รีวิวซีรีส์ Monarch: Legacy of Monsters – กำเนิดราชันมอนสเตอร์

รีวิวซีรีส์ Monarch: Legacy of Monsters ภายหลัง การต่อสู้ระหว่าง ก็อตซิลลาและเหล่า ไททัน ในเมืองซานฟรานซิสโก โลก ได้รับทราบถึงการมีอยู่ของ ตัวประหลาดยักษ์ จนกระทั่งกําเนิด การเปลี่ยนแปลง ในสังคมขึ้น หลายด้าน monarch legacy of monsters 2023 จะเล่าเรื่องราวของ เคต ที่เริ่มเดินทางมาญี่ปุ่นเพื่อตามหาเค้าเงื่อนเกี่ยวกับ พ่อของเธอ ที่ล่องหน ไป แม้กระนั้น ตรงนี้ เธอกลับได้เจอความลับ ของ พ่อทั้ง ในเรื่อง ครอบครัว และชีวิตการทํางาน กระทั่งชี้ให้เห็นว่าตัวเธอและครอบครัวนั้นเกี่ยวข้องกับเหล่าสัตว์แปลกประหลาดเหล่านี้รวมทั้งหน่วยงาน Monarch มากกว่าที่คิด หากคุณเป็นคนชอบดูหนังแนวนี้ สามารถไปติดตามรับชมดูหนังออนไลน์เรื่องอื่น ๆ ได้ที่ ดูหนังใหม่

รีวิวซีรีส์ Monarch: Legacy of Monsters ใน ‘Monarch: Legacy of Monsters’ ได้ คริส แบล็ก (Chris Black) จาก Star Trek Enterprise’ ร่วมกับ แมตต์ แฟรกชัน (Matt Fraction) จาก Hawkeye’ มารับหน้าที่อํานวยการสร้างด้วยกัน พร้อมความร่วมแรงร่วมมือจาก ฮิโระ มัตสึโอกะ (Hiro Matsuoka) จาก Toho Studio นอกนั้น ยังได้ดาราหนังมากความสามารถ สอง พ่อ ลูก อย่าง เคิร์ต รัสเซลล์ (Kurt Russell) และ ไวแอ็ตต์ รัสเซลล์ (Wyatt Russell) มารับบท ลี ชอว์ ผู้แสดงเดียวกันแต่ว่าคนละช่วงตอนวัย

‘Monarch: Legacy of Monsters’ เลือกเดินเรื่อง ด้วยการเล่าแบบสลับระยะเวลาใน 3 สมัย ซึ่งทําออกมา ก้าวหน้า และมีความใกล้เคียง ไม่ทําให้พวกเรางง ด้วยเหตุว่า ซีรีส์เลือกจุดโฟกัสไปที่กลุ่มนักแสดง หลักเพียงแค่ ไม่กี่ตัว ทําให้พวกเราได้ทราบ จะกับพวกเขา ครั้งละนิด ไป พร้อมด้วยเรื่องราวในอดีต ที่เบาๆเผยออกมา ทั้งใน ส่วน ของ ความสัมพันธ์ ของ ผู้แสดง การเดินทางตามหาร่องรอยของเหล่าไททัน รวมทั้งเรื่องราวที่พวกเขาได้พบเจอขณะนั้น

สิ่งที่น่าดึงดูดอีกอย่าง คือ ซีรีส์เลือกเล่าผ่านมุมมองของคนเรา ทําให้พวกเราได้มองเห็นความใหญ่โต น่าสะพรึง กลัว ของเหล่าสัตว์แปลก ยักษ์ในแบบที่เหมือนจริง มุมกล้องถ่ายรูป ในฉากเดียวกันกับ ภาพยนตร์ แม้กระนั้น ซีรีส์ เลือกเล่าคนละมุมมองก็ทําให้อารมณ์เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ นับว่าท่าออกมาได้น่าดึงดูดอย่างยิ่ง จริงๆ

พรีเซ็นท์ ออกมาอย่างเรียบง่าย แต่ว่า ทําให้พวกเรารู้เรื่อง โลกหลังเรื่องราว G-Day (เหตุที่โลกรับรู้การมีอยู่ของ ก็อตซิลลาและเหล่าไททัน) อีกอย่างก็คือ การคั่นเครื่องหมายต่างๆเข้าไปในเรื่อง ไม่ว่าจะมีลักษณะเป็นเส้น ทาง ย้ายถิ่น รีบด่วนเมื่อเกิดเหตุการณ์ ไททันจู่โจม การซ้อมหนีภัย การผลิต ระบบความปลอดภัย โดยรัฐบาล ไป จนกระทั่ง กลุ่มคน ที่สร้างงาน สร้างอาชีพ จากการเตรียม ต่อกรกับเหล่าไททัน ติดตามบทความรีวิวหนังออนไลน์ได้ที่ รีวิวหนังฝรั่ง

Monarch: Legacy of Monsters เรื่องราวเริ่ม ที่ Cate Adams (Vera Farmiga) ผู้รายงานข่าว ไต่สวนที่ได้รับมอบหมายให้รายงานข่าวสารการ ปรากฏตัว ของ ไททัน ตัวใหม่ในเมืองนอก ช่วงเวลาเดียวกัน พี่ชายของเธอ Andrew (Kyle Chandler) กลายเป็น พวก ของ หน่วยงาน Monarch ซึ่งเป็นหน่วยงานลับที่มีบทบาทเรียนรู้และป้องกันภัยคุกคามจากเหล่าไททัน

เมื่อ Cate เริ่ม สอบปากคําลึกลงไป เธอได้ศึกษาค้นพบความลับที่น่าตกใจเกี่ยวกับ Monarch และมรดก ของ ครอบครัวเธอเอง ซึ่งน่าเธอไปสู่การเดินทางระหว่างชาติที่เต็มไปด้วยอันตราย และการศึกษาค้นพบที่น่าอัศจรรย์ ตลอดทาง Cate และ Andrew จําเป็นต้อง ประจันหน้ากับไททันมากมาย รวมทั้ง Rodan, Mothra และ King Ghidorah ในเวลาเดียวกันก็ จําเป็นต้อง ประจันหน้า กับ การคิดคดทรยศ

นอกจากนี้ซีรีส์ยังเล่ามุมมองที่ในภาพยนตร์อาจไม่ได้เน้นมากนักอย่างอาการ PTSD ของคนที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายหลังเผชิญกับเรื่องราวสยองขวัญในวันที่เหล่าไททันบุกโจมตี ผ่านตัวละครเคตซึ่งเธออยู่ที่ซานฟรานซิสโกในวันที่ก็อตซิลลาปรากฎตัว รายละเอียดตรงนี้อาจเป็นจุดเล็กๆ แต่ถือว่างานละเอียดและทำให้เรารู้สึกว่าซีรีส์เล่าเรื่องได้สมจริง ทำให้ตัวละครดูมีมิติ และทำให้จักรวาล MonsterVerse ดูเป็นจริงและจับต้องได้ยิ่งกว่าเดิม

Vera Farmiga โดดเด่นในฐานะ Cate Adams เธอสามารถถ่ายทอดความฉลาด ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นของ Cate ได้อย่างยอดเยี่ยม Kyle Chandler ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะ Andrew เขาแสดงถึงความขัดแย้งภายในของ Andrew ได้อย่างชัดเจน ซึ่งถูกดึงไปทั้งสองด้านระหว่างครอบครัวของเขาและภารกิจของเขา

ในส่วนของการปรากฎตัวของไทนทันแต่ละตัว ใน 2 ตอนแรกเราไม่ได้เห็นการปรากฎตัวแบบโฉ่งฉ่าง หรือเยอะเกินจำเป็นเลยแม้แต่น้อย เหมือนเหล่าไททันเองก็มี “คิว” ของแต่ละตัว พวกมันปรากฎตัวออกมาได้อย่างเหมาะสมกับการเล่าเรื่องแต่ละช่วง และฉากที่ปรากฎตัวออกมาก็ทำออกมาได้ดี น่าตื่นเต้น ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เชื่อว่าในตอนต่อๆ ไป พวกเราคงได้เห็นไททันหลากหลายมากขึ้นผ่านการเดินทางของกลุ่มตัวละครหลัก

อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเรื่อง monarch legacy of monsters มีกี่ตอน รวมถึงกราฟิกและโปรดักชันที่ขอบอกเลยว่าทำออกมาไม่ผิดหวัง เพราะรายละเอียดของเหล่าไททัน สภาพแวดล้อม เมือง และสถานที่ต่างๆ สวยงามเนียนตาไม่แพ้ภาพยนตร์ มีแม้แต่การต่อสู้กันของไททันและการปรากฎตัวในช่วงกลางวันให้เราได้เห็นด้วย ใครกังวลเรื่องกราฟิกขอบอกว่าสบายใจได้เลย

หลังจากการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ระหว่าง ก๊อตซิล่า และ มูโตะ ที่สร้างความเสียหายให้กับซานฟรานซิสโก และการเปิดเผยที่น่าตกใจว่าสัตว์ประหลาดมีอยู่จริง พี่น้องสองคนที่เดินตามรอยพ่อของพวกเขา ได้ค้นพบความเชื่อมโยงของครอบครัวของพวกเขากับองค์กรลับที่รู้จักกันในชื่อ Monarch เบาะแสนำพวกเขาเข้าสู่โลกแห่งสัตว์ประหลาดและ ท้ายที่สุดก็เชื่อมโยงไปยัง นายทหาร “ลี ชอว์” ที่มีเรื่องราวในช่วงทศวรรษ 1950 และครึ่งศตวรรษต่อมา ที่ที่ Monarch ถูกคุกคามจากสิ่งที่ชอว์รู้

ในโลกแห่งภาพยนตร์ที่มีมอนสเตอร์ยักษ์มากมาย Godzilla ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ทรงพลังและเป็นที่จดจำที่สุด ด้วยร่างกายอันใหญ่โตมหึมา พลังทำลายล้างอันมหาศาล และความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติและความกลัวของมนุษยชาติ Godzilla ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อปมาอย่างยาวนานและ Monarch: Legacy of Monsters ยังคงได้รับความนิยมจากแฟนๆ ทั่วโลก

Godzilla Minus One เป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในแฟรนไชส์ Godzilla ที่ฉายในปี 2566 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานกำกับของทาคาชิ ยามาซากิและนำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมือมากมาย เช่น ซาโตชิ บัตสึมิ ทาเคอุจิ มิยาซาโตะ และฮิโรยูกิ โอโนะ

ภาพยนตร์ Monarch: Legacy of Monsters ดำเนินเรื่องในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นฟูประเทศ สถานการณ์กลับเลวร้ายลงเมื่อมอนสเตอร์ยักษ์ Godzilla ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และมุ่งหน้าสู่โตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น

รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหยุดยั้ง Godzilla แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการอพยพผู้คนออกจากโตเกียว ท่ามกลางความสับสนและวุ่นวาย ผู้คนต่างหวาดกลัวและสิ้นหวัง แต่ก็ยังมีผู้คนบางส่วนที่ไม่ยอมแพ้และพยายามต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของตน

นักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาโตชิ บัตสึมิที่รับบทเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามหาทางหยุดยั้ง Godzilla บัตสึมิถ่ายทอดความรู้สึกสิ้นหวังและความพยายามอย่างไม่ย่อท้อของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ

นักแสดงคนอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ของตนได้ดี เช่นทาเคอุจิ มิยาซาโตะที่รับบทเป็นนักข่าวที่พยายามรายงานข่าวเกี่ยวกับ Godzilla และฮิโรยูกิ โอโนะที่รับบทเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

ในส่วนของการปรากฎตัวของไทนทันแต่ละตัว ใน 2 ตอนแรกเราไม่ได้เห็นการปรากฎตัวแบบโฉ่งฉ่าง หรือเยอะเกินจำเป็นเลยแม้แต่น้อย เหมือนเหล่าไททันเองก็มี “คิว” ของแต่ละตัว พวกมันปรากฎตัวออกมาได้อย่างเหมาะสมกับการเล่าเรื่องแต่ละช่วง และฉากที่ปรากฎตัวออกมาก็ทำออกมาได้ดี น่าตื่นเต้น ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เชื่อว่าในตอนต่อๆ ไป พวกเราคงได้เห็นไททันหลากหลายมากขึ้นผ่านการเดินทางของกลุ่มตัวละครหลัก

หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดของ Godzilla และเหล่า Titans ในเมืองซานฟรานซิสโก พร้อมกับความจริงที่ว่าเหล่าอสูรกายเหล่านี้มีตัวตนอยู่จริง “Monarch: Legacy of Monsters” จะเล่าเรื่องของสองพี่น้องที่ดำเนินตามเส้นทางของพ่อในการสืบค้นความเกี่ยวข้องของครอบครัวพวกเขากับองค์กรลับที่ชื่อ Monarch ซึ่งจะพาพวกเขาเข้าสู่โลกของสัตว์ประหลาดและโลกอันลึกลับกับนายทหาร Lee Shaw (รับบทโดย Kurt Russell และ Wyatt Russell) ทั้งในยุค 1950 และอีก 50 ปีให้หลังที่ Monarch ที่ต้องรับมือกับ Shaw ที่ล่วงรู้ความลับบางอย่างของพวกเขา มหากาพย์ของคนสามรุ่นที่เต็มไปด้วยความลับและเหตุการณ์สุดระทึกจะถูกเล่าขานให้พวกเราได้ชมกันเร็วๆ นี้ ดูหนัง Monarch: Legacy of Monsters

อำนวยการสร้าง : คริส แบล็ก และ แมตต์ แฟรกชัน
ช่องทางรับชม : Apple TV+
ความยาว : 10 ตอน
our score : 7.4

ร่วมติดตามเรื่องราวของแก๊งนักศึกษารักการอ่านงานด้านการเขียนแนวสยดสยองได้ที่ รีวิว Killer Book Club