รีวิว Beast สัตว์-ร้าย
วีเจย์รับบทเป็นวีระ อดีตสมาชิกหน่วยข่าวกรองวิจัยและวิเคราะห์ (RAW) ของอินเดียที่มีไหวพริบ วีร่าเกษียณจาก RAW สิบเอ็ดปีก่อนที่ภาพยนตร์จะฉายในปัจจุบัน: ดูหนังฟรี ในเหตุการณ์ย้อนหลังเบื้องต้น วีร่าได้เป่าระเบิดเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ด้วยเครื่องยิงจรวดโดยไม่ตั้งใจ ฟังนะ ไม่มีทางที่จะทำให้พล็อตนี้ฟังดูบ้าๆ บอๆ น้อยกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้นเรามาแบ่งย่อหน้ากัน โอเค ตอนนี้วีร่ามีความอ่อนไหวเป็นพิเศษเกี่ยวกับเด็ก รีวิวหนังฝรั่ง ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงกลับมาดำเนินการได้อีกครั้งหลังจากที่เขาทำงานให้กับบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ล้มเหลว ดูหนังออนไลน์ รีวิว Beast สัตว์-ร้าย
ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022 ได้ยินเสียงร้องของเด็กที่ทุกข์ใจหลังจากที่ผู้ก่อการร้าย ISS ในรูปแบบ ISIS เข้ายึดห้างสรรพสินค้า East Coast Mall ของเจนไน . ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้โหดเหี้ยม อย่างที่เราบอกได้ว่าหนึ่งในนั้นโบกมือให้ผู้หญิงคนหนึ่งและทำให้เด็กผู้หญิงร้องไห้ชอกช้ำ (เหนือสิ่งอื่นใด) ผู้ก่อการร้ายของ ISS นำโดย Saif (Ankur Ajit Vikal) ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ในภาพยนตร์สวมหน้ากากลาเท็กซ์ที่มีลักษณะคล้าย Anton LaVey และผู้สมรู้ร่วมคิดที่ทรยศของเขาซึ่งเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยที่ไม่มีชื่อของรัฐบาลอินเดีย (Shaji Chen)
ท่ามกลางสัญชาตญาณสัตว์กับมนุษย์ แน่นอนว่าเรามักจะเห็นหนังแนวนี้ผลิตออกมาเรื่อย ๆ แต่ก็ดูได้ไม่เคยเบื่อ โดยเฉพาะเรามักจะได้เห็นการเผชิญหน้าของคนกับฉลามอยู่บ่อย ๆ แต่คราวนี้ลองมาเปลี่ยนโลเคชั่นเป็นบนฝั่งและในป่าดูบ้าง จึงกลายออกมาเป็น “Beast “ หนังระทึกขวัญเร้าใจเรื่องล่าสุดที่ฮอลลิวูดผลิตออกมา ที่บอกเลยว่า..นำพาสูตรสำเร็จแบบเดิมมาไล่เรียง แต่ก็อย่าเพิ่งประเมินค่าต่ำเกินไป
เรื่องราวของ ดร.เนท แดเนียลส์ สามีพ่อม่ายผู้ซึ่งกลับมายังแอฟริกาใต้ สถานที่ซึ่งเขาได้พบกับภรรยาครั้งแรก เขาวางแผนเดินทางระยะยาวกับลูกสาวของเขา พวกเขาเดินทางไปยังเขตสงวนซึ่งจัดการโดย มาร์ติน แบทเทิลส์ เพื่อนเก่าของครอบครัวและนักชีววิทยาสัตว์ป่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การเดินทางเพื่อเยียวยาจิตใจจากความวุ่นวาย กลับกลายเป็นการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว เพื่อเอาชีวิตรอดจากสิงโตผู้รอดชีวิตจากนักล่ากระหายเลือด ซึ่งตอนนี้มองว่ามนุษย์ทุกคนเป็นศัตรู
หลังสูญเสียภรรยาไปโดยโรคร้าย ดร.เนท ตัดสินใจพา เมอร์ และ นอร่า ลูกสาวของเขาไปเยี่ยมเยือน มาร์ติน เพื่อนรักถึงแอฟริกา และในระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวรับประสบการณ์ในป่าสวันนา พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสิงโตนักล่าที่หมายปลิดชีวิตมนุษย์ที่ย่างกรายเข้ามายังถิ่นของพวกมัน งานนี้เนทต้องพาลูกสาวและเพื่อนรักของเขาเอาตัวรอดจากสัตว์ร้ายให้จงได้
ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้ข้างต้นว่า Beast คือหนังที่เหมือนยกเอาหนังสำเร็จรูปมาวาง ๆ ตามช่องให้เป๊ะ ทั้งโครงสร้างและจังหวะของหนัง แทบจะไม่ได้มีความแปลกใหม่และแตกต่างไปจากหนังแนวเอาชีวิตรอดเรื่องก่อนหน้าที่สักเท่าไหร่เลย เพียงแต่ว่ามันกระตุ้นความน่าสนใจขึ้นอีกหน่อย ตรงที่โจทย์ที่ต่างไปจากเก่า สถานที่เกิดขึ้นบนฝั่ง ในป่าแอฟริกา และคู่ต่อสู้กับมนุษย์ด้วยนั้น ก็คือสัตว์เจ้าป่า อย่าง สิงโต มันช่างเป็นอะไรที่ฟังดูออกจะเกินจริงไปสักหน่อย แต่หนังเรื่องนี้กล้าที่สร้างออกมา
นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับชาวไอซ์แลนด์ “บัลทาซาร์ คอร์มาเกอร์” ที่ถูกเหมือนว่าเขาจะติดใจกับงานสร้างหนังที่มีโครงเรื่องเกี่ยวกับสู้กับธรรมชาติอยู่ เห็นได้จากผลงานเรื่องก่อน ๆ ของเขา อย่าง Everest หรือ Adrift ที่ถือว่าเป็นหนังที่มีชะตากรรมติดอยู่กับพลังของธรรมชาติทั้งนั้น และเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นงานที่ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับเขานัก เพราะธรรมชาติครั้งนี้ไม่ใช่สภาพแวดล้อมอีกต่อไป แต่เป็นการเล่นกับจิตวิญญาณของสัตว์แทน
เอาจริง ๆ Beast แทบจะไม่มีเส้นเรื่องอะไรสักเท่าไหร่เลยด้วยซ้ำ เพราะปมประเด็นต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาในหนังนั้น ช่างตื้นเขินและเกือบจะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้ชมด้วยซ้ำ สารภาพแบบตรง ๆ เลยว่าช่วงสัก 10 นาทีแรกของหนัง ที่เกริ่นเรื่องปูทางอยู่นั้นแอบสัปหงกไปเบา ๆ อยู่เหมือนกัน เพราะเดินเรื่องค่อนข้างเนื่อยและเนิบไปสักนิด แต่ก็เป็นแค่จุดนั้นเท่านั้น เพราะเมื่อถึงเวลาที่หนังเข้าสู่ประเด็นหลักของเรื่องอย่างจริงจังแล้ว ก็สร้างความตื่นใจเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
ถึงจะเป็นหนังที่มาด้วยแพ็กเกจสูตรสำเร็จธรรมดา ๆ แต่อย่างประเมินค่า Beast เรื่องนี้ต่ำไป เพราะบอกเลยว่าเวลาชั่วโมงเศษ ๆ ของหนังเรื่องนี้นั้น สามารถสร้างแรงกระตุ้นและความเร้าใจให้กับคนดูได้แบบอยู่หมัด ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ว่าจะไปทางไหนก็ได้ลุ้นกันทุกนาที เป็นวิกฤตที่ทำให้ผู้ชมสามารถจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คอยคิดว่าตัวละครจะแก้ไขสถานการณ์นั้น ๆ อย่างไร และสัตว์ร้ายซ่อนอยู่ตรงไหน
“อิดริส เอลบา” ก็คือนางแบบของหนังเรื่องนี้โดยแท้ แม้ว่าบทบาทของเขาแทบจะไม่ได้มีอะไรตื้นลึกหนาบางสักเท่าไหร่ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของเขา ก็สามารถขับพลังของหนังเรื่องนี้ออกมาได้ดี เป็นทั้งนักสู้ ทั้งหมอ ทั้งพ่อ ทั้งเพื่อน ในคราวเดียวกัน แต่ถ่ายทอดออกมาด้วยลักษณะที่มีความเป็นมนุษย์ มีความบอบบาง และไม่ได้เก่งเกินจริงใด ๆ จุดนี้นั่นเองจึงทำให้กลายเป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้
แม้ว่าหนังจะมีคาแรกเตอร์ที่ทำให้คนดูรู้สึกขัดใจอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะบทสองศรีพี่น้องลูกสาวของตัวละครหลัก เป็นอะไรที่น่ายื่นมือไปหยุมหัวจริง ๆ แต่กระนั้นพวกเธอทั้ง 2 ก็แสดงออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็น “ลีอาห์ เจฟไฟรส์” และ “ไอยาน่า ฮอลลีย์” ถึงบทจะส่งให้ทั้งคู่น่ารำคาญในสายตาคนดูไปอยู่บ้าง แต่ก็ให้อภัย 100% อยู่
ขณะที่งานสร้างและองค์ประกอบต่าง ๆ ของ Beast ถือว่าทำออกมาได้ดี และไม่ได้ดูถูกผู้ชมเลย ไม่ว่าจะเป็นเซ็ตฉากป่าแอฟริกาที่ทำออกมาได้สมจริงดี ขณะที่งานออกแบบเทคนิคพิเศษเจ้าราชสีห์ตัวเอกของเรื่องนี้นั้น ก็ถือว่าได้งานออกมาค่อนข้างละเอียดยิบ สเกลแบบเดียวกับที่เคยเห็นใน The Lion King ฉบับไลฟ์แอคชั่นของดิสนีย์เลยก็ว่าได้ สร้างสรรค์ออกมาได้คมกริบ จนแทบลืมไปเลยว่าเป็นสิงโตซีจี
ในบรรดาหนังระทึกขวัญเกี่ยวกับสัตว์ร้ายที่จ้องเอาชีวิตมนุษย์ พวกฉลาม หรือ จระเข้ ดูจะได้เป็นดาวเด่นของหนังแนวนี้ ด้วยการใช้ประโยชน์ของพื้นที่เป็นแม่น้ำ มหาสมุทร หรือทะเลซึ่งไม่ใช่ที่อยู่ของมนุษย์มาสร้างความลึกลับซับซ้อนและอันตรายตรงข้ามกับพื้นที่บนบกอย่างป่าที่แทบจะไม่ค่อยเป็นโลเคชันหลักของหนังแนวนี้เท่าไหร่ เมื่อลองหาข้อมูลก็พบว่ามีหนังที่เอาสัตว์ป่าอย่างสิงโตมาเป็น มอนสเตอร์หลักของเรื่องเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นเองนับเฉพาะในฮอลลีวูดก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ ดังนั้นการเข้าฉายของ ‘Beast’ เลยเหมือนงานที่ยังไม่ถูกเล่นจน ‘ช้ำ’ มากนักเมื่อเทียบกับหนังทริลเลอร์ในแนว ๆ นี้ และการได้ผู้กำกับอย่าง บัลทาซาร์ คอร์มาเกอร์ (Baltasar Kormákur) ผู้กำกับชาวไอซ์แลนด์ที่มักวนเวียนกับการทำหนังที่มนุษย์ต้องต่อกรกับธรรมชาติมากุมบังเหียนโปรเจกต์นี้
การที่ ‘Beast’ เลือกเล่าเรื่องราวภายใน 93 นาทีสะท้อนถึงความแม่นยำในงานกำกับของคอร์มาเกอร์อยู่ไม่น้อย ทั้งการเลือกเข้าเรื่องเร็วพุ่งสู่จุดขัดแย้งเดินเข้าบทสรุปได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการเล่นกับความลุ้นระทึกในฉากที่เนทต้องเผชิญหน้ากับสิงโตก็ทำได้ดีมาก ไม่ขัดเขินเลย ยิ่งได้ อิดริส เอลบา มารับบทเนทในฐานะพ่อที่มีความผิดบาปและหวังใช้โอกาสนี้ไถ่โทษตัวเองกับลูกก็ทำให้เราอดสงสารและเอาใจช่วยเขาไม่ได้และมันก็สะท้อนแนวคิดหลักของหนังที่มุ่งเปรียบเปรยความเป็น “พ่อ” ระหว่างมนุษย์และสัตว์ป่าได้อย่างเฉียบคม
และนอกจากงานเบื้องหน้าที่เราได้ดูหนังสุดระทึกแล้วงานบทโดย ไรอัน เองเกิล (Ryan Engle) และ แฌร์เม พริเมก ซัลลิแวน (Jaime Primak Sullivan) ก็นับเป็นเรื่องที่ต้องชื่นชมอยู่ไม่น้อย เพราะตัวเรื่องเองก็ไม่ได้พูดถึงแค่เรื่องพ่อกับลูกสาวที่กำลังจะเป็นอาหารของสิงโตเท่านั้น เราเลยเห็นความละเอียดอ่อนทั้งการพูดเรื่องปัญหาพรานเถื่อนล่าสิงโต ที่เป็นที่มาทำให้เกิดสิงโตสัตว์ประหลาดตัวสำคัญของหนัง หรือการสอดแทรกเรื่องราวดราม่าในครอบครัวที่ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวละครไม่น้อยเลยทีเดียว รีวิว Beast สัตว์-ร้าย
แต่กระนั้นสิ่งที่เลี่ยงได้ยากสำหรับบทภาพยนตร์ที่มีประเด็นเยอะแยะขนาดนี้ก็หนีไม่พ้นการที่มันจะแอบโกงคนดูบ้าง ทั้งการให้ตัวละครพ่อรอดจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานได้อย่างบังเอิญเหลือเกิน หรือการที่มันไม่ได้สานต่อเรื่องราวของปัญหาพรานเถื่อนกับการลดลงของจำนวนสิงโตที่อยู่ในแอฟริกา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะครับ เพราะในกรอบเวลา 90 กว่านาทีของหนัง (ตัดเอนด์เครดิตน่าจะเหลือไม่ถึงด้วย) การที่หนังไปโฟกัสประเด็นครอบครัวก็นับว่าเหมาะสมแล้ว
ส่วนที่น่าจะเป็นอุปสรรคที่สุดในการชมคงหนีไม่พ้นตัวละครลูกสาวของ ดร.เนท นี่แหละครับ ด้วยความที่หนังไปเน้นที่ตัวละครพ่อของ อิดริส เอลบา และสีสันของตัวละครมาร์ตินโดย ชาร์ลโต คอปลีย์ (Sharlto Copley) เลยน่าจะยากเหมือนกันที่เราจะอินไปกับตัวละครลูกสาวทั้ง 2 ดังนั้นสิ่งที่ตามมาเลยกลายเป็นพฤติกรรมที่สร้างความรำคาญให้คนดูโดยเฉพาะตัวละคร เมอร์ ของ อิยานา ฮาลลีย์ (Iyana Halley) ที่คนดูน่าจะตั้งป้อมกับเธอที่สุดโดยเฉพาะพฤติกรรมที่เหมือนไบโพลาร์เดี๋ยวก็แขวะพ่อเดี๋ยวก็เป็นห่วงจนหลายคนอดด่าในใจไม่ได้เลย
ถือว่าหนัง แอบสร้างเซอร์ไพรส์และความบันเทิงที่เกินคาดเล็กน้อยในกับผู้ชมอยู่ แม้ว่ามันจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ในงานความคิดสร้างสรรค์ หรือพล็อตและการเล่าเรื่องก็ถูกจับวางด้วยสูตรสำเร็จแบบเดิม ๆ แต่สถานการณ์ของตัวละครในเรื่องนี้ กลายเป็นจุดที่ช่วยบิ้วท์อารมณ์คนดูให้สนุกจับใจได้ตลอดทั้งเรื่อง เผลอ ๆ ตอนลุกออกจากที่นั่งโรงหนัง อาจจะสังเกตได้ว่าที่วางแขนมีรอยจิกเบา ๆ ทิ้งเอาไว้อยู่ก็ได้