นตัวร้ายที่ทั้งเก่งทั้งดุประสบการณ์ และมีพิษสงพอที่จะทำให้บอร์นเหนื่อยและเจ็บได้ บทแอสเส็ต ได้วินเซนต์ คาสเซิล ดาราฝรั่งเศสฝีมือดีมารับบท ส่วนนางเอกภาคนี้ได้ อลิเซีย วิแคนเดอร์ สาวงานชุกคนล่าของวงการมารับบทเป็นเฮทเธอร์ ลี เป็นหัวหน้าหน่วยไล่ล่าเจสัน บอร์น เธอศึกษาประวัติของบอร์นแล้ว ก็ยิ่งสงสัยว่าบอร์นมีเจตนาร้ายกับ CIA จริงหรือ อลิเซีย ในเรื่องนี้รวบผมสูงแต่งหน้าบางแต่ถือได้ว่าเป็นลุคที่สวยที่สุดของอลิเซีย ที่เคยเห็นบนจอภาพยนตร์มา
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Jason Bourne เป็นหนังที่เหมาะกับคอหนังแอคชั่นสายลับอยู่แล้ว น่าเสียดายที่ผลงานเรื่องล่าสุดจากการแสดงของ Matt Damon กลับไม่สนุกหรือตอบโจทย์ผู้ชมได้เหมือนเดิมอีกต่อไป หนังไม่ได้อ้างอิงจากนิยายต้นฉบับปมประเด็นต่างๆขาดๆเกินๆไป เนื้อหาจึงเหมือนการสร้างประเด็นใหม่ที่ดูไม่น่าตื่นเต้น แฟนหนังบอร์น จะได้เห็นไหวพริบที่ยอดเยี่ยมฉากแอ็คชั่นแบบมือเปล่าของตัวละครนี้อยู่เหมือนเดิม ถ้ารักงานสายลับเรื่องนี้ไม่ควรพลาด
- สายหนังแอ็คชั่นสายลับ
- สายหนังจารชนสุดมันส์
เรื่องย่อ เมื่อนักข่าวาชาวอังกฤษ ชื่อ ไซม่อน ดูหนังออนไลน์ 4k
รอสส์ ได้พบแหล่งข่าวลับเป็นอดีตเจ้าหน้าที่คุมปฏิบัติการในซีไอเอคนหนึ่ง เขาได้กำข้อมูลลับเกี่ยวกับปฏิบัติการของซีไอเอ และเรื่องราวอันดำมืดของ เจสัน บอร์น ทางซีไอเอทราบเรื่องและเตรียมตัวจะเก็บรอสส์ บอร์นได้ทราบข่าวเรื่องรอสส์จากการเขียนคอลัมม์เรื่องเขาในหนังสือพิมพ์ พร้อมแอบติดต่อลับๆกับรอสส์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและเขาอยากทราบแหล่งข่าว เขาต้องคุ้มกันรอสส์จากเหล่าเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ตามหาแหล่งข่าว พร้อมกับภาพความจำในอดีตที่ผุดขึ้นมาใหม่อีกครั้งของเขา ที่จะปลดปล่อยตัวเขาเองได้ในอนาคต
ถึงแม้ว่าพล็อตของหนังจะไม่แปลกใหม่พอเดาได้ เล่าเรื่องอืดบางช่วง ใช้ปมปัญหาในอดีตที่พระเอกจำไม่ได้ค่อยๆเปิดประเด็นคลี่คลายไปเรื่อยๆจนจบ ซึ่งศัตรูก็ยังคงเป็นคนในองค์กรเหมือนเดิมเพิ่มเติม อลิเชีย วิกันดา ที่เข้ามามีบทบาทมากใน CIA เก่งฉลาดเรื่องเทคโนโลยี แต่งานนี้เธอจะช่วยฝ่ายไหนหรือมีแผนอะไรซ่อนอยู่ต้องมาลุ้นกัน
หนังพยายามทำให้ทันสมัยขึ้นใส่การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่เวกัส สอดแทรกการใช้เครื่องมือไฮเทคให้ทันยุคสมัย แต่ก็ไม่ช่วยให้ว้าวมากนัก สิ่งที่ทำได้ดีคงเป็นฉากแอคชั่นมันส์ๆ เน้นปะปนกับคนหมู่มากให้ชุลมุนชวนลุ้นระทึกว่าใครจะรอดหรือร่วง ฉากไล่ล่ากันบนท้องถนนมันดีมากกกก ฟาสแอนด์ฟิวเรียสต้องยอมหลีกทางให้ขับไวขับซิ่งชนย่อยยับ (มีโชว์ให้เห็นในทีเซอร์อยู่บ้าง)
10/10 ปิดไตรภาคได้ดีเยี่ยม คลี่คลายทุกปมในอดีตของบอร์น บทดี เข้มข้น ระอุและระทึกขึ้นเรื่อยๆ มีประเด็นการเมืองเพิ่มเข้ามานิดหน่อย ฉากแอ็คชั่นก็มาสไตล์เดิม อัดกันโคตรสมจริง มีอะไรมาเซอร์ไพร์สระหว่างเรื่องเยอะ ฉากไล่ล่าจับตัวบอร์นในนิวยอร์คตอนท้ายเรื่องทำเอาหัวใจแทบวาย
The Bourne Ultimatum ปิดเกมล่าจารชน คนอันตราย (2007)
ผู้กำกับ Paul Greengrass
เขียนบท Tony Gilroy
นักแสดง Matt Damon, Julia Stiles, Joan Allen, David Stratharin, Scott Glenn