รีวิว don’t breathe 2
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หนังเรื่อง Don’t Breathe ได้สร้างกระแสการบอกต่อถึงความสนุกและความโหดเป็นวงกว้างมาก ทั้งบรรยากาศ ทั้งเนื้อเรื่อง ที่เอาโจรเข้าบ้าน แต่ดันไปเจอจอมโหดเลือดเย็น ทำให้คนดูต้องหันมาเอาใจช่วยโจรให้รอดตายแทน รวมไปถึงบรรยากาศหนัง และตัวบ้านของลุงที่มีอะไรให้ลุ้นให้เล่นทุกอย่าง ทำให้ Don’t Breathe ภาคแรก กลายเป็นหนังที่หลายคนดูแล้วชอบกันมากมาย ปีนี้มีภาค 2 มาฉายแล้ว แต่จากตัวอย่าง เหมือนลุงจะกลับใจนะ
ภาค 2 คุณลุงก็ยังถูกลูบคมอีกครั้งเมื่อมีแก๊งค์โจรบุกมาลักพาตัวเด็กหญิงในความดูแลไป ทางเดียวที่ลุงจะจบเรื่องได้ก็คือต้องออกล่าเพื่อหยุดหยุดลมหายใจโจรที่ยุกเข้ามาให้สิ้น
เรื่องย่อ ‘นอร์แมน นอร์ดสตอร์ม’ (Stephen Lang) อดีตทหารผ่านศึกตาบอด ที่รับดูแลเด็กหญิงคนหนึี่ง พร้อมกับฝึกให้เธอเอาตัวรอด แต่แล้ววันหนึ่ง บ้านของนอร์แมนก็ถูกบุกรุก โดยมีเป้าหมายเป็นเด็กหญิง นอร์แมนจึงต้องคว้าอาวุธและใช้ทุกสิ่งที่มีออกตามล่าอีกครั้ง เด็กสาวคนนี้เป็นอะไรกับนอร์แมน และดูเหมือนพวกเขาจะล่วงรู้อดีตของนอร์แมนแล้วด้วย!
หลังจากที่ลุงบอดได้ฝากความลุ้นระทึก (และน้ำกะทิ) ไว้ในหนังแอ็กชันทริลเลอร์ ‘Don’t Breathe’ ภาคแรกเมื่อปี 2016 โน่น จนสามารถทำกำไรอื้อซ่าได้แบบพลิกความคาดหมาย ฟาดรัว ๆ 157 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างแค่ 10 ล้านเหรียญ มาปีนี้ ลุงบอด ‘นอร์แมน’ กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวการผจญภัยใหม่เอี่ยมและใหญ่กว่าเดิมของลุงบอด ใน ‘Don’t Breathe 2’ หรือ ‘ลมหายใจสั่งตาย 2’ (แต่ไม่มีน้ำกะทิแล้วนะคราวนี้ (555)
หลายปีให้หลังจากเหตุการณ์ในหนังภาคแรก เมื่อนอร์แมนพยายามเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาได้อุ้มชูเลี้ยงดู ฟินิกซ์ (แมดเดอลิน เกรซ) เด็กสาวผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน ชายตาบอดและเด็กผู้หญิงท่ามกลางสภาพแวดล้อมของเมืองที่ทรุดโทรมและสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมในทุกขณะ ทำให้นอร์แมนพยายามเตรียมความพร้อมให้กับฟินิกซ์ในยามที่เกิดเหตุการณ์ร้ายกับเธอ หรือแม้กระทั่งตัวของนอร์แมนเอง
แม้วิธีการเลี้ยงดูฟินิกซ์ของนอร์แมนจะไม่ต่างอะไรจากการฝึกทหารในหน่วยรบ แต่ปัจจัยหนึ่งเมื่อเรามองย้อนกลับไปในชีวิตของตัวละครชายตาบอด เราจะพบว่าชีวิตของเขาคลุกคลีอยู่กับความรุนแรงมาตลอดชีวิต ความรู้ ทักษะชีวิตของเขาจึงวนเวียนอยู่กับการเอาชีวิตรอดด้วยการต่อสู้ทางร่างกาย ไหวพริบ อันเป็นทักษะพื้นฐานของมนุษย์ มากกว่าความรู้ด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สอดรับกับสถานการณ์โลกปัจจุบัน ดูหนัง
รีวิว don’t breathe 2 รีวิวหนังฝรั่ง
จึงไม่น่าแปลกใจนักที่หนังจะเผยให้เห็นว่าตัวฟินิกซ์เอง พยายามมองหา “ชีวิตในวัยเด็ก” แบบเดียวกับที่เยาวชนคนอื่นๆพึงได้รับในช่วงอายุของตัวเอง ผ่านฉากที่เธอกำลังเตร็ดเตร่ในละแวกบ้านมายังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความฝันเพราะเธอยังจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่กับนอร์แมนต่อไป เรื่องราวนับจากนั้นนำไปสู่การต่อสู้สุดมัน และยังเผยให้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของหนูน้อยฟินิกซ์ และของลุงนอร์แมนเอง ซึ่งผมขอไม่เปิดเผยรายละเอียดมากไปกว่านี้เพื่อไม่ให้สปอยล์เรื่องสำหรับคนที่สนใจจะไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูหนังออนไลน์
รีวิว don’t breathe 2 ลมหายใจส่งตาย… กลับมาอีกครั้ง
ทางด้านตัวละครสมทบ ถ้าไม่นับน้องหมาแต่ละตัวที่ร่วมแสดงในเรื่อง ผมค่อนข้างประทับใจบทของน้องฟินิกซ์ (ซึ่งขอบอกไว้ก่อนว่านี่ไม่ใช่ชื่อจริงของตัวละครนี้) ซึ่งมีความฉลาดในแบบที่เด็กวัย 10 กว่าขวบที่ฉลาดจริง ๆ พึงเป็น ไม่ได้ฉลาดเหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็กตามที่บทสั่งให้เป็น
ทว่าพอมาเป็นภาค 2 ฝ่ายที่เผชิญความกดดัน (บ้าง) และความท้าทายคือเพชฌฆาตตาบอดเจ้าเก่า ซึ่งพร้อมใช้ความสามารถสุดโหดแบบเดียวกับภาคแรกเข้าห้ำหั่นศัตรูและปกป้องคนที่รัก Don’t Breathe ในภาคนี้เลยน่าจะมีความหมายต่างออกไป เหมือนจะเป็นคำพูดของลุงนอร์แมนเองนั่นแหละที่บอกพวกตัวร้ายว่า “พวกเอ็งอย่าได้มีลมหายใจอีกเลย”
เรื่องราวในภาคนี้ก็ยังคงเดินเรื่องผ่านลุงบอด ‘นอร์แมน นอร์ดสตอร์ม’ (Stephen Lang) อดีตทหารผ่านศึกสงครามตาบอดสุดแกร่ง ที่เคยลุยเดี่ยวกำจัดโจรปล้นบ้าน 3 คน (และมาพร้อมกับน้ำกะทิ) ในภาคก่อน เหตุการณ์ผ่านมาหลายปี ลุงบอดได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่อย่างสันโดษ พร้อมกับ ‘ฟีนิกซ์’ (Madelyn Grace) เด็กหญิงกำพร้าที่ลุงบอดรับมาเลี้ยงเพราะว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้บ้าน แต่แล้วก็มีเหตุเมื่อเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่มีข่าวแก๊งอาชญากรรมค้าอวัยวะ และพวกมันกำลังมาลักพาตัวน้องฟีนิกซ์ไป ลุงบอดจึงต้องออกโรงตามล่าเพื่อช่วยฟีนิกซ์ให้ได้ พร้อมกับการเผชิญหน้ากับความผิดบาปในอดีตของตัวเขาเองด้วย ดูหนัง 4k
หากเป็นคุณจะเลือกสู้ หรือยอมแพ้
รีวิว don’t breathe 2 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์แนวฆาตกรโหดเลือดสาดหลายเรื่องยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจผู้ชมนานแสนนานหลังหนังจบคือ การที่เหล่าฆาตกรสุดโหดผู้เป็นตัวร้ายประจำเรื่องอยู่ในสถานะลึกลับ คาดเดาไม่ได้ ไม่อาจหยั่งถึง ไม่ว่าจะเป็นนายไมเคิล ไมเยอร์ส แห่งซีรีส์ Halloween นายเจสัน วัวร์ฮีส์ แห่ง Friday 13th หรือ “จิ๊กซอว์” จากซีรีส์ Saw… แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีการทำหนังภาคต่อหรือภาคแยกที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เข้าถึงความคิดจิตใจของวายร้ายเหล่านี้ในฐานะตัวละครเอกบ้าง
แต่ชีวิตสงบสุขดำรงอยู่ได้ไม่นาน วันหนึ่งมีแก๊งโจรกลุ่มหนึ่งมาบุกบ้านลุงอีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่ได้มาขโมยของ ทว่ามาลักพาตัวหนูน้อยฟินิกซ์ แถมยังฆ่าเจ้าหมาของลุงอีก เสือเฒ่าอย่างนอร์แมนมีหรือจะงอมืองอเท้าอยู่เฉย ๆ แกจำต้องงัดทักษะการต่อสู้และการลอบสังหารโดยอาศัยพื้นที่และข้าวของภายในบ้านเป็นเครื่องมืออีกครั้ง ทว่าศัตรูในภาคนี้ก็ไม่ได้ฝีมือกระจอกแบบพวกวัยรุ่นดวงซวยในภาคแรกเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ทำเอาลุงนอร์แมนตึงมือไม่น้อย
แต่ทั้งนี้ทั้งนี้ เราก็ไม่ได้รู้สึกว่า การเพิ่มสกิลและความโหดให้กับฝั่งคู่ปรับ รวมถึงการเพิ่มดีกรีความรุนแรงหรือความสยองของฉากต่าง ๆ รวมถึงการเพิ่มความซับซ้อน มันช่วยทำให้หนังมันสนุกหรือได้ใจคนดูมากขึ้นตรงไหน (โดยเฉพาะผู้ชมที่รักสัตว์ อาจรู้สึกเซนซิทีฟกับหลาย ๆ ฉากเป็นพิเศษ) แล้วพอความซับซ้อนมันไม่เมคเซนส์หรือไม่ชวนเชื่อ
ประกอบกับฝั่งโจรที่แทบไม่มีมิติ มันเลยกลายเป็นหนังที่ไม่สนุกเท่าภาคแรก และอารมณ์หนังมันไม่ต่อเนื่องเมื่อมันมีช่วงว่างเว้นให้คนดู (รวมถึงลุงและโจร) ได้พักหายใจนานเกินไปหน่อย สรุป โหดมากขึ้น เยอะมากขึ้น แต่สุดท้ายไม่มีอะไรเลย…
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน สิ่งที่ทำให้ ประสบความสำเร็จ ณ ตอนนั้น คือความสดใหม่ คนดูรู้สึกมีอารมณ์ร่วมมากกว่า เพราะโจรวัยรุ่นเรื่องนั้นยังพอมีอะไรที่น่าเอาใจช่วย (ใช่ค่ะ เอาใจช่วยโจรมันนี่แหละค่ะ) และถึงแม้คนดูอาจจะรู้มาบ้างจากการอ่านเรื่องย่อหรือดูเทรลเลอร์ แต่คนดูก็เหมือนได้เรียนรู้ศักยภาพอันแสนโหดของชายตาบอดคนนี้และค้นพบความลึกลับซับซ้อนของบ้านของลุงไปพร้อม ๆ กับโจรทั้งสาม นอกจากนี้ พล็อตเรื่องภาคแรกก็ไม่ได้ซับซ้อน เซตติ้งก็จำกัดอยู่แค่ในบ้านของลุง มันจึงมีความกดดัน ลุ้นระทึก และตรึงอารมณ์ได้ดีกว่า
สิ่งที่เปิดเผยได้ และตัวหนังก็ตั้งใจนำเสนออย่างเต็มที่ คือความแตกต่างใหญ่หลวงชัดเจนระหว่างหนังภาคนี้กับภาคแรก หนังภาคนี้ทำให้ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในซีรีส์ Don’t Breathe อย่างนอร์แมน นอร์ดสตรอม เปลี่ยนจากกึ่ง ๆ ตัวร้ายในภาคแรก มาเป็นตัวเอกในภาคต่ออย่างสมบูรณ์ เป็นตัวเอกที่ผู้ชมได้รับรู้ความคิดจิตใจและความรู้สึกมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้ระหว่างชม พวกเราในฐานะผู้ชมสามารถเห็นอกเห็นใจและเอาใจช่วยแกได้อย่างสบายใจ จนแทบจะเป็นคนละตัวละครกับอดีตทหารตาบอดจอมซาดิสต์ในภาคแรก ที่ทำให้คนดูนึกสงสารเหล่าหัวขโมยวัยรุ่นที่ดันเลือกเข้าไปขโมยของในบ้านแก มากกว่าเห็นใจแกที่เป็นเจ้าของบ้านเสียอย่างนั้น ดูหนังออนไลน์ 4k
ผู้กำกับ Rodo Sayagues สลับตัวกับผู้อำนวยการสร้าง Fede Alvarez ชาวอุรุกวัยทั้งคู่เหมือนเป็นการตั้งใจบอกคนดูว่าทิศทางของเนื้อเรื่องเปลี่ยนไป แต่ที่จริงทั้งสองก็เขียนบทร่วมกันตั้งแต่ภาคที่แล้ว ภาคนี้ดูแล้วรู้สึกเหมือนเป็นหนังคนละเรื่อง แต่ใช้ตัวละครชื่อเดิมกับสถานการณ์ใหม่ ที่ว่าต่างกันมากเพราะความสามารถและลักษณะนิสัยของคุณลุงตาบอดที่รับบทโดยสตีเฟ่น แลง ก็แตกต่างกันมากเช่นกัน
ภาคก่อนเป็นวัยรุ่นซึ่งเป็นฝ่ายที่คนดูเอาใจช่วยเข้าไปบุกบ้านลุง ซึ่งอันที่จริงคุณลุงก็มีสิทธิ์ในบ้านของตัวเองและคนที่บุกบ้านลุงก็ต้องถือว่าเป็นคนร้าย แต่หนังก็ได้ตั้งใจให้คนดูรู้สึกว่าคุณลุงร้ายกว่าและเอาใจช่วยเหล่าวัยรุ่นที่ไม่สามารถสู้ลุงได้เลย
แต่ภาคนี้หนังโฆษณาแต่แรกชัดเจนว่าคุณลุงเปลี่ยนจากคนร้ายตามที่คนดูเข้าใจมาเป็นพระเอกเต็มตัวที่จะต้องปกป้องลูกสาวจากบรรดาผู้ใหญ่หลายคนซึ่งเป็นคนที่ร้ายกว่าคนร้ายในภาคที่แล้วมากมายนัก
ในความคิดส่วนตัวเห็นว่า เรื่องนี้สนุกมาก สำหรับคนที่ไม่เคยดูภาคที่แล้วเลยจะชอบได้ไม่ยาก ลุงมีเหตุผล มีความรัก มีเลือดเนื้อ มีความพยายามต่อสู้เพื่อปกป้องเด็กอย่างยากลำบากจากคนร้ายจำนวนมากที่มีวิธีการโหดสารพัด แต่สำหรับคนที่ติดตาจากภาคที่แล้วที่เห็นคุณลุงเป็นมนุษย์เลือดเย็น เก่งขึ้นเทพ มีทักษะนานาชนิด คงจะผิดหวังไม่น้อยที่เห็นคุณลุงเปลี่ยนไปขนาดนี้
ทำให้บางทีรู้สึกลุ้นไม่ค่อยสนุก เราเองก็เช่นกัน จึงลดคะแนนจากภาคที่แล้วที่ให้ 8 เหลือ 7 ในภาคนี้ครับ แต่บางคนก็ชอบภาคนี้มากกว่าภาคที่แล้วนะ เพราะเห็นว่าลุงเป็นผู้เป็นคนที่น่าเอาใจช่วย
อย่างไรก็ตาม ความเก่งกาจในฐานะอดีตนาวิกโยธินของคุณลุงก็ไม่ได้ดรอปลงเลยในภาคนี้ มิหนำซ้ำยังดูเก่งเทพกว่าเดิม หลายฉากทำให้นึกว่ากำลังดูจอห์น วิก ผสมแดร์เดวิล โดยเฉพาะฉากที่ลุงสัมผัสแรงสั่นสะเทือนของน้ำที่เจิ่งนองบนพื้นเพื่อรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของศัตรู